นำเชาเดินเครื่องเข็น “ชินมัย รสสาหร่ายปรุงรส” รุกทำการตลาดรูปแบบใหม่ ยกเครื่องสินค้าครั้งใหญ่ ทวงตำแหน่งแชมป์ขนมข้าวอบกรอบกลับคืนจากโดโซะ หวังครองส่วนแบ่งตลาด 35% มียอดขายทะลุ 350 ล้านบาทในปีนี้
นายเควิน ลี ผู้จัดการทั่วไปบริษัท นำเชา (ประเทศไทย) จำกัด และรองประธานกลุ่มบริษัท นำเชา ไต้หวัน ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากข้าวหอมมะลิไทยภายใต้ชื่อ “ชินมัย” เปิดเผยว่า การเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวในปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวม 12,000 ล้านบาท และเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ประกอบกับผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม หรือขนมขบเคี้ยว ส่งผลให้บริษัทเร่งออกผลิตภัณฑ์ขนมข้าวหอมมะลิอบกรอบรสชาติใหม่ “ชินมัย รสสาหร่ายปรุงรส” เข้ามาทำตลาดเสริมทัพ
ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมแผนงานทางการตลาด กระตุ้นยอดขาย และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายหลัก ตั้งแต่นักศึกษาจนถึงวัยทำงาน ชาย-หญิง อายุระหว่าง 18-25 ปี หลังพบว่าขนมขบเคี้ยวรสสาหร่ายเป็นที่ต้องการของตลาดค่อนข้างสูง เป็นรสชาติที่คนไทยชื่นชอบเป็นพิเศษ เนื่องจากกระแสความนิยมอาหารญี่ปุ่นในกลุ่มคนไทยซึ่งกำลังมาแรง และมั่นใจว่าชินมัยรสสาหร่ายปรุงรสจะต้องได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทั้งนี้เพราะความหอมของสาหร่ายและรสชาติที่ถูกปากคนไทย ทั้งรสเปรี้ยว หวาน เผ็ด กลมกล่อมติดปลายลิ้น
บริษัท นำเชา (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้ทำการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ชินมัยครั้งใหญ่ ทั้งการปรับเปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์ ปรับภาพลักษณ์สินค้า ปรับปรุงรสชาติใหม่ให้อร่อยน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น รุกทำการตลาดรูปแบบใหม่ ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างจุดยืนให้กับผลิตภัณฑ์ข้าวอบกรอบตราชินมัย
รวมทั้งออกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ล่าสุด ชุด “ชิมมั้ย ชินมัย อร่อยมาก อยากให้ลอง” ซึ่งจะเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันยังได้จัดกิจกรรมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ภายใต้แนวคิดเดียวกัน ที่โรงภาพยนตร์เอสเอฟ มาบุญครอง
พร้อมกันนี้ยังจะมีการแจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่างชินมัยรสสาหร่ายปรุงรส ให้ผู้บริโภคได้ทดลองรับประทาน จำนวนกว่า 500,000 ชิ้น ตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ด้วยงบประมาณส่งเสริมการขายรวมกว่า 150 ล้านบาท เพื่อสร้างตราสินค้าชินมัยให้เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับในหมู่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย โดยตั้งเป้าหมายว่าในปีนี้ผลิตภัณฑ์ขนมข้าวหอมมะลิอบกรอบชินมัยจะสามารถบรรลุเป้าหมาย มีส่วนแบ่งตลาด 35% หรือมียอดขาย 350 ล้านบาท ในตลาดขนมข้าวอบกรอบอย่างแน่นอน” นายเควิน ลี กล่าว
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดในปีนี้ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งแบบครบวงจรให้กับตราสินค้า มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง พัฒนาการผลิต เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดผลิตขนมในระดับสากล พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าทางธุรกิจ พัฒนาความสัมพันธ์กับพนักงาน และมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งนับจากนี้ไปบริษัทฯจะทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น
“ปี 2548 บริษัทจะมุ่งมั่นส่งเสริมการทำตลาดกับสินค้าตราชินมัยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้ชินมัยกลับมาผงาดในฐานะผู้นำของตลาดขนมข้าวอบกรอบอีกครั้ง เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมายังขาดความต่อเนื่องในการทำตลาด และขาดความชัดเจนในจุดยืนของตราสินค้า ประกอบกับการแข่งขันในตลาดขนมขบเคี้ยวเมืองไทยดุเดือดและรุนแรงมาก ดังนั้นชินมัยต้องมีความเข้มแข็งและชัดเจนในจุดยืนที่มุ่งเน้นคุณภาพ ความอร่อย ความสดใหม่ ความหลากหลายทั้งชนิดและรูปแบบ เพื่อสร้างความมั่นใจและความเชื่อถือให้กับผู้บริโภค” นายเควิน ลี กล่าว
นายเควิน ลี ยังกล่าวต่อไปอีกว่า การบุกทำตลาดของขนมข้าวหอมมะลิอบกรอบชินมัยรสชาติใหม่สาหร่ายปรุงรส ในครั้งนี้ นอกจากต้องการทวงตำแหน่งแชมป์คืนแล้ว ยังมองเห็นว่าความต้องการของตลาดขนมขบเคี้ยวรสชาติญี่ปุ่นมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไม่แพ้รสชาติไทยแท้ ดูจากจำนวนขนมขบเคี้ยวต่างๆ ทั้งกลุ่มมันฝรั่ง ข้าวเกรียบกุ้ง ขนมขึ้นรูป ถั่ว ที่ขายอยู่ในท้องตลาดกว่า 2,000 ยี่ห้อ หลายยี่ห้อผลิตสินค้ารสชาติสาหร่ายเข้ามาทำตลาดกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคของชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่นิยมบริโภคขนมขบเคี้ยวรสชาติญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่บริษัทฯ จะเข้ามาทำตลาด และสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น