"รีจอยส์" ฉีกกระแสตลาด จับมือค่ายเพลงดังอาร์.เอส.ดึง"ตอง-ภัครมัย โปตระนันทน์"ทำไทอิน พ่วงบีโลว์เดอะไลน์ครบสูตร ประเดิมจัดประกวดร้องเพลง"Rejoice Beauty Voice Contest" สร้างกระแสทั่ว 4 ภาค หมายตาเจาะตลาดแมส-กลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมเตรียมนำเพลง"เปลี่ยน"ประกอบภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ หวังชิงแชร์จากซันซิลขยับเพิ่มจาก6.3%ในปัจจุบัน
แหล่งข่าวจากบริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ได้จับมือร่วมกับบริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ พีแอนด์จี โดยนำอัลบั้มชุด CHANGES ของศิลปิน"ตอง-ภัครมัย โปตระนันทน์" ภายใต้เพลง"เปลี่ยน"มาทำไทอิน โดยมีตราสินค้ารีจอยส์ร่วมประกอบมิวสิควิดีโอเพลงนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์เพลง การเปลี่ยนแปลงบุคลิกให้มีความทันสมัย อีกทั้งในมิวสิคยังเน้นถึงผมของศิลปิน ภาพของการใช้แชมพูสระผม การสยายผม รวมทั้งยังมีป้ายโฆษณาแฝงไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ทางพีแอนด์จี ยังจะนำเพลง"เปลี่ยน"ไปทำภาพยนตร์โฆษณาเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ด้วย โดยเพลงเปลี่ยนทางค่ายได้แต่งมาเพื่อการทำโฆษณาชิ้นนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งมีแผนที่จะทำบีโลว์เดอะไลน์ร่วมกัน โดยจะจัดการประกวดร้องเพลง"Rejoice Beauty Voice Contest" ภายใต้เพลง"เปลี่ยน" เปิดโอกาสให้สาวผมสวย เสียงดี อายุระหว่าง 18-25 ปี เข้าแข่งขันร้องเพลงชิงเงินรางวัลกว่า 200,000 บาท และมีโอกาสร่วมงานกับอาร์.เอส. การประกวดจะเริ่มในเดือนพฤษภาคมนี้ ประเดิมที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นแห่งแรก และภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ตามลำดับ
"ทางเราได้คุยเกี่ยวกับความร่วมมือครั้งนี้กันตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนสาเหตุที่รีจอยส์เลือกตองเป็นศิลปินทำไทอินกับผลิตภัณฑ์นั้น เป็นเพราะว่าตองมีภาพลักษณ์ที่ดี ผมยาวสวย ดูเป็นผู้หญิงที่ทันสมัย อีกทั้งยังดูเป็นแมสสามารถทำให้เข้าถึงผู้กลุ่มเป้าหมายในวงกว้างได้มากกว่า รวมทั้งสามารถเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้"
แหล่งข่าว กล่าวว่า การร่วมมือกันระหว่างอาร์.เอส.และพีแอนด์จีในครั้งนี้ เป็นนโยบายของบริษัทอาร์.เอส.ที่ต้องการสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับการดำเนินธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ของบริษัทมากขึ้น อีกทั้งยังมองว่าแนวโน้มการทำไทอินร่วมกับสินค้าจะมีให้เห็นมากขึ้นในปีนี้ รวมทั้งการใช้สื่ออื่นๆ ที่จะมีการทำไทอินมากขึ้นตามมา
การทำไทอินของรีจอยส์ ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของแชมพูรีจอยส์ ซึ่งก่อนหน้ารีจอยส์ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา พร้อมกับชูจุดขายเมื่อสระผมแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนกับการอบไอน้ำ ตามด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาเหมือนทำ"แฮร์สปา" และล่าสุดเป็นการทำไทอิน โดยนำ"ตอง-ภัครมัย" ค่ายอาร์.เอส.มาโปรโมตแชมพูรีจอยส์ในตลาดระดับแมส เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากค่ายคู่แข่งอย่างซันซิล
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การทำตลาดที่ผ่านมา ค่ายพีแอนด์จีจะให้ความสำคัญกับการใช้พรีเซ็นเตอร์มากขึ้น เพราะการแข่งขันตลาดแชมพูมีความรุนแรง อีกทั้งสภาพตลาดยังมีอัตราการบริโภคเกือบ 100% ทุกครัวเรือนแล้วทำให้ตลาดเติบโตน้อย ซึ่งการนำบุคคลที่มีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ จะสร้างการรับรู้ในวงกว้างได้มากกว่าและรวดเร็วมากขึ้น อีกทั้งแชมพูก็เป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่ง ที่ขายความคาดหวัง ว่าจะมีผมสวยเหมือนพรีเซ็นเตอร์ เช่นเดียวกับเครื่องสำอางค์ที่ขายความคาดหวังกับกลุ่มผู้บริโภค
โดยพีแอนด์จี เริ่มเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนแรก "นุ่น - วรนุช วงศ์สวรรค์" พรีเซ็นเตอร์แชมพูแพนทีน สูตรใหม่ พร้อมกับนำ"อุ้ม-สิริยากร พุกกะเวส" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการนำบุคคลที่มีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในโฆษณาแชมพูแพนทีนในรอบหลายปี และเป็นกลยุทธ์ของทางพีแอนด์จี ที่ต้องการขยายฐานแชมพูพรีเมียมไปสู่ตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น ตามด้วยการนำ"แองจี้ เฮสติ้งส์"มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แชมพูเฮดแอนด์โชว์เดอร์
สำหรับส่วนแบ่งตลาดรอบล่าสุดเดือนก.พ.ปี 2547เทียบกับปี 2548 พีแอนด์จี ครองส่วนแบ่งโดยรวมลดลงจาก 32% เป็น 29% แพนทีนเท่าเดิม 12.6% รีจอยส์ 8.8% เป็น 6.3% เฮดแอนด์โชว์เดอร์ 8.5% เป็น 8.3% แคร์รอล เฮอร์เบิลเอสเซนส์ 1.6% เป็น 1.3% จากมูลค่าตลาดแชมพูรวม 6,750 ล้านบาท ซึ่งปีนี้คาดว่าแนวโน้มตลาดจะโต 1-2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโต 4%