ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดคณะกรรมการ กนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาร์พี ระยะ 14 วัน อีกร้อยละ 0.25 ในการประชุมวันพรุ่งนี้ 20 ก.ค.เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ พร้อมมองแนวโน้มดอกเบี้ยอาร์พีปลายปีจะอยู่ที่ร้อยละ 3.50
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า การประชุม กนง.วันพรุ่งนี้ จะมีการตัดสินใจทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินผ่านอัตราดอกเบี้ยอาร์พี 14 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.50 โดยจะเป็นการประชุมรอบที่ 5 ของปี 2548 หลังจากที่ ธปท.ได้มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อครั้งมาแล้วในการประชุม 5 ใน 7 รอบหลังสุด นับจากที่ ธปท.เริ่มวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศมาตั้งแต่การประชุมเดือนสิงหาคม 2547 โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ธปท.จะมีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 2.50 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.75
ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวดมากขึ้น ธปท.ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย แต่เป็นการดำเนินการเพื่อเป้าหมายการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเป็นหลักทั้งเสถียรภาพของระดับราคาและอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนเสถียรภาพทางด้านต่างประเทศ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเห็นว่า การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของ ธปท.ในการประชุม กนง.วันพรุ่งนี้ เป็นการดำเนินการที่มีความเหมาะสม เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มระดับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง และเป็นการส่งสัญญาณให้ประชาชนมีการสะสมการออมเพิ่มขึ้น จะเป็นผลดีต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาวและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ธปท.ยังช่วยดึงดูดเงินทุนไหลเข้าประเทศสุทธิผ่านผลต่างอัตราดอกเบี้ยไทยและสหรัฐที่ไม่ห่างกันรวมทั้งอาจช่วยบรรเทาข้อกังวลที่มีต่อการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลงไปได้บ้าง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า นโยบายอัตราดอกเบี้ยที่มีความเข้มงวดขึ้นของ ธปท. จะเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่องภายใต้ความคาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะสามารถกลับมาขยายตัวขึ้นได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ตามแรงสนับสนุนหลักจากการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นคาดว่า อัตราดอกเบี้ยอาร์พีระยะ 14 วันของไทย จะขึ้นไปอยู่ที่ระดับร้อยละ 3.50 ณ ปลายปี 2548
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า การประชุม กนง.วันพรุ่งนี้ จะมีการตัดสินใจทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินผ่านอัตราดอกเบี้ยอาร์พี 14 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.50 โดยจะเป็นการประชุมรอบที่ 5 ของปี 2548 หลังจากที่ ธปท.ได้มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อครั้งมาแล้วในการประชุม 5 ใน 7 รอบหลังสุด นับจากที่ ธปท.เริ่มวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศมาตั้งแต่การประชุมเดือนสิงหาคม 2547 โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ธปท.จะมีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 2.50 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.75
ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวดมากขึ้น ธปท.ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย แต่เป็นการดำเนินการเพื่อเป้าหมายการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเป็นหลักทั้งเสถียรภาพของระดับราคาและอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนเสถียรภาพทางด้านต่างประเทศ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเห็นว่า การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของ ธปท.ในการประชุม กนง.วันพรุ่งนี้ เป็นการดำเนินการที่มีความเหมาะสม เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มระดับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง และเป็นการส่งสัญญาณให้ประชาชนมีการสะสมการออมเพิ่มขึ้น จะเป็นผลดีต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาวและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ธปท.ยังช่วยดึงดูดเงินทุนไหลเข้าประเทศสุทธิผ่านผลต่างอัตราดอกเบี้ยไทยและสหรัฐที่ไม่ห่างกันรวมทั้งอาจช่วยบรรเทาข้อกังวลที่มีต่อการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลงไปได้บ้าง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า นโยบายอัตราดอกเบี้ยที่มีความเข้มงวดขึ้นของ ธปท. จะเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่องภายใต้ความคาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะสามารถกลับมาขยายตัวขึ้นได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ตามแรงสนับสนุนหลักจากการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นคาดว่า อัตราดอกเบี้ยอาร์พีระยะ 14 วันของไทย จะขึ้นไปอยู่ที่ระดับร้อยละ 3.50 ณ ปลายปี 2548