Agencies - หากคุณกำลังดูโทรทัศน์หรือกำลังกวาดตาดูในหนังสือพิมพ์ที่รัสเซียหรือแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความเป็นไปได้มากที่โฆษณาซึ่งทำให้คุณต้องหยุดมองและหัวเราะอาจเป็นโฆษณาซึ่งผลิตในอินเดีย
ปัจจุบัน เอเจนซี่โฆษณา บริษัทกราฟฟิกดีไซน์ และผู้ผลิตภาพยนตร์ในอินเดียหลายแห่งกำลังมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากหลากหลายผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เครื่องสำอางไปจนถึงหมากฝรั่งที่ส่งออกจากแคนาดาไปยังจีน
นอกจากบริษัทชาติตะวันตกจำนวนมากได้โอนงานย้ายงานด้านการบัญชี การออกแบบซอฟท์แวร์ และธุรกิจด้านอื่นๆ ไปยังประเทศต่างๆ ที่มีค่าแรงถูกกว่าเช่นอินเดียแล้ว ธุรกิจโฆษณายังถือเป็นอีกก้าวย่างหนึ่งสำหรับบริษัทเหล่านี้ในการเลือกอินเดียเป็นแหล่งผลิตไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ ของงานโฆษณาและงานดีไซน์
ตัวอย่างโฆษณาชุดหนึ่งที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากคือ โฆษณาที่มีช่างตัดผมชาวเมืองบอมเบย์คนหนึ่งโยนลูกกวาดเข้าไปในปากของลูกค้า ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั่วร่างก่อนที่ผมลื่นมันของเขาจะตั้งตรงขึ้นมา โดยโฆษณาชุดนี้เป็นโฆษณาของบริษัทเพอร์เพตติ ยักษ์ใหญ่ด้านขนมหวานจากเมืองมักกะโรนี ซึ่งผลิตขึ้นเพื่อแพร่ภาพในอินเดีย แต่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในอิตาลีและจีนด้วย
อับฮิจิต อาวาสติ ผู้อำนวยการครีเอทีฟอาวุโสจากเอเจนซี่โฆษณาโอกิลวี แอนด์ มาเธอร์สาขาบอมเบย์เผยว่า ทีมงานของเขาผลิตโฆษณาให้กับเพอร์เพตติเกือบ 12 ชิ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเสริมว่า "ตอนนี้เรากำลังผลิตภาพยนตร์โฆษณาและสิ่งพิมพ์อีกเป็นจำนวนมาก โดยผลงานบางชิ้นจะเผยแพร่ในอิตาลี เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก กรีซ และรัสเซีย"
กระนั้นก็ดี โฆษณาที่เอาต์ซอร์สมาส่วนใหญ่ไม่ได้แพร่ภาพในอินเดีย แม้ว่ามีการวางแผนและตัดต่อที่นี่ก็ตาม ทั้งนี้เนื่องจากโฆษณาหลายชิ้นมีเนื้อหาหวือหวาเกินไปสำหรับประเทศอนุรักษ์นิยมอย่างอินเดีย
อนึ่ง อินเดียถือเป็นประเทศลำดับที่ 5 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีการใช้จ่ายด้านโฆษณาสูงสุดรองจากจีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย โดยข้อมูลของนีลเซน มีเดีย รีเสิร์ช คาดว่า ในปี 2004 อินเดียมีค่าใช้จ่ายด้านนี้สูงถึง 2,600 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลตัวเลขค่าใช้จ่ายในการผลิตโฆษณาเพื่อป้อนตลาดต่างประเทศ
ไซรัส แพจดิวาลา โปรดิวเซอร์บริหารแห่งคอร์คอยซ์ ฟิล์มส์ในเมืองบอมเบย์ ซึ่งปัจจุบันกำลังผลิตโฆษณาหลายชิ้นให้กับฟาสต์ฟูดยักษ์ใหญ่ของอเมริกาและผู้ผลิตรถจากญี่ปุ่น อธิบายว่า เอเจนซี่ในอินเดียสามารถผลิตโฆษณาชิ้นหนึ่งได้ด้วยต้นทุนเพียง 1 ใน 3 ของเอเจนซี่ต่างประเทศ และทำได้รวดเร็วกว่า
"พวกเขาผลิตโฆษณาชิ้นหนึ่งในเวลา 3 เดือน แต่เราเคยผลิตถึง 3 ชิ้นในเวลาเดือนเดียว และยังสามารถเทียบชั้นกับมาตรฐานการผลิตระดับโลกได้" เขาอธิบาย
เอเจนซี่โฆษณาในอินเดียจึงได้รับคำสั่งผลิตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกขั้นตอนกระบวนการผลิต นับตั้งแต่การออกไอเดีย การเขียนสคริปต์ไปจนถึงการผลิต
ตัวอย่างหนึ่งคือ ราเบีย คุปตะ ผู้ก่อตั้งราเบีย คุปตะ ดีไซน์ส คิดว่า บอดี้ เบสิกส์ บริษัทเครื่องสำอางจากสาธารณรัฐเชกต้องการให้โฆษณาออกมา "ดูเป็นแบบอินเดียโดยเฉพาะ" เมื่อได้รับการว่าจ้างให้สร้างจุดเด่นและบรรจุภัณฑ์ใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเส้นผม
ทว่า "พวกเขาอธิบายว่า ไม่ใช่เช่นนั้น พวกเขาแค่ชอบงานของเรา ไม่ได้ต้องการให้งานออกมาในแนวเอเชียแต่อย่างใด" คุปตะกล่าว
เธอกล่าวต่อว่า บริษัทต่างๆกำลังเบนเข็มมาสู่อินเดียเนื่องจาก "ความแปลกใหม่ของพวกเรา วิธีที่เราใช้สีหรือวิธีการตีความข้อมูลของเราน่าสนใจและแตกต่างออกไป รวมถึงการใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วด้วย"
นอกจากนี้ คุปตะกล่าวว่า การมีวัฒนธรรมที่หลากหลายยังช่วยให้อินเดียเข้าใจตลาดที่แตกต่างกันได้ดีไม่ว่าจะเป็นตลาดบน วัฒนธรรมตามกระแส หรือวัฒนธรรมพื้นเมืองก็ตาม
อมิต แอกนิโฮตรี ผู้อำนวยการและบรรณาธิการเอ็กซ์เชนจ์4 มีเดีย.คอม ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชั้นนำในอุตสาหกรรมสื่อแดนภารตะชี้ว่า "แม้อุตสาหกรรมนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่เชื่อว่าโอกาสการเอาต์ซอร์สด้านนี้จะมีแต่พิ่มมากขึ้นเท่านั้น"
ปัจจุบัน เอเจนซี่โฆษณา บริษัทกราฟฟิกดีไซน์ และผู้ผลิตภาพยนตร์ในอินเดียหลายแห่งกำลังมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากหลากหลายผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เครื่องสำอางไปจนถึงหมากฝรั่งที่ส่งออกจากแคนาดาไปยังจีน
นอกจากบริษัทชาติตะวันตกจำนวนมากได้โอนงานย้ายงานด้านการบัญชี การออกแบบซอฟท์แวร์ และธุรกิจด้านอื่นๆ ไปยังประเทศต่างๆ ที่มีค่าแรงถูกกว่าเช่นอินเดียแล้ว ธุรกิจโฆษณายังถือเป็นอีกก้าวย่างหนึ่งสำหรับบริษัทเหล่านี้ในการเลือกอินเดียเป็นแหล่งผลิตไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ ของงานโฆษณาและงานดีไซน์
ตัวอย่างโฆษณาชุดหนึ่งที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากคือ โฆษณาที่มีช่างตัดผมชาวเมืองบอมเบย์คนหนึ่งโยนลูกกวาดเข้าไปในปากของลูกค้า ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั่วร่างก่อนที่ผมลื่นมันของเขาจะตั้งตรงขึ้นมา โดยโฆษณาชุดนี้เป็นโฆษณาของบริษัทเพอร์เพตติ ยักษ์ใหญ่ด้านขนมหวานจากเมืองมักกะโรนี ซึ่งผลิตขึ้นเพื่อแพร่ภาพในอินเดีย แต่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในอิตาลีและจีนด้วย
อับฮิจิต อาวาสติ ผู้อำนวยการครีเอทีฟอาวุโสจากเอเจนซี่โฆษณาโอกิลวี แอนด์ มาเธอร์สาขาบอมเบย์เผยว่า ทีมงานของเขาผลิตโฆษณาให้กับเพอร์เพตติเกือบ 12 ชิ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเสริมว่า "ตอนนี้เรากำลังผลิตภาพยนตร์โฆษณาและสิ่งพิมพ์อีกเป็นจำนวนมาก โดยผลงานบางชิ้นจะเผยแพร่ในอิตาลี เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก กรีซ และรัสเซีย"
กระนั้นก็ดี โฆษณาที่เอาต์ซอร์สมาส่วนใหญ่ไม่ได้แพร่ภาพในอินเดีย แม้ว่ามีการวางแผนและตัดต่อที่นี่ก็ตาม ทั้งนี้เนื่องจากโฆษณาหลายชิ้นมีเนื้อหาหวือหวาเกินไปสำหรับประเทศอนุรักษ์นิยมอย่างอินเดีย
อนึ่ง อินเดียถือเป็นประเทศลำดับที่ 5 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีการใช้จ่ายด้านโฆษณาสูงสุดรองจากจีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย โดยข้อมูลของนีลเซน มีเดีย รีเสิร์ช คาดว่า ในปี 2004 อินเดียมีค่าใช้จ่ายด้านนี้สูงถึง 2,600 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลตัวเลขค่าใช้จ่ายในการผลิตโฆษณาเพื่อป้อนตลาดต่างประเทศ
ไซรัส แพจดิวาลา โปรดิวเซอร์บริหารแห่งคอร์คอยซ์ ฟิล์มส์ในเมืองบอมเบย์ ซึ่งปัจจุบันกำลังผลิตโฆษณาหลายชิ้นให้กับฟาสต์ฟูดยักษ์ใหญ่ของอเมริกาและผู้ผลิตรถจากญี่ปุ่น อธิบายว่า เอเจนซี่ในอินเดียสามารถผลิตโฆษณาชิ้นหนึ่งได้ด้วยต้นทุนเพียง 1 ใน 3 ของเอเจนซี่ต่างประเทศ และทำได้รวดเร็วกว่า
"พวกเขาผลิตโฆษณาชิ้นหนึ่งในเวลา 3 เดือน แต่เราเคยผลิตถึง 3 ชิ้นในเวลาเดือนเดียว และยังสามารถเทียบชั้นกับมาตรฐานการผลิตระดับโลกได้" เขาอธิบาย
เอเจนซี่โฆษณาในอินเดียจึงได้รับคำสั่งผลิตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกขั้นตอนกระบวนการผลิต นับตั้งแต่การออกไอเดีย การเขียนสคริปต์ไปจนถึงการผลิต
ตัวอย่างหนึ่งคือ ราเบีย คุปตะ ผู้ก่อตั้งราเบีย คุปตะ ดีไซน์ส คิดว่า บอดี้ เบสิกส์ บริษัทเครื่องสำอางจากสาธารณรัฐเชกต้องการให้โฆษณาออกมา "ดูเป็นแบบอินเดียโดยเฉพาะ" เมื่อได้รับการว่าจ้างให้สร้างจุดเด่นและบรรจุภัณฑ์ใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเส้นผม
ทว่า "พวกเขาอธิบายว่า ไม่ใช่เช่นนั้น พวกเขาแค่ชอบงานของเรา ไม่ได้ต้องการให้งานออกมาในแนวเอเชียแต่อย่างใด" คุปตะกล่าว
เธอกล่าวต่อว่า บริษัทต่างๆกำลังเบนเข็มมาสู่อินเดียเนื่องจาก "ความแปลกใหม่ของพวกเรา วิธีที่เราใช้สีหรือวิธีการตีความข้อมูลของเราน่าสนใจและแตกต่างออกไป รวมถึงการใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วด้วย"
นอกจากนี้ คุปตะกล่าวว่า การมีวัฒนธรรมที่หลากหลายยังช่วยให้อินเดียเข้าใจตลาดที่แตกต่างกันได้ดีไม่ว่าจะเป็นตลาดบน วัฒนธรรมตามกระแส หรือวัฒนธรรมพื้นเมืองก็ตาม
อมิต แอกนิโฮตรี ผู้อำนวยการและบรรณาธิการเอ็กซ์เชนจ์4 มีเดีย.คอม ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชั้นนำในอุตสาหกรรมสื่อแดนภารตะชี้ว่า "แม้อุตสาหกรรมนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่เชื่อว่าโอกาสการเอาต์ซอร์สด้านนี้จะมีแต่พิ่มมากขึ้นเท่านั้น"