xs
xsm
sm
md
lg

ศูนย์ลดอ้วนระอุสองยักษ์แย่งผู้นำ หมอเลี้ยบนำบอดี้เชพลุย-มารีฟรานซ์ตั้งป้อมสกัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มารีฟรานซ์หนาวบอดี้เชพงัดกลยุทธ์เด็ดหวังโค่นผู้นำตลาดลดน้ำหนักและดูแลสัดส่วนเปิดตัวยุทธศาสตร์ใหม่ “บอดี้เชพ เรฟโวลูชั่น ปฏิบัติการลับ 3...4...5”   ทุ่มงบลงทุนปีนี้กว่า 200 ล้านบาทต่อยอดธุรกิจ 3 แบรนด์เดิม    พร้อมเตรียมเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ 2 แบรนด์ “เอ็กซ์คลูเซีย บอดี้เชพ” ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีโต 60%    ด้านมารีฟรานซ์อัดงบ 100 ล้านรับมือป้องกันแชมป์ เปิดเกมการตลาดแนวใหม่


น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานที่ปรึกษา บริษัท บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจสถาบันลดไขมันและดูแลสัดส่วนมีการแข่งขันที่รุนแรงมาก เนื่องจากปัจจุบันนี้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพของตัวเองมากขึ้น จึงทำให้ตลาดดังกล่าวนี้โตขึ้นทุกปี ดังนั้นในปีนี้บอดี้เชพจึงมีการต่อยอดธุรกิจด้วยการทุ่มงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ในส่วนของการขยายธุรกิจใน 3 แบรนด์เดิม ได้แก่ บอดี้เชพ,ปราณลีและคริสตี้ ฟรองซ์ รวมถึง 2 แบรนด์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในปีนี้ เพื่อก้าวไปสู่ตำแหน่งผู้นำตลาดแทนมารีฟรานซ์ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากกว่า 40% ในสิ้นปีนี้

ล่าสุดบอดี้เชพเปิดตัวยุทธศาสตร์ใหม่ “บอดี้เชพ เรฟโวลูชั่น ปฏิบัติการลับ 3...4...5”  โดยตัวเลข 3 หมายถึง เป้าหมาย 3 ประการ ได้แก่ การขึ้นเป็นผู้นำตลาดการลดน้ำหนักอันดับ 1 แทนมารีฟรานซ์ และการเป็นผู้นำนวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ รวมถึงการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจในรูปแบบต่างๆ อาทิ ขายผลิตภัณฑ์ของบอดี้เชพในประเทศแถบเอเชีย คาดว่าจะเริ่มได้ในเดือนก.ค.นี้ หรือการเป็นที่ปรึกษาธุรกิจทางด้านสปาให้กับต่างประเทศ เป็นต้น

ส่วนเลข 4 หมายถึง ยุทธศาสตร์ 4 ประการที่จะขึ้นแท่นเป็นผู้นำและเพิ่มสัดส่วนยอดรายได้ ประกอบด้วย การเจาะกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เอบวกถึงซี ,การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ในช่องทางใหม่ๆ เช่น ขายสินค้าผ่านช่องทางที่เป็นแมส   และการให้ความรู้และผลิตบุคลากร ซึ่งทางบอดี้เชพได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งในการตั้งสถาบันที่ผลิตบุคลากรทางด้านนี้ออกมาสู่ตลาด โดย 1 คอร์สจะมีผู้เข้าอบรม 60 คน คาดว่าอีกประมาณ 2 เดือนจะเปิดตัวโครงการนี้ได้   รวมทั้งยุทธศาสตร์การร่วมมือกับพันธมิตรมากขึ้นในปีนี้ 

เลข  5 หมายถึง แบรนด์ของบริษัททั้ง 5 ปัจจุบันมี 3 แบรนด์ ประกอบดัวย บอดี้เชพทำธุรกิจเกี่ยวกับศูนย์ลดน้ำหนักและดูแลสัดส่วน กลุ่มเป้าหมายเอลบถึงบีบวก ปัจจุบันมี 19 สาขาทั่วประเทศ และปีนี้เตรียมเปิดที่สยามพารากอน ภายใต้งบกว่า 60 ล้านบาท

ส่วนปราณลี ทำธุรกิจเกี่ยวกับสปาและสุขภาพ โดยมีกลุ่มเป้าหมายระดับเอบวก ปัจจุบันมี 1 สาขาตั้งที่อาคารชินวัตร 3 เตรียมเปิดสาขาที่ 2 ที่สยามพารากอน ด้วยงบลงทุนกว่า 60 ล้านบาท และอีกธุรกิจ คือ คริสตี้ฟรองซ์ เป็นสถาบันลดน้ำหนักที่จับกลุ่มกลุ่มเป้าหมายบีถึงซีบวก ขณะนี้มี 7 สาขา แบ่งเป็นของบริษัท 2 แห่ง อีก 5 แห่งเป็นของแฟรนไชส์ โดยในปีนี้ตั้งเป้าขายแฟรนไชส์อีก 13 แห่ง เน้นที่ตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก 

สำหรับ 2 แบรนด์น้องใหม่เตรียมจะเปิดตัวในปีนี้ คือ “เอ็กซ์คลูเซีย บอดี้เชพ” ศูนย์ลดน้ำหนักครบวงจรที่เจาะกลุ่มระดับบน ช่วงแรกจะเปิดควบคู่กับปราณลีสปาก่อน โดยสาขาแรกจะเปิดที่ชินวัตร 3 เดือนพ.ค.นี้ ส่วนสาขาที่ 2 เตรียมเปิดที่สยามพารากอน ใช้งบลงทุนกว่า 60 ล้านบาท   ส่วนอีกแบรนด์ที่คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนก.ค.   จะเจาะกลุ่มตลาดล่าง โดยแบรนด์ดลุ่มนี้คาดว่าจะเป็นในส่วนของผลิตภัณฑ์บอดี้เชพ ซึ่งจะมีการวางขายในตลาดทั่วไปและตลาดต่างประเทศ  โดยเฉพาะย่านเอเชีย

นางปราณี สืบวงศ์ลี กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทบอดี้เชพ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้นมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคบ้างแต่ก็ไม่มาก เพราะเรื่องความสวยความงามเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคยอมจ่ายเงินอยู่แล้ว โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของลูกค้าเวลานี้อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นกว่าบาท

ด้านงบทางการตลาดปีนี้ใช้ประมาณ 80-90 ล้านบาท โดยปีนี้พรีเซ็นเตอร์หลักของบอดี้เชพยังคงเป็นธิดาช้าง ดุจดาว  ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ในกลุ่มไขมันส่วนเกิน   ส่วนหมิว ลลิตา ศศิประภาจะเป็นพรีเซ็นเตอร์ในกลุ่มเซลลูไลท์  ขณะที่ยอดรายได้สิ้นปีบริษัทฯตั้งเป้ารายได้รวมทั้ง 5 แบรนด์ 450 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโต 60%

ตลาดรวมของสถาบันลดไขมันและดูแลสัดส่วนปี 2547 มียอดรายได้รวม 1,100 ล้านบาทและอัตราการเติบโต 15% ผู้นำตลาด คือ มารีฟรานซ์ มีส่วนแบ่งทางตลาด 39% บอดี้เชพอยู่อันดับ 2 ครองส่วนแบ่ง 25% ฟิลิป เวน 13.5% อื่นๆ 22.5% ส่วนปีนี้คาดการณ์ว่าตลาดรวมจะโต 15%

*********************************************************

มารีฟรานซ์ตั้งป้อมรักษาบัลลังก์

นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยถึง ภาวะธุรกิจลดน้ำหนักและสัดส่วน ปี 2548 ว่า ยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวได้อีกมาก แต่ในขณะเดียวกันในตลาดก็มีเพิ่มมากขึ้น ทั้งในส่วนของผู้อยู่ในตลาดเดิม และการกระโดดเข้ามาของธุรกิจหน้าใหม่ ซึ่งมารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ คงต้องดำเนินการทางการตลาด และเสริมจุดแข็ง เพื่อรักษาตำแหน่งทางการตลาดที่เป็นอันดับหนึ่งในเอเชียและประเทศไทย

ปัจจุบัน มารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ ครองส่วนแบ่งตลาด 55 % จากมูลค่าตลาดธุรกิจลดน้ำหนักและสัดส่วนกว่า 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯเตรียมเปิดกิจกรรมการตลาดแนวใหม่ รวมทั้งนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลประกอบการของบริษัทฯเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีการเติบโต 25% และคาดว่าปี 2548 บริษัทฯจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 30% โดยจะเน้นแผนทำตลาดเชิงรุก ปรับกลยุทธ์ภายใต้แนวคิดใหม่ “New Innovation New Communication” มุ่งจัดกิจกรรมการตลาดที่มีความหลากหลาย ปรับแผนการสื่อสารการตลาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

“การรุกตลาดในปี ’48 ทุ่มเงินกว่า 100 ล้านบาท จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างความภักดีต่อตราสินค้า สร้างความเป็นที่หนึ่งในธุรกิจนี้ ซึ่งมุ่งเน้นการรักษาและเพิ่มฐานลูกค้าควบคู่กันไป วางเป้าหมายเพิ่มสมาชิกอีก 30% จากจำนวนลูกค้าที่เป็นสมาชิกในปัจจุบันจำนวน 50,000 รายที่ใช้บริการต่อเนื่อง  สำหรับลูกค้ากลุ่มหลักของมารีฟรานซ์ฯ ปัจจุบันเป็นผู้หญิงวัยทำงาน อายุ 25 ปีขึ้นไป จำนวน 80% นักศึกษา 15% และผู้ชาย 5% เข้าใช้บริการที่สาขาที่มีอยู่ทั้งหมด 12 สาขา แบ่งเป็น 8 สาขา มีที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพ และ 4 สาขาอยู่ในต่างจังหวัด

“จุดขายที่นำมาใช้ได้มุ่งเน้นไปที่บริการ ซึ่งลูกค้าสามารถไปรับบริการจากสาขาในประเทศ ที่ตั้งในทำเลสะดวก ซึ่งมีทั้งสำนักงานเช่า ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และต่างประเทศที่มีเครือข่ายทั้งในเอเชียและยุโรป ได้แก่ ฮ่องกง อินโดนีเซีย บรูไน สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ สวิสเซอร์แลนด์ อังกฤษ เป็นต้น โดยลูกค้าที่เป็นสมาชิกในประเทศ หากต้องเดินทางไปต่างประเทศ สามารถแจ้งความประสงค์ เข้ารับบริการในสาขาที่เครือข่ายอยู่ได้เช่นเดียวกัน”

จุดแข็งของมารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ คือ ความเป็นสถาบันลดน้ำหนัก และสัดส่วนจาก สวิสเซอร์แลนด์ ที่มีสาขาใน 74 แห่ง กระจายอยู่ในประเทศใหญ่ๆอยู่กว่า 11 ประเทศทั่วโลก  ล่าสุดมารีฟรานซ์ฯ ทุกประเทศทั่วโลกได้รับรางวัล Super brands









กำลังโหลดความคิดเห็น