มาถึงวันนี้คงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า การตัดสินใจของค่ายบุญรอดบริวเวอรี่ ในฐานะผู้สนับสนุนหลักในการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2005 ภายใต้ตราสัญลักษณ์ "สิงห์" โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ตราสินค้าในตลาดต่างประเทศ ผ่านฑูตนางงาม 81 ประเทศทั่วโลก ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพราะไม่เพียงทำให้ต่างประเทศรู้จักเบียร์สิงห์มากขึ้นเท่านั้น แต่ในนัยสำคัญยังเป็นใบเบิกทางให้สิงห์เข้าไปทำตลาดในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะช่องทางโมเดิร์นเทรด ที่บุญรอดหมายตาที่จะทะลวงจุดนั้นไปให้ได้
ทำไมสิงห์ต้องยืมมือนางงาม 81 ประเทศทั่วโลกสร้างแบรนด์ เพราะตลาดเบียร์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป อเมริกา มีเบียร์มากกว่าหลายร้อยชนิด ดังนั้นการที่เบียร์ไทยจะก้าวสู่เวทีระดับโลกจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก การสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักจึงมีบทบาทสำคัญมาก จุดดังกล่าวทำให้สิงห์เริ่มสร้างตราสินค้า ไม่ว่าจะเป็น การเป็นผู้สนับสนุนกีฬา เทนนิส กอล์ฟ การจัดเทศกาลอาหาร และล่าสุดเป็นผู้สนับสนุนการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2005 อย่างเป็นทางการ
นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า หากจะดูกันจริงๆ การสร้างแบรนด์ของสิงห์ผ่านนางงามจาก 81 ประเทศทั่วโลก ดูเหมือนว่าจะไปด้วยกันไม่ค่อยได้ เพราะภาพนางงามคือผู้หญิงที่สวยที่สุดของแต่ละประเทศ ในขณะที่สิงห์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้นตั้งแต่คอนเซปต์ภายในงานจึงใช้ว่า "Experience the Beauty of Thailand" หรือสารพันประสบการณ์ความงามที่เมืองไทย โดยทุกเวทีที่นางงามจากต่างประเทศไปปรากฎจะต้องมีคอนเซปต์ดังกล่าว เพื่อให้ทั้งสองสิ่งที่ขัดกันไปด้วยกันได้
ขณะเดียวกันเพื่อสานต่อคอนเซปต์ กิจกรรมในช่วงตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคมไปจนถึงวันสุดท้ายของการประกวด คือ 31 พฤษภาคม สิงห์จะมีกิจกรรมพิเศษร่วมกับสาวงามที่เข้าร่วมประกวดถึง 11-12 งาน โดยพยายามสอดแทรกกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์ร่วมระหว่างนางงามกับเบียร์สิงห์ ยกตัวอย่างเช่น ในวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้พาคณะนางงามเข้าเยี่ยมชมโรงงาน รวมทั้งให้นางงามร่วมกดเบียร์สิงห์ ซึ่งภาพที่ออกมาจากสื่อมวลชนทั่วโลก ช่วยให้สร้างการรับรู้ของสิงห์ได้เป็นอย่างดี
"เรามองว่ามิสยูนิเวิร์สเป็นโชว์ที่ออกมาทางโทรทัศน์ และจะทำอย่างไรให้สายตาคนทั้งโลกมองเห็นโลโก้สิงห์มากที่สุด ดังนั้นจึงได้พยายามทำสิ่งของต่างๆ ที่นางงามใช้ เพื่อเป็นการสร้างตราสินค้าได้มากที่สุด แม้ว่างบที่ใช้ในขณะนี้จะเกินไปจาก 100 ล้านบาท เพิ่มเป็น 150 ล้านบาทแล้วก็ตาม"
กระบวนการใช้โลโก้สิงห์ออกสู่สายตาชาวโลกมากที่สุด จึงเริ่มตั้งแต่ให้นางงามใส่เสื้อสิงห์ 2 วัน การทำผ้าสำหรับให้นางงามโพกศีรษะ ผูกข้อมือ หรือกระทั่งคาดเอว รวมไปถึงพัดตราสิงห์เพราะสภาพอากาศเมืองไทยร้อน รถตู้ บรรจุภัณฑ์ชนิดพิเศษ รุ่นจำกัดสำหรับการประกวดครั้งนี้จำนวน 3 ล้านใบ หมวก และร่ม ฯลฯ ซึ่งยังไม่รวมถึงเวทีประกวดในวันที่ 31 พฤษภาคม ที่สิงห์เตรียมนำโลโก้ขนาดใหญ่อยู่บนเวที อีกทั้งภายในงานยังฉกฉวยโอกาสจัดเทศกาลเบียร์สดสิงห์ เป็นการสร้างตราสินค้าอย่างครบเครื่อง
"คนต่างประเทศรู้จักเบียร์สิงห์พอสมควร แต่มิสยูนิเวิร์สจะช่วยทำให้ตราสินค้าสิงห์น่าเชื่อถือ และง่ายต่อการที่จะผลักดันให้เบียร์สิงห์ทำตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น ซึ่งประเทศที่มองไว้ว่าจะเข้าไปขยายตลาด ได้แก่ อินเดีย จีน ตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกาและยุโรป ขณะที่ในประเทศไทยเองสิงห์จะได้ภาพลักษณ์ในฐานะเป็นผู้นำเบียร์สแตนดาร์ด"
นายฉัตรชัยกล่าวว่า ขณะนี้แคมเปญที่ใกล้จบของเบียร์สิงห์จะถูกชะลอไป ส่วนแคมเปญหลักๆเช่น ก็เคยสัญญาฯ ยังโปรโมตอยู่บ้าง เนื่องจากกระแสมิสยูนิเวิร์สกลบหมด และเชื่อว่าแม้กระทั่งกระแสของคู่แข่งอย่างเบียร์ช้าง ที่จะประกาศเป็นสปอนเซอร์เสื้อทีมฟุตบอลเอเวอร์ตัน ยังแรงสู้สิงห์ไม่ได้ในนาทีนี้ และภายหลังจากที่การประกวดมิสยูนิเวิร์สจบสิ้นลง บริษัทได้เตรียมดำเนินกิจกรรมสปอร์ตมาร์เกตติ้ง เพื่อสร้างกระแสและและตอกย้ำการรับรู้อย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ ประเดิมด้วยการทุ่มงบ 15 ล้านบาท เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ การแข่งขันกีฬาเทนนิสในรายการ "Legg Mason" 3 รายการ ที่รัฐเวอร์จิเนีย ลอสแองเจลิส ระหว่างวันที่ 1-8 สิงหาคม นี้
แม้ว่าการลงทุนในครั้งนี้ บุญรอดฯ ไม่กล้าการันตีว่า การทุ่มเม็ดเงินถึง 150 ล้านบาทจะทำให้เบียร์สิงห์ฝ่าด่านโกอินเตอร์ในช่องทางโมเดิร์นเทรดภายในกี่ปีก็ตาม แต่การเป็นผู้สนับสนุนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2005 ก็เป็นพิสูจน์ได้ว่านางงามกับน้ำเมาเมื่อตกแต่งหน้าตาให้ดี ก็สามารถสร้างการรับรู้ให้กับตราสินค้า ภาพลักษณ์ของสิงห์ให้เป็นที่ประจักษ์และจดจำแก่สายตาทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
และคงจะต้องมาจับตาดูว่า "บุญรอด บริวเวอรี่" จะสามารถจีบนางามจักรวาลคนล่าสุด เป็นแอมบาสเดอร์หรือฑูตผลิตภัณฑ์สิงห์ได้สำเร็จหรือไม่ รวมถึงกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ในตลาดต่างประเทศผ่านผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลกได้อย่างไร