xs
xsm
sm
md
lg

ส.อ.ท.แนะรัฐใช้ภาษีสกัดสินค้าฟุ่มเฟือยลดปัญหาขาดดุล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แนะภาครัฐแก้ปัญหาขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดด้วยมาตรการ สกัดการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยและการท่องเที่ยวต่างประเทศ ด้วยการกำหนดภาษีป้องกัน ยืนยันไม่เห็นด้วยที่ผู้ผลิตทองแดงบริสุทธิ์รายเดียวของประเทศไทย เสนอปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 10 เนื่องจากจะกระทบอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกจำนวนมาก

นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า แม้ว่าไตรมาสแรกจะมีการขาดดุลการค้า 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขาดดุลบัญชีเดินสะพัดถึง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกิดจากการนำเข้าน้ำมันและสินค้าทุน แต่ในช่วงเวลาที่เหลือหากรัฐบาลเดินหน้าเร่งแก้ปัญหาก็คาดว่าอาจจะทำให้เกินดุลก็ได้ และจากที่การท่องเที่ยวเริ่มมีแนวโน้มที่ดี การลงทุนภาคเอกชนยังมีต่อเนื่อง จึงคาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้จะอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 5.5 ซึ่งชะลอตัวจากเดิมที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น อัตราการขยายตัวหรือจีดีพีภาคอุตสาหกรรมก็อาจจะลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ขยายตัวร้อยละ 11 เหลือร้อยละ 10 และในเร็ว ๆ นี้ ส.อ.ท. จะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาภาคอุตสาหกรรม เพื่อเป็นความร่วมมือกับภาครัฐในการพัฒนาเศรษฐกิจต่อไป

สำหรับข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาการขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัด ประกอบด้วยการเร่งการส่งออก ซึ่งการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นบ้าง นับเป็นปัจจัยที่ทำให้ไทยนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการส่งออกได้มากขึ้น ขอให้รัฐกำหนดมาตรการคุมเข้มเรื่องการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย สกัดกั้นการท่องเที่ยวต่างประเทศ ด้วยการกำหนดภาษีป้องกันคนเดินทางไปต่างประเทศ การส่งเสริมให้ใช้วัตถุดิบในประเทศเพื่อผลิตสินค้าอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลเป็นรายสินค้า การส่งเสริมมาตรการประหยัดพลังงานที่ชัดเจน ซึ่ง ส.อ.ท.พร้อมสนับสนุนมาตรการการลดการใช้พลังงานให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 10

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าผู้ผลิตทองแดงบริสุทธิ์รายเดียวของประเทศไทย คือ บริษัทไทยคอปเปอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือนายประยุทธ มหากิจศิริ เสนอปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 10 นั้น นายประพัฒน์ กล่าวว่า ส.อ.ท.ไม่เห็นด้วย เพราะหากปรับขึ้นจะกระทบต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่อง ที่มีการใช้ลวดทองแดงเป็นจำนวนมากและตามหลักทั่วไปแล้วในขณะนี้มีการเจรจาเปิดการค้าเสรี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทิศทางการลดภาษีจึงไม่เข้าใจว่าทำไมจึงมีข้อเสนอการปรับขึ้นภาษี หากไทยขึ้นภาษีก็จะทำให้แข่งขันทั้งการส่งออกและแข่งขันกับสินค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไม่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น