นายพิศิษฐ์ โรจนวานิช ผู้อำนวยการประสานงานออกแบบโครงการและวิจัยงานออกแบบ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) N-PARK เปิดเผยถึงแผนการพัฒนาโรงแรมโนโวเทล บีช รีสอร์ท, พันวา ภูเก็ต (ชื่อเดิม โรงแรม พันวา บีช รีสอร์ท) ว่าบริษัทยังคงเดินหน้าในการพัฒนาเฟสต่อเนื่อง ภายหลังที่ได้เข้าซื้อโครงการมาพัฒนาต่อ โดยจะเป็นส่วนในเฟสที่ 2 และ 3 ซึ่งเป็นฝั่งบนเขา กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 4 ปี 2549 รวมแล้วทั้งโครงการมีมูลค่าประมาณ 850 ล้านบาท จำนวนห้องพัก 219 ห้อง ทั้งนี้ได้เปิดให้บริการเฟสแรกที่ติดฝั่งทะเล (Beach Side )จำนวน 77 ห้อง
สำหรับแนวทางการพัฒนาโรงแรม นายพิศิษฐ์กล่าวว่าอยู่ระหว่างการยกระดับจากโรงแรม 3.5 ดาว (หรือ Mercure) เป็น 4 ดาว (หรือ Novotel) คาดว่าจะสามารถยกระดับภายใต้แบรนด์โนโวเทลประมาณเดือนกันยายน 2548
นอกจากนี้ในส่วนแผนการตลาด ทางโครงการได้ปรับแนวในปัจจุบันให้เข้ากับสถานการณ์ โดยในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวจะเน้นเจาะตลาดลูกค้าชาวไทยและชาวเอเชีย อาทิ นักท่องเที่ยวเกาหลี สิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง ในช่วงฤดูท่องเที่ยวจะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวยุโรปและกลุ่มนักท่องเที่ยวแถบตะวันตก เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มาพักในภูเก็ตเป็นประจำเฉลี่ย 7-10 วัน
" ในระยะสั้น เพื่อรองรับวิกฤตจากภัยธรรมชาติ ทางโรงแรมจะไม่เปลี่ยนแปลงหรือปรับราคาห้องพัก ขณะเดียวกันทางโรงแรมยังได้ทำแผนระยะสั้น ในการเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวกลับมา ทั้งร่วมมือกับองค์กรต่างๆ อาทิ สถานทูตเยอรมนีในจังหวัดภูเก็ต ทำการสื่อสารถึงสภาพที่แท้จริงของภูเก็ต"
อนึ่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่าภายในไตรมาสที่ 2 จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวในส่วนที่หายไปกลับมาได้ และในไตรมาส 3 ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเติบโตอย่างน้อย 6 แสนคน เมื่อเปรียบเทียบตัวเลข 9 เดือนจากปี 2547 และเชื่อมั่นว่า ททท.จะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็น 13.38 ล้านคน และสร้างรายได้ 4.5 แสนล้านบาทตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
สำหรับแนวทางการพัฒนาโรงแรม นายพิศิษฐ์กล่าวว่าอยู่ระหว่างการยกระดับจากโรงแรม 3.5 ดาว (หรือ Mercure) เป็น 4 ดาว (หรือ Novotel) คาดว่าจะสามารถยกระดับภายใต้แบรนด์โนโวเทลประมาณเดือนกันยายน 2548
นอกจากนี้ในส่วนแผนการตลาด ทางโครงการได้ปรับแนวในปัจจุบันให้เข้ากับสถานการณ์ โดยในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวจะเน้นเจาะตลาดลูกค้าชาวไทยและชาวเอเชีย อาทิ นักท่องเที่ยวเกาหลี สิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง ในช่วงฤดูท่องเที่ยวจะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวยุโรปและกลุ่มนักท่องเที่ยวแถบตะวันตก เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มาพักในภูเก็ตเป็นประจำเฉลี่ย 7-10 วัน
" ในระยะสั้น เพื่อรองรับวิกฤตจากภัยธรรมชาติ ทางโรงแรมจะไม่เปลี่ยนแปลงหรือปรับราคาห้องพัก ขณะเดียวกันทางโรงแรมยังได้ทำแผนระยะสั้น ในการเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวกลับมา ทั้งร่วมมือกับองค์กรต่างๆ อาทิ สถานทูตเยอรมนีในจังหวัดภูเก็ต ทำการสื่อสารถึงสภาพที่แท้จริงของภูเก็ต"
อนึ่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่าภายในไตรมาสที่ 2 จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวในส่วนที่หายไปกลับมาได้ และในไตรมาส 3 ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเติบโตอย่างน้อย 6 แสนคน เมื่อเปรียบเทียบตัวเลข 9 เดือนจากปี 2547 และเชื่อมั่นว่า ททท.จะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็น 13.38 ล้านคน และสร้างรายได้ 4.5 แสนล้านบาทตามที่ตั้งเป้าหมายไว้