รอยเตอร์ - ไนกี้รีลอนช์เว็บไซต์เอาใจผู้ที่ชอบความโดดเด่นเป็นตัวของตัวเอง เปิดโอกาสให้ลูกค้าออกแบบผลิตภัณฑ์ตามใจชอบ ตอบรับกระแสที่ผู้บริโภคยอมจ่ายแพงขึ้น แลกกับสิ่งที่ไม่เหมือนใคร เพราะเฝือเต็มทนกับสินค้าโหล
ไนกี้ ผู้ผลิตรองเท้ากีฬารายใหญ่สุดของโลกสัญชาติอเมริกัน รีลอนช์เว็บไซต์ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าออกแบบรองเท้าเอง โดยสามารถเลือกได้ทุกอย่างตั้งแต่สี ไปจนถึงถ้อยคำหรือประโยคแต่งลิ้นรองเท้า
ความพยายามในการจับลูกค้าที่ต้องการความโดดเด่นเป็นตัวของตัวเอง เป็นส่วนหนึ่งของกระแสที่กำลังมาแรงในวงการค้าปลีก ในการเปิดโอกาสให้ลูกค้าออกแบบผลิตภัณฑ์เอง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า เป็นหนทางให้บริษัทผู้ผลิตสามารถเรียกค่าพรีเมี่ยมจากผลิตภัณฑ์ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง
กลยุทธ์ดังกล่าวยังเชื่อมโยงลูกค้าโดยตรงกับแบรนด์มากขึ้น และช่วยให้บริษัทดึงดูดลูกค้าหนุ่มสาวที่เปลี่ยนรสนิยมรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน ก็เป็นลูกค้ากลุ่มที่มีศักยภาพ โดยการเพิ่มอำนาจให้คนเหล่านี้ใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงในทุกอย่างตั้งแต่รองเท้ากีฬาไปจนถึงยีนส์ และเครื่องเล่นเพลงดิจิตอล
"เป็นความปรารถนาแบบประชาธิปไตยขนานแท้" ชารอน ลี ผู้ร่วมก่อตั้งลุก-ไลค์ บริษัทวิจัยผู้บริโภคและที่ปรึกษาด้านแนวโน้มแฟชั่นในลอสแองเจลีส เสริมว่า "ทุกคนบอกว่า นี่เป็นฉันมากกว่า และฉันไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมวลชน"
ลีมองว่า กระแสการเปิดโอกาสให้ลูกค้าออกแบบผลิตภัณฑ์เองกำลังมาแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนหนุ่มสาว กระนั้นก็ดี ยังมีบริษัทเพียงไม่กี่รายที่ใช้ประโยชน์จากกระแสนี้เป็น
แต่สำหรับไนกี้ ต้องบอกว่ากำลังพยายามอย่างเต็มที่ อลัน มาร์กส์ โฆษกของผู้ผลิตชุดกีฬายอดนิยมแห่งนี้ กล่าวว่าบริษัทเปิดเว็บไซต์ ไนกี้.คอมมาตั้งแต่ปี 1999 แต่มารีลอนช์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเพิ่มสไตล์ เทคโนโลยี และทางเลือกในการออกแบบผลิตภัณฑ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากีฬา กระเป๋า หรือลูกกอล์ฟ
เขาเสริมว่า เว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งรองเท้าส่วนใหญ่ราคาคู่ละ 100 ดอลลาร์เป็นต้นไปนั้น แสดงให้เห็นว่าลูกค้ายินดีจ่ายเพิ่มแลกกับโอกาสในการดีไซน์รองเท้าเอง อย่างไรก็ดี มาร์กส์ปฏิเสธที่จะให้ตัวเลขผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือบอกว่าธุรกิจเป็นอย่างไรบ้างหลังการรีลอนช์
การรีลอนช์เว็บไซต์ของไนกี้ยังมีขึ้นขณะที่กระแสแฟชั่นมุ่งไปที่รองเท้ากีฬาราคาแพงขึ้น ปีที่ผ่านมา ดีมานด์รองเท้ากีฬาราคาคู่ละกว่า 100 ดอลลาร์ในสหรัฐฯขยายตัว 18% เป็นเกือบ 600 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ จากข้อมูลของบริษัทการตลาด เอ็นพีดี กรุ๊ป
กรณีไนกี้นั้น มีการอัดฉีดงบโฆษณาทั้งทางทีวีและอินเทอร์เน็ต เพื่อโปรโมทไนกี้.คอม โดยคาดหวังว่าจะจับลูกค้าในบ้านเกิดได้มากขึ้น โดยไนกี้มีส่วนแบ่งตลาดเมืองลุงแซมมากกว่ารีบ็อค อินเตอร์เนชั่นแนล และอาดิดาส-ซาโลมอน เกินสองเท่า
จอห์น ฮอรัน ผู้ตีพิมพ์วารสารธุรกิจ สปอร์ตติ้ง กู๊ดส์ อินเทลลิเจนส์ เห็นด้วยว่าไนกี้กลับมากระตุ้นตลาดได้ถูกจังหวะ เห็นได้จากการเติบโตของตลาดรองเท้าหายากในอินเทอร์เน็ตและตามบูติกต่างๆ ที่ซึ่งนักสะสมยินดีจ่ายเป็นพันดอลลาร์แลกกับรองเท้ากีฬาคู่เดียว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อสิ่งที่ไม่มีที่อื่นอีกแล้ว หรืออย่างน้อยก็หายากมาก
นักสังเกตการณ์อื่นๆ แสดงทัศนะว่าไนกี้เพียงเรียนรู้ว่า ลูกค้าหนุ่มสาวยุคนี้ต้องการช่องทางในการสร้างความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ซื้อ และกระแสนี้จะเบ่งบานยิ่งขึ้น
ลอรี ฮอลิเดย์ แบงก์ส ที่ปรึกษาอาวุโสด้านแฟชั่นของโทบี้รีพอร์ต เห็นด้วยว่า ไนกี้.คอมสะท้อนว่า ความนิยมในการสร้างสิ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งครั้งหนึ่งเคยจำกัดวงเฉพาะคนรวย บัดนี้ลุกลามสู่ลูกค้ากลุ่มใหญ่ขึ้น ซึ่งรู้สึกเฝือกับสินค้ามวลชนในทุกระดับ
ไนกี้ ผู้ผลิตรองเท้ากีฬารายใหญ่สุดของโลกสัญชาติอเมริกัน รีลอนช์เว็บไซต์ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าออกแบบรองเท้าเอง โดยสามารถเลือกได้ทุกอย่างตั้งแต่สี ไปจนถึงถ้อยคำหรือประโยคแต่งลิ้นรองเท้า
ความพยายามในการจับลูกค้าที่ต้องการความโดดเด่นเป็นตัวของตัวเอง เป็นส่วนหนึ่งของกระแสที่กำลังมาแรงในวงการค้าปลีก ในการเปิดโอกาสให้ลูกค้าออกแบบผลิตภัณฑ์เอง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า เป็นหนทางให้บริษัทผู้ผลิตสามารถเรียกค่าพรีเมี่ยมจากผลิตภัณฑ์ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง
กลยุทธ์ดังกล่าวยังเชื่อมโยงลูกค้าโดยตรงกับแบรนด์มากขึ้น และช่วยให้บริษัทดึงดูดลูกค้าหนุ่มสาวที่เปลี่ยนรสนิยมรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน ก็เป็นลูกค้ากลุ่มที่มีศักยภาพ โดยการเพิ่มอำนาจให้คนเหล่านี้ใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงในทุกอย่างตั้งแต่รองเท้ากีฬาไปจนถึงยีนส์ และเครื่องเล่นเพลงดิจิตอล
"เป็นความปรารถนาแบบประชาธิปไตยขนานแท้" ชารอน ลี ผู้ร่วมก่อตั้งลุก-ไลค์ บริษัทวิจัยผู้บริโภคและที่ปรึกษาด้านแนวโน้มแฟชั่นในลอสแองเจลีส เสริมว่า "ทุกคนบอกว่า นี่เป็นฉันมากกว่า และฉันไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมวลชน"
ลีมองว่า กระแสการเปิดโอกาสให้ลูกค้าออกแบบผลิตภัณฑ์เองกำลังมาแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนหนุ่มสาว กระนั้นก็ดี ยังมีบริษัทเพียงไม่กี่รายที่ใช้ประโยชน์จากกระแสนี้เป็น
แต่สำหรับไนกี้ ต้องบอกว่ากำลังพยายามอย่างเต็มที่ อลัน มาร์กส์ โฆษกของผู้ผลิตชุดกีฬายอดนิยมแห่งนี้ กล่าวว่าบริษัทเปิดเว็บไซต์ ไนกี้.คอมมาตั้งแต่ปี 1999 แต่มารีลอนช์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเพิ่มสไตล์ เทคโนโลยี และทางเลือกในการออกแบบผลิตภัณฑ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากีฬา กระเป๋า หรือลูกกอล์ฟ
เขาเสริมว่า เว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งรองเท้าส่วนใหญ่ราคาคู่ละ 100 ดอลลาร์เป็นต้นไปนั้น แสดงให้เห็นว่าลูกค้ายินดีจ่ายเพิ่มแลกกับโอกาสในการดีไซน์รองเท้าเอง อย่างไรก็ดี มาร์กส์ปฏิเสธที่จะให้ตัวเลขผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือบอกว่าธุรกิจเป็นอย่างไรบ้างหลังการรีลอนช์
การรีลอนช์เว็บไซต์ของไนกี้ยังมีขึ้นขณะที่กระแสแฟชั่นมุ่งไปที่รองเท้ากีฬาราคาแพงขึ้น ปีที่ผ่านมา ดีมานด์รองเท้ากีฬาราคาคู่ละกว่า 100 ดอลลาร์ในสหรัฐฯขยายตัว 18% เป็นเกือบ 600 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ จากข้อมูลของบริษัทการตลาด เอ็นพีดี กรุ๊ป
กรณีไนกี้นั้น มีการอัดฉีดงบโฆษณาทั้งทางทีวีและอินเทอร์เน็ต เพื่อโปรโมทไนกี้.คอม โดยคาดหวังว่าจะจับลูกค้าในบ้านเกิดได้มากขึ้น โดยไนกี้มีส่วนแบ่งตลาดเมืองลุงแซมมากกว่ารีบ็อค อินเตอร์เนชั่นแนล และอาดิดาส-ซาโลมอน เกินสองเท่า
จอห์น ฮอรัน ผู้ตีพิมพ์วารสารธุรกิจ สปอร์ตติ้ง กู๊ดส์ อินเทลลิเจนส์ เห็นด้วยว่าไนกี้กลับมากระตุ้นตลาดได้ถูกจังหวะ เห็นได้จากการเติบโตของตลาดรองเท้าหายากในอินเทอร์เน็ตและตามบูติกต่างๆ ที่ซึ่งนักสะสมยินดีจ่ายเป็นพันดอลลาร์แลกกับรองเท้ากีฬาคู่เดียว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อสิ่งที่ไม่มีที่อื่นอีกแล้ว หรืออย่างน้อยก็หายากมาก
นักสังเกตการณ์อื่นๆ แสดงทัศนะว่าไนกี้เพียงเรียนรู้ว่า ลูกค้าหนุ่มสาวยุคนี้ต้องการช่องทางในการสร้างความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ซื้อ และกระแสนี้จะเบ่งบานยิ่งขึ้น
ลอรี ฮอลิเดย์ แบงก์ส ที่ปรึกษาอาวุโสด้านแฟชั่นของโทบี้รีพอร์ต เห็นด้วยว่า ไนกี้.คอมสะท้อนว่า ความนิยมในการสร้างสิ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งครั้งหนึ่งเคยจำกัดวงเฉพาะคนรวย บัดนี้ลุกลามสู่ลูกค้ากลุ่มใหญ่ขึ้น ซึ่งรู้สึกเฝือกับสินค้ามวลชนในทุกระดับ