xs
xsm
sm
md
lg

เร่งอินเดียแก้ปัญหาเรดเทป-ภาษีสูง หวั่นสูญข้อได้เปรียบอุตฯ ชิ้นส่วนรถ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี – บรรดาเจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์ชี้ปัญหาความยุ่งยากในระบบราชการ อัตราภาษีสูง และกฎหมายแรงงานที่เข้มงวดในอินเดียเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของแดนภารตะ ซึ่งกำลังกลายเป็นฮับระดับโลกในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์

ผลการศึกษาร่วมกันระหว่างแมคคินซีย์ แอนด์ คอมพานี และสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อินเดียเผยว่า รายได้ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนของอินเดียนั้นมีศักยภาพเติบโตได้ถึง 5 เท่า เป็น 40,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2015 โดยครึ่งหนึ่งจะมาจากการส่งออก

คิโยมิจิ อิโต กรรมการผู้จัดการจากโตโยต้า เคอร์โลสการ์ ออโต้ พาร์ตส์ ซึ่งโตโยต้า มอเตอร์ถือหุ้นอยู่ 64% กล่าวว่า อินเดียมีข้อได้เปรียบสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในเรื่องขนาดตลาดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่มาก ด้วยประชากรกว่า 1 พันล้านคน และยังเป็นฐานที่มั่นแข็งแกร่งของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มากกว่า 800 ราย ตลอดจนประชากรยังสามารถพูดภาษาอังกฤษได้

“ทว่าปัญหาความล่าช้าในระบบราชการเป็นอุปสรรคใหญ่ของอินเดีย ทำให้ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้รับการอนุมัติในเรื่องต่างๆ จากรัฐบาล”

“อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานหลายอย่าง เช่น พลังงาน สนามบิน ถนนหนทางมีสภาพย่ำแย่ กฎหมายแรงงานก็มีความเข้มงวดมาก นับเป็นเรื่องน่าขันที่ยังจ้างพนักงานที่ไม่ยอมทำงานหรือไม่มีประสิทธิภาพไว้ นั่นเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลเลย” เขากล่าว

อิโตแจงต่อว่า ขณะนี้ประเทศอื่นๆ อย่างจีน โปแลนด์ และตุรกี กำลังเข้ามาแข่งขันกับอินเดียมากขึ้น ดังนั้นการเพิ่มขึ้นของค่าแรงอาจทำให้อินเดียสูญเสียข้อได้เปรียบที่มีอยู่ไป

ทั้งนี้นับแต่อินเดียเปิดเสรีด้านเศรษฐกิจในปี 1991 เป็นต้นมา มีผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ระดับโลกหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ เจเนอรัล มอเตอร์ส ฟอร์ด เดมเลอร์ไครสเลอร์ ฮุนได เรโนลต์ และโรลล์รอยซ์ซึ่งต่างพยายามแข่งขันกันที่จะเข้าจับตลาดแห่งนี้

ตัวอย่างเช่น อัลเบิร์ต ฮีโรนิมูส กรรมการผู้จัดการมอเตอร์ อินดัสทรีส์ คอมพานี ซึ่งโรเบิร์ต บอสช์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถจากเมืองเบียร์ถือหุ้นอยู่ 60.5% เผยว่าบริษัทมีแผนที่จะเข้าลงทุนในอินเดียเป็นเงิน 217 ล้านดอลลาร์ เพื่ออาศัยข้อได้เปรียบของตลาดยานยนต์ที่กำลังเติบโตรวดเร็ว

“อินเดียเป็นผู้เล่นชั้นนำด้านการเอาต์ซอร์สชิ้นส่วนในภาคธุรกิจยานยนต์ ดังนั้นการมุ่งเน้นด้านวิศวกรรม การออกแบบ และคุณภาพจะทำให้อินเดียมีข้อได้เปรียบด้านการผลิตมากขึ้น” เขากล่าว

ฮีโรนิมูสแจงว่า “ค่าใช้จ่ายด้านการออกแบบชิ้นส่วนยานยนต์ในอินเดียคิดเป็นเพียง 1 ใน 12 ส่วนของตลาดสหรัฐฯ และยุโรป และต้นทุนในการผลิตก็คิดเป็นเพียง 1 ใน 10 ของสหรัฐฯ เท่านั้น”

ด้านวิษณุ มาเธอร์ ประธานสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อินเดียกล่าวย้ำว่า เหล่าผู้ผลิตกำลังมองหาประเทศกำลังพัฒนาอย่างอินเดียเพื่อลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากรถยนต์มีราคาสูงขึ้นจากติดตั้งระบบความปลอดภัยและการปล่อยควันแบบใหม่ รวมไปถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ระดับไฮเอนด์

อย่างไรก็ดี เขามีความเห็นเช่นเดียวกันกับอิโตว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวของอินเดียกำลังตกอยู่ในอันตราย ทำให้อาจสูญเสียศักยภาพในการแข่งขันอันเข้มแข็งนี้ไปได้

เขาชี้ว่า “ปัญหาความล่าช้าในระบบราชการและค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจที่นี่เพิ่มมากถึง 18-20% เมื่อเทียบกับจีนและไทย นอกจากนี้ภาษี ค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และภาษีท้องถิ่นต่างๆ ยังมีระดับสูง”

“อินเดียไม่มีการส่งเสริมด้านการเพิ่มคุณค่าเนื่องจากโครงสร้างภาษีไม่เอื้ออำนวย ตัวอย่างเช่น ขณะที่ประเทศไทยมีภาษีนำเข้าวัตถุดิบเพียง 0-5% อินเดียกลับมีมากถึง 5-15%”

เค วี ซับไบอาห์ กรรมการผู้จัดการของไทโค อิเล็กทรอนิกส์ อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ทิ้งท้ายว่า สิ่งท้าทายหลักของอินเดียคือการรักษาข้อได้เปรียบด้านต้นทุนให้คงอยู่ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น