ซีวีดีพร้อมเตรียมจ่ายปันผล รอบอร์ดไฟเขียว เหตุมีเงินสดถึง 300 ล้านบาท กำไรสะสม 6-7 ล้านบาท คาดไตรมาส 2/48 รายได้ลดลงจากไตรมาส 1/48 ที่มี 265.37 ล้านบาท จากช่วงโลว์ซีชัน ผู้บริหารมั่นใจทั้งปีรายได้ 1,100 ล้านบาท จากต่อสัญญาค่ายดัง พร้อมจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายชิงรางวัลรวม 1 ล้านบาท
นายเผด็จ หงษ์ฟ้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CVD เปิดเผยว่า รายได้ไตรมาส 2/2548 จะลดลงจากไตรมาส 1/2548 ที่มีรายได้ 265.37 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 20.71 ล้านบาท เนื่องจากภาพยนตร์ที่มีการฉายไม่ใช่หนังใหญ่มีจำนวนที่น้อย และได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปรับขึ้น ทำให้ประชาชนมีการประหยัดค่าใช้จ่าย รวมถึงเป็นช่วงดังกล่าวของทุกปีที่จะมีรายได้น้อยที่สุด แต่อย่างไรก็คาดว่าปลายไตรมาส 3-4 รายได้ของบริษัทจะดีขึ้น
ทั้งนี้บริษัทคาดรายได้ทั้งปีประมาณ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีรายได้ 1,060.62 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 109.41 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้มีการเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทางทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์, เอ็มจีเอ็ม โฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ และ โซนี่พิกเจอร์ โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ และ บัวนา วิสต้าฯ ในการเป็นตัวแทนการจำหน่ายภาพยนตร์ ทำให้มีหนังฟอร์มใหญ่เข้ามาหลายเรื่อง
สำหรับสัดส่วนรายได้ปีนี้จะมาจากศูนย์เช่าเพิ่มขึ้น 35% จากปีที่ผ่านมาที่มี 25% เนื่องจากมีจำนวนศูนย์เช่าเพิ่มขึ้น 25% หรือประมาณ 2,500 ศูนย์ จากสิ้นปี 2547 ที่มี 1,800 ศูนย์ และอีก 65% จากการขายวีซีดีและดีวีดี
“สัดส่วนรายได้ของศูนย์เช่าเพิ่มขึ้นเนื่องจากถึงจุดอิ่มตัวที่ประชาชนมีการซื้อ แต่ก็ยังมีการซื้ออยู่แต่เฉพาะบางเรื่อง ซึ่งจะหันมาเช่ามากขึ้น แต่รายได้จากการขายขาดก็ยังคงดีอยู่ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากการขายขาดและจากศูนย์เช่าภาพยนตร์เรื่อง สตาร์วอร์ ประมาณ 60 ล้านบาท และจากการที่บริษัทมีการปรับลดราคาหน้าปก DVD ลงประมาณ 50% เป็นประมาณ 200 กว่าบาทจากเดิมที่ 700-800 บาท”
นายเผด็จ กล่าวว่า บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมทางการตลาดชิงรางวัลรวม 1 ล้านบาท คือผู้ที่ซื้อ VCD และ DVD ของบริษัทจะได้รับคูปองชิงโชค ซึ่งรางวัลที่ 1 เงินสดจำนวน 500,000 บาท ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นยอดขายแก่บริษัท และยังเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้า ซึ่งจะจัดในวันที่ 9 พ.ย. ณ บีอีซี เทโรฮอล์ ฉลองครบรอบ 21 ปีของบริษัท
ทั้งนี้บริษัทได้มีการตั้งสำรองสำหรับการซื้อหุ้นคืนจำนวน 180 ล้านบาท ซึ่งเป็นตามระเบียบของทางตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว และบริษัทมีกระแสเงินสด 300 กว่าล้านบาท และมีกำไรสะสม 6-7 ล้านบาท ซึ่งมีความสามารถที่จะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ แต่หากจะมีการจ่ายปันผลต้องรอให้ผลประกอบการงวด 9 เดือนประกาศออกมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการบริษัท ซึ่งในวันที่ 5 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท
นายเผด็จ หงษ์ฟ้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CVD เปิดเผยว่า รายได้ไตรมาส 2/2548 จะลดลงจากไตรมาส 1/2548 ที่มีรายได้ 265.37 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 20.71 ล้านบาท เนื่องจากภาพยนตร์ที่มีการฉายไม่ใช่หนังใหญ่มีจำนวนที่น้อย และได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปรับขึ้น ทำให้ประชาชนมีการประหยัดค่าใช้จ่าย รวมถึงเป็นช่วงดังกล่าวของทุกปีที่จะมีรายได้น้อยที่สุด แต่อย่างไรก็คาดว่าปลายไตรมาส 3-4 รายได้ของบริษัทจะดีขึ้น
ทั้งนี้บริษัทคาดรายได้ทั้งปีประมาณ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีรายได้ 1,060.62 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 109.41 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้มีการเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทางทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์, เอ็มจีเอ็ม โฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ และ โซนี่พิกเจอร์ โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ และ บัวนา วิสต้าฯ ในการเป็นตัวแทนการจำหน่ายภาพยนตร์ ทำให้มีหนังฟอร์มใหญ่เข้ามาหลายเรื่อง
สำหรับสัดส่วนรายได้ปีนี้จะมาจากศูนย์เช่าเพิ่มขึ้น 35% จากปีที่ผ่านมาที่มี 25% เนื่องจากมีจำนวนศูนย์เช่าเพิ่มขึ้น 25% หรือประมาณ 2,500 ศูนย์ จากสิ้นปี 2547 ที่มี 1,800 ศูนย์ และอีก 65% จากการขายวีซีดีและดีวีดี
“สัดส่วนรายได้ของศูนย์เช่าเพิ่มขึ้นเนื่องจากถึงจุดอิ่มตัวที่ประชาชนมีการซื้อ แต่ก็ยังมีการซื้ออยู่แต่เฉพาะบางเรื่อง ซึ่งจะหันมาเช่ามากขึ้น แต่รายได้จากการขายขาดก็ยังคงดีอยู่ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากการขายขาดและจากศูนย์เช่าภาพยนตร์เรื่อง สตาร์วอร์ ประมาณ 60 ล้านบาท และจากการที่บริษัทมีการปรับลดราคาหน้าปก DVD ลงประมาณ 50% เป็นประมาณ 200 กว่าบาทจากเดิมที่ 700-800 บาท”
นายเผด็จ กล่าวว่า บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมทางการตลาดชิงรางวัลรวม 1 ล้านบาท คือผู้ที่ซื้อ VCD และ DVD ของบริษัทจะได้รับคูปองชิงโชค ซึ่งรางวัลที่ 1 เงินสดจำนวน 500,000 บาท ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นยอดขายแก่บริษัท และยังเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้า ซึ่งจะจัดในวันที่ 9 พ.ย. ณ บีอีซี เทโรฮอล์ ฉลองครบรอบ 21 ปีของบริษัท
ทั้งนี้บริษัทได้มีการตั้งสำรองสำหรับการซื้อหุ้นคืนจำนวน 180 ล้านบาท ซึ่งเป็นตามระเบียบของทางตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว และบริษัทมีกระแสเงินสด 300 กว่าล้านบาท และมีกำไรสะสม 6-7 ล้านบาท ซึ่งมีความสามารถที่จะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ แต่หากจะมีการจ่ายปันผลต้องรอให้ผลประกอบการงวด 9 เดือนประกาศออกมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการบริษัท ซึ่งในวันที่ 5 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท