xs
xsm
sm
md
lg

บ.บัตรเครดิตเอเชียรับข้อมูลลูกค้ารั่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - ผลกระทบจากการล่วงละเมิดข้อมูลครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ กรณีการรุกล้ำเข้าสู่ฐานข้อมูลผู้ถือบัตรเครดิตกว่า 40 ล้านคน บานปลายมาถึงญี่ปุ่นและฮ่องกงแล้ว ขณะที่เสียงเรียกร้องให้ทางการวอชิงตันเข้าแทรกแซงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

จอห์น เพอร์รี ประธานการ์ดซิสเต็มส์ บริษัทประมวลผลข้อมูลในรัฐแอริโซนา ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ว่า แฮกเกอร์เจาะเข้าถึงข้อมูลผู้ถือบัตรเครดิต 40 ล้านราย แต่ที่ถูกขโมยไปจริงมีเพียง 200,000 รายเท่านั้น และว่าบริษัทเก็บข้อมูลผู้ถือบัตรไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัย แม้ทำธุรกรรมเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม ซึ่งถือว่าละเมิดกฎที่ตกลงไว้กับวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด และต่อไปบริษัทจะไม่ทำเช่นนั้นอีก

ทั้งนี้ ลูกค้า 22 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบคือผู้ถือบัตรวีซ่า และอีกเกือบ 14 ล้านคนคือสมาชิกบัตรมาสเตอร์การ์ด ส่วนลูกค้าของอเมริกัน เอกซ์เพรส และดิสคัฟเวอรีได้รับผลกระทบเพียงกลุ่มเล็กๆ

ด้านมาสเตอร์การ์ดและวีซ่ากล่าวว่า การ์ดซิสเต็มส์หมิ่นประมาทโครงสร้างความปลอดภัยของพวกเขา แต่ก็ยืนยันว่าได้ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อให้มั่นใจว่าบัญชีของลูกค้าได้รับการปกป้องปลอดภัยที่สุดเท่าที่สามารถทำได้

ขณะเดียวกัน ที่ญี่ปุ่นวันจันทร์ที่ผ่านมา (20) บริษัทการเงิน ยูเอฟเจ การ์ด เปิดเผยว่าผู้ถือบัตรเครดิตของบริษัทส่วนหนึ่งตกเป็นเหยื่อการทำธุรกรรมผิดกฎหมาย ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าสืบเนื่องจากการขโมยข้อมูลครั้งล่าสุดในสหรัฐฯ

นอกจากนั้น ยังมีบริษัทบัตรเครดิตอีกหลายแห่งในญี่ปุ่นที่ลิงค์กับมาสเตอร์การ์ด อาทิ นิปปอน ชินปัน, ดีซี การ์ด, โอเอ็มซี การ์ด, ยูซี การ์ด และนิโก้ส์ การ์ด รายงานว่าข้อมูลของลูกค้าอาจรั่วไหลสืบเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน

ที่ฮ่องกง สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์, เอชเอสบีซี, แบงก์ ออฟ ไชน่า, ฮั่งเส็ง แบงก์ และแบงก์ ออฟ อีสต์ เอเชีย ระบุว่าได้รับแจ้งจากวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดว่าข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า "กลุ่มเล็กๆ" อาจรั่วไหล

ถัดมาในออสเตรเลีย เอบีซี เรดิโอรายงานวานนี้ (21) ว่า ผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ดราว 50,000 คนและวีซ่า 77,000 คนอาจถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

มาสเตอร์การ์ดเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (17) ว่ามีผู้ที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ผู้หนึ่งรุกล้ำเข้าเครือข่ายของการ์ดซิสเต็มส์ ขณะที่เจ้าตัวบอกว่า แจ้งให้สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม

กรณีดังกล่าวถือเป็นการล่วงละเมิดข้อมูลของลูกค้าครั้งร้ายแรงที่สุด ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่การขโมยข้อมูลจำเพาะส่วนบุคคลในสหรัฐฯ

ชาร์ลส์ ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต ที่สนับสนุนการออกกฎหมายจัดการกับการขโมยข้อมูลจำเพาะส่วนบุคคล กล่าวว่ากรณีของการ์ดซิสเต็มส์ถือเป็นฟางเส้นสุดท้าย

"ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการเงินของผู้บริโภคเป็นเสมือนทองคำในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเราจำเป็นต้องปกป้อง"

อย่างไรก็ดี มาสเตอร์การ์ดให้ความมั่นใจกับลูกค้าว่า ผู้ที่ล้วงคอการ์ดซิสเต็มส์ไม่สามารถเข้าถึงหมายเลขสวัสดิการสังคม ซึ่งถือเป็นศูนย์เก็บรักษารหัสข้อมูลจำเพาะส่วนบุคคลแห่งชาติของสหรัฐฯ และเป็นถ้วยศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าแฮกเกอร์หมายปอง
กำลังโหลดความคิดเห็น