นางธัญญรักข์ ชวาลดิฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส.บี. อุตสาหกรรมเครื่องเรือน จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ เอส.บี.ฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์ในการทำตลอดใหม่ เพื่อเพิ่มยอดขายและรักษาระดับอัตราการเติบโตของยอดขายให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยในปี 48 นี้ เอส.บี.ฯ ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 15 % จากเดิมที่ในปี47 บริษัทมียอดขายรวม 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนการขายจากตลาดส่งออก 30% และเป็นรายได้จากตลาดในประเทศ 60 % ซึ่งการที่ เอส.บี.ฯมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่เนื่องจากปัจจุบันตลาดมีการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มขึ้นในทุกปี ทำให้บริษัทต้องปรับตัวแข่งขันกับตลาด
ทั้งนี้แนวโน้มตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ ในปี48 มีการชะลอตัวลงมาก เนื่องจากปัจจัยลบที่เข้ามากระทบในเรื่องของต้นทุนการผลิต ราคาวัตถุดิบ ค่าขนส่ง และกำลังการซื้อของลูกค้า ซึ่งปัจจัยลบหลักๆ ก็คือราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปรับขึ้นราคาน้ำมันในช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ทำให้ต้นทุนที่เกิดจากน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30% ส่วนต้นทุนรวมทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นจะอยู่ที่ประมาณ 10 %
ทำให้ในช่วงปลายปีผู้ประกอบการมีการปรับราคาตามต้นทุนใหม่แล้ว
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ในตลาดอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
แต่เชื่อว่าหลังจากที่มีการปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันแล้ว ผลกระทบต่างๆ จะเริ่มมีความชัดเจนขึ้นตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี ในช่วงปลายปีถือว่าเป็นฤดูการของการขายบ้านมที่อยู่อาศัย ทำให้เชื่อว่าในช่วงเดียวกันนี้ยอดขายเฟอร์นิเจอร์ในตลาดจะเริ่มกลับมาคึกคักกันอีกรอบหนึ่ง อย่างไรก็ดี แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2-3
นี้จะเป็นช่วงที่ตลาดเงียบไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก แต่ดีมานด์ในตลาดก็ยังมีอยู่ ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องมีวางกลยุทธ์ในการกระตุนแรงซื้อที่นิ่ง และชะลอการตัดสินใจ ให้มีการซื้อเกิดขึ้นให้ได้
นางธัญญรักข์ กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์ตลาดใหม่นั้น บริษัทจะเน้นในเรื่องของการกระตุ้นแรงซื้อของลูกค้าให้มากขึ้น โดยมีการจัดกิจกรรมด้านการตลาดการประชาสัมพันธ์ การพัฒนาสิ้นค้าใหม่ออกสู่ตลาดเพื่อตอกย้ำความต้องการของลูกค้า และการเปิดช่องทางตลาดใหม่ๆ โดยในปีนี้บริษัทจะใช้งบประมาณด้านการตลาดประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นในด้านการการทำตลาดที่จุดขาย และ(บีไลน์เดอะโรน) ส่วนในเรื่องการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดนั้น บริษัทมีแผนจะพัฒนาสิ้นค้าออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี
ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว นวัตกรรมใหม่ภายใต้ Concept "My Zone Studio' Bedroom"ที่เปิดการเปิดตลาดใหม่ในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งจากการสำรวจตลาดพบว่ามีอัตราการขยายตัวรวดเร็วมาก และถือว่าเป็นตลาดกลุ่มใหญ่อีกกลุ่ม ที่ขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดในประเทศเข้ามาทำ และเชื่อว่า สิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้จากตลาดนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การเพิ่มช่องทางตลาดใหม่ๆ นี้ ทำให้ เอส.บี.ฯ มั่นใจว่าจะทำให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นและสามารถรักษาระดับการอัตราการเติบโตของยอดขายให้เป้ฯไปตามเป้าที่วางไว้ได้ แม้ว่าตลาดจะชะลอตัวก็ตาม
ทั้งนี้แนวโน้มตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ ในปี48 มีการชะลอตัวลงมาก เนื่องจากปัจจัยลบที่เข้ามากระทบในเรื่องของต้นทุนการผลิต ราคาวัตถุดิบ ค่าขนส่ง และกำลังการซื้อของลูกค้า ซึ่งปัจจัยลบหลักๆ ก็คือราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปรับขึ้นราคาน้ำมันในช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ทำให้ต้นทุนที่เกิดจากน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30% ส่วนต้นทุนรวมทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นจะอยู่ที่ประมาณ 10 %
ทำให้ในช่วงปลายปีผู้ประกอบการมีการปรับราคาตามต้นทุนใหม่แล้ว
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ในตลาดอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
แต่เชื่อว่าหลังจากที่มีการปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันแล้ว ผลกระทบต่างๆ จะเริ่มมีความชัดเจนขึ้นตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี ในช่วงปลายปีถือว่าเป็นฤดูการของการขายบ้านมที่อยู่อาศัย ทำให้เชื่อว่าในช่วงเดียวกันนี้ยอดขายเฟอร์นิเจอร์ในตลาดจะเริ่มกลับมาคึกคักกันอีกรอบหนึ่ง อย่างไรก็ดี แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2-3
นี้จะเป็นช่วงที่ตลาดเงียบไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก แต่ดีมานด์ในตลาดก็ยังมีอยู่ ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องมีวางกลยุทธ์ในการกระตุนแรงซื้อที่นิ่ง และชะลอการตัดสินใจ ให้มีการซื้อเกิดขึ้นให้ได้
นางธัญญรักข์ กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์ตลาดใหม่นั้น บริษัทจะเน้นในเรื่องของการกระตุ้นแรงซื้อของลูกค้าให้มากขึ้น โดยมีการจัดกิจกรรมด้านการตลาดการประชาสัมพันธ์ การพัฒนาสิ้นค้าใหม่ออกสู่ตลาดเพื่อตอกย้ำความต้องการของลูกค้า และการเปิดช่องทางตลาดใหม่ๆ โดยในปีนี้บริษัทจะใช้งบประมาณด้านการตลาดประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นในด้านการการทำตลาดที่จุดขาย และ(บีไลน์เดอะโรน) ส่วนในเรื่องการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดนั้น บริษัทมีแผนจะพัฒนาสิ้นค้าออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี
ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว นวัตกรรมใหม่ภายใต้ Concept "My Zone Studio' Bedroom"ที่เปิดการเปิดตลาดใหม่ในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งจากการสำรวจตลาดพบว่ามีอัตราการขยายตัวรวดเร็วมาก และถือว่าเป็นตลาดกลุ่มใหญ่อีกกลุ่ม ที่ขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดในประเทศเข้ามาทำ และเชื่อว่า สิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้จากตลาดนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การเพิ่มช่องทางตลาดใหม่ๆ นี้ ทำให้ เอส.บี.ฯ มั่นใจว่าจะทำให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นและสามารถรักษาระดับการอัตราการเติบโตของยอดขายให้เป้ฯไปตามเป้าที่วางไว้ได้ แม้ว่าตลาดจะชะลอตัวก็ตาม