บอช แอนด์ ลอมบ์รุกตลาดเอเชียหนักขึ้นในส่วนเครื่องมือแพทย์ โฟกัสตลาดไทยที่มีอัตราการโต 20% และขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เมินตลาดญี่ปุ่นหลังใช้เวลาจดทะเบียนนาน 5 ปี ล่าสุดเอาใจคนที่มีปัญหาสายตาส่งเครื่องเลเซอร์รุ่นใหม่ ตั้งเป้ารายได้เพิ่ม 40% ส่วนกลุ่มวิชั่นแคร์ วาดฝัน 3 ปีขอล้มจอห์นสันขึ้นเป็นผู้นำตลาดคอนแทคเลนส์ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยาตาในไทยในช่วงกลางปีนี้
นายสตีฟ เชา รองประธานฝ่ายปฏิบัติการด้านพาณิชย์ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท บอช แอนด์ ลอมบ์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับดวงตาจากอเมริกา เปิดเผยว่า ตลาดอายแคร์หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับดวงตาในเอเชียมีอัตราการเติบโตสูงกว่า 10% โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นและจีน ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทยมียอดขายที่สูงและโต 20% บริษัทจึงโฟกัสไทยเป็นตลาดหลัก โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจเครื่องมือผ่าตัดดวงตา ที่ใช้ขั้นตอนการจดทะเบียนไม่นานประมาณ 1 เดือน ขณะที่ญี่ปุ่นใช้เวลา 5 ปี จึงเป็นอุปสรรคในการขยายตลาด นอกจากนี้บริษัทยังมองที่จะเข้าไปทำตลาดในประเทศที่เศรษฐกิจมีการพัฒนา อย่าง จีน อินเดีย และมาเลเซีย โดยในปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆอยู่เสมอ เช่น เครื่องมือผ่าตัดต้ออกระจก,คอนแทคเลนส์สูตรใหม่ เป็นต้น
ทั้งนี้ธุรกิจหลักของบริษัทมี 3 ส่วน ประกอบด้วย กลุ่มวิชั่นแคร์ อาทิ คอนแทคเลนส์และน้ำยาล้างเลนส์ กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับการผ่าตัดตา และยาที่ใช้สำหรับตา ในส่วนของประเทศไทยขณะนี้มี 2 กลุ่มแรก ในส่วนของยาตาเตรียมเปิดตลาดประมาณกลางปีถึงปลายปีนี้ เนื่องจากมองว่าตลาดยังมีการเติบโตที่สูง ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เปิดตลาดไทยเพราะขั้นตอนในการดำเนินการจดทะเบียนยาต้องใช้เวลานานประมาณ 2 ปี แต่ในอนาคตเชื่อว่าจะเป็นตลาดที่บริษัทต้องโฟกัส
นายธงชัย ถวิลแก้ว ผู้จัดการฝ่ายเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับการผ่าตัดตของ บอช แอนด์ ลอมบ์ในอินโดจีนและไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯจะเน้นทำตลาดในส่วนเครื่องมือและอุปกรณ์ผ่าตัดตามากขึ้น โดยจะร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นกลุ่มโรงพยาบาลและแพทย์ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในเรื่องการให้ความรู้และข้อมูลแก่แพทย์โดยตรง
ล่าสุดบอช แอนด์ ลอมบ์เปิดตัวเครื่องมือผ่าดวงตา เลเซอร์ Zyoptix 100 โดยเตรียมเปิดตัวที่ศูนย์รามา เอ็กไซเมอร์ เลเซอร์ที่รพ.รามาธิบดีเป็นแห่งแรก และเตรียมนำเข้าเครื่องอีกในปีนี้ 2-3 ศูนย์
ปัจจุบันลูกค้าของบริษัทฯในส่วนของครื่องผ่าตัดมีทั้งโรงพยาบาลเอกชนและรัฐบาล อาทิ รพ.รัตนิน ในส่วนของเครื่องสลายต้อตา เช่น รพ.ศิริราช เป็นต้น โดยบริษัทตั้งเป้ายอดรายได้สิ้นปีนี้ 140 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 40% ขณะปีที่แล้วมียอดขาย 100 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวม 1,000 ล้านบาท
ขอ3 ปีล้มจอหน์สันฯขึ้นแท่นผู้นำ
นางชัชณี อนันต์วัฒนพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิชั่นแคร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดวิชั่นแคร์ อาทิ คอนแทคเลนส์และน้ำยาล้างเลนส์ในไทยยังมีขนาดเล็ก ซึ่งจากผลวิจัยจะพบว่าคนไทยอายุ 15-45 ปี กว่า 30% จะมีปัญหาเกี่ยวกับสายตาและนิยมใส่แว่นมากกว่าคอนแทค ซึ่งแนวโน้มในตลาดนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ดังนั้นในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายจะโตขึ้น 40% จากการที่สินค้าของบริษัทมีเทคโนโลยีและการทำสื่อประชาสัมพันธ์ ภายใต้งบทางการตลาดกว่า 30 ล้านบาท โดยมีบริษัท ดีทแฮล์มเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าผ่านร้านแว่นตาและร้านขายยา
ปัจจุบันตลาดวิชั่นแคร์มีมูลค่าตลาดประมาณ 1,000 ล้านบาท ผู้นำตลาด คือ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ขณะที่บอช แอนด์ ลอมบ์อยู่ในอันดับ 2 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 30% โดยบริษัทยังตั้งเป้าภายใน 3 ปีนี้จะก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 แทนจอห์นสันฯ
สำหรับยอดรายได้รวมปีนี้ในส่วนเครื่องมือสำหรับการผ่าตัดตาและวิชั่นแคร์ตั้งเป้า 420 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 20% ขณะปียอดรายได้ปี 2547 มีรายได้ 350 ล้านบาท
นายสตีฟ เชา รองประธานฝ่ายปฏิบัติการด้านพาณิชย์ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท บอช แอนด์ ลอมบ์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับดวงตาจากอเมริกา เปิดเผยว่า ตลาดอายแคร์หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับดวงตาในเอเชียมีอัตราการเติบโตสูงกว่า 10% โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นและจีน ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทยมียอดขายที่สูงและโต 20% บริษัทจึงโฟกัสไทยเป็นตลาดหลัก โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจเครื่องมือผ่าตัดดวงตา ที่ใช้ขั้นตอนการจดทะเบียนไม่นานประมาณ 1 เดือน ขณะที่ญี่ปุ่นใช้เวลา 5 ปี จึงเป็นอุปสรรคในการขยายตลาด นอกจากนี้บริษัทยังมองที่จะเข้าไปทำตลาดในประเทศที่เศรษฐกิจมีการพัฒนา อย่าง จีน อินเดีย และมาเลเซีย โดยในปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆอยู่เสมอ เช่น เครื่องมือผ่าตัดต้ออกระจก,คอนแทคเลนส์สูตรใหม่ เป็นต้น
ทั้งนี้ธุรกิจหลักของบริษัทมี 3 ส่วน ประกอบด้วย กลุ่มวิชั่นแคร์ อาทิ คอนแทคเลนส์และน้ำยาล้างเลนส์ กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับการผ่าตัดตา และยาที่ใช้สำหรับตา ในส่วนของประเทศไทยขณะนี้มี 2 กลุ่มแรก ในส่วนของยาตาเตรียมเปิดตลาดประมาณกลางปีถึงปลายปีนี้ เนื่องจากมองว่าตลาดยังมีการเติบโตที่สูง ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เปิดตลาดไทยเพราะขั้นตอนในการดำเนินการจดทะเบียนยาต้องใช้เวลานานประมาณ 2 ปี แต่ในอนาคตเชื่อว่าจะเป็นตลาดที่บริษัทต้องโฟกัส
นายธงชัย ถวิลแก้ว ผู้จัดการฝ่ายเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับการผ่าตัดตของ บอช แอนด์ ลอมบ์ในอินโดจีนและไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯจะเน้นทำตลาดในส่วนเครื่องมือและอุปกรณ์ผ่าตัดตามากขึ้น โดยจะร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นกลุ่มโรงพยาบาลและแพทย์ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในเรื่องการให้ความรู้และข้อมูลแก่แพทย์โดยตรง
ล่าสุดบอช แอนด์ ลอมบ์เปิดตัวเครื่องมือผ่าดวงตา เลเซอร์ Zyoptix 100 โดยเตรียมเปิดตัวที่ศูนย์รามา เอ็กไซเมอร์ เลเซอร์ที่รพ.รามาธิบดีเป็นแห่งแรก และเตรียมนำเข้าเครื่องอีกในปีนี้ 2-3 ศูนย์
ปัจจุบันลูกค้าของบริษัทฯในส่วนของครื่องผ่าตัดมีทั้งโรงพยาบาลเอกชนและรัฐบาล อาทิ รพ.รัตนิน ในส่วนของเครื่องสลายต้อตา เช่น รพ.ศิริราช เป็นต้น โดยบริษัทตั้งเป้ายอดรายได้สิ้นปีนี้ 140 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 40% ขณะปีที่แล้วมียอดขาย 100 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวม 1,000 ล้านบาท
ขอ3 ปีล้มจอหน์สันฯขึ้นแท่นผู้นำ
นางชัชณี อนันต์วัฒนพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิชั่นแคร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดวิชั่นแคร์ อาทิ คอนแทคเลนส์และน้ำยาล้างเลนส์ในไทยยังมีขนาดเล็ก ซึ่งจากผลวิจัยจะพบว่าคนไทยอายุ 15-45 ปี กว่า 30% จะมีปัญหาเกี่ยวกับสายตาและนิยมใส่แว่นมากกว่าคอนแทค ซึ่งแนวโน้มในตลาดนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ดังนั้นในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายจะโตขึ้น 40% จากการที่สินค้าของบริษัทมีเทคโนโลยีและการทำสื่อประชาสัมพันธ์ ภายใต้งบทางการตลาดกว่า 30 ล้านบาท โดยมีบริษัท ดีทแฮล์มเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าผ่านร้านแว่นตาและร้านขายยา
ปัจจุบันตลาดวิชั่นแคร์มีมูลค่าตลาดประมาณ 1,000 ล้านบาท ผู้นำตลาด คือ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ขณะที่บอช แอนด์ ลอมบ์อยู่ในอันดับ 2 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 30% โดยบริษัทยังตั้งเป้าภายใน 3 ปีนี้จะก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 แทนจอห์นสันฯ
สำหรับยอดรายได้รวมปีนี้ในส่วนเครื่องมือสำหรับการผ่าตัดตาและวิชั่นแคร์ตั้งเป้า 420 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 20% ขณะปียอดรายได้ปี 2547 มีรายได้ 350 ล้านบาท