ก.อุตฯยกไทยฐานลงทุนแม่พิมพ์งัดกลยุทธ์ดึงกลุ่มทุนตั้งโรงงาน

ก.อุตสาหกรรมเปิดโรดแมพพัฒนาอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ระยะ 6 ปี เน้นความเที่ยงตรงสูง และเทคโนโลยีรวดเร็ว โดยดึงเอกชนร่วมปั้นช่างพิมพ์มือโปร ผลิตสินค้าแม่นยำป้อนโรงงานรถยนต์ทุกค่าย ด้าน สศอ.เดินหน้าอัพเดทฐานข้อมูลแม่พิมพ์ สร้างคลัสเตอร์เชื่อมโยงธุรกิจ กระตุ้นต่างชาติทุ่มลงทุนเพิ่ม ตั้งเป้าสิ้นโครงการมียอดขยายลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 250 โรงงาน

นายดำริ สุโขธนัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้สถาบันไทย-เยอรมัน (TGI) เร่งดำเนินโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ในระยะที่ 2 โดยคณะทำงานจัดทำแผนพัฒนาอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ ในระยะ 6 ปี (2547-2552) เพื่อให้อุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับการยอมรับจากตลาดโลกในเรื่องมาตรฐานความเที่ยงตรงสูงและรวดเร็ว สามารถเป็นอุตสาหกรรมสนับสนุนให้กับอุตสาหกรรมมูลค่าเพิ่มสูงโดยเฉพาะแม่พิมพ์ชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นดีทรอยต์ ออฟ เอเชีย

“ อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ยังคงต้องมีการพัฒนาบุคลากรเพิ่มเติมทักษะวิชาชีพช่างพิมพ์เฉพาะด้าน เช่นการออกแบบ การประกอบแม่พิมพ์ และการขึ้นรูปแม่พิมพ์ เพื่อรองรับกับการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมให้ทันต่อภาวะปัจจุบัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งเสริมการสร้างบุคลากรที่มีความสามารถในอุตสาหกรรมนี้ให้มีจำนวนมากขึ้นและพัฒนาอุตสาหกรรมทั้งระบบได้” นายดำริกล่าว

สำหรับแผนดำเนินการในปี 2548 ได้แบ่งเป็น 3 ยุทธศาสตร์ ซึ่งต่อเนื่องมาจากปี 2547 ได้แก่ 1.การพัฒนาบุคลากร จะกำหนดมาตรฐานหลักสูตรพัฒนาบุคลากรช่างพิมพ์ไทย พร้อมทั้งสร้างระบบทดสอบพัฒนาบุคลากรเพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนช่างพิมพ์ที่มีความเชี่ยวชาญ โดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมแม่พิมพ์ไทย บริษัทเอกชน และสถานศึกษาหลายแห่ง ตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างบุคลากรได้ไม่ต่ำกว่า 7,000 คน ภายในปี 2552

2.การพัฒนาเทคโนโลยี จะมุ่งเน้นด้านการสนับสนุนงานวิจัยระหว่างภาควิชาการและภาคเอกชนนำเทคโนโลยีการผลิต CAD/CAM/CAE มาใช้ผลิตแม่พิมพ์ที่มีความเที่ยงตรงสูง เพื่อรองรับกับความต้องการของโรงงานประกอบรถยนต์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องอื่นๆ 3.พัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม โดยเน้นการสร้างภาพลักษณ์อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทยทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มคลัสเตอร์เพื่อเชื่อมโยงธุรกิจในระบบที่จะทำให้เกิดการขยายตัวด้านการลงทุนได้อย่างน้อย 250 โรงงานในไทย และเป็นการผลักดันให้เกิดการรวมตัวกันส่งออกสินค้าทดแทนการนำเข้า ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทยจะต้องมีมาตรฐานสูงทั้งในด้านคุณภาพและความรวดเร็ว รวมทั้งเป็นที่ยอมรับในตลาดสากล

ด้านนางชุตาภรณ์ ลัมพสาระ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ร่วมกับสถาบันไทย-เยอรมัน ได้ดำเนินโครงการพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ ซึ่งขอบข่ายการทำงานนอกเหนือจากการสร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรม ยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่มีอยู่ให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ การสร้างตราผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้แม่พิมพ์ในประเทศ การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และสร้างกลไกการรับงานจากต่างประเทศ ในส่วนแผนการสร้างภาพลักษณ์อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ ในเบื้องต้น สศอ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปจัดนิทรรศการในประเทศเวียดนามและสิงคโปร์ เพื่อเผยแพร่ผลงานความก้าวหน้าในการพัฒนา เทคโนโลยีอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทยสู่ต่างประเทศ และกำลังดำเนินการประชาสัมพันธ์ภายในประเทศด้วย

ทั้งนี้ การจัดทำระบบฐานข้อมูลตามยุทธศาสตร์การเชื่อมโยงแบ่งการสำรวจออกเป็น 1.ข้อมูลเกี่ยวกับโรงงาน 2.ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี เช่น เครื่องกลึงควบคุมแบบอัตโนมัติ เครื่องกัดควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และกลุ่มเครื่องมือวัดขนาด สำรวจค่าความละเอียด เป็นต้น 3.ข้อมูลเกี่ยวกับบุคลากร 4.ข้อมูลเกี่ยวกับแม่พิมพ์ และ 5.การจัดทำโครงสร้างฐานข้อมูล และระบบซอฟต์แวร์ควบคุมระบบฐานข้อมูล

อย่างไรก็ตาม การได้มาซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะต้องได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนในการสนับสนุนข้อมูล จึงจะมีข้อมูลที่แท้จริงและส่งเสริมผู้ประกอบการได้อย่างตรงจุด