กรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยผลการประกาศอัตราขั้นสุดท้ายของอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) และอากรตอบโต้การอุดหนุน(VCD) โดยไทยไม่ถูกเรียกเก็บ VCD แต่ถูกเรียกเก็บ AD เพราะการอุดหนุนอยู่ในระดับต่ำมาก ระบุสาเหตุที่ไทยไม่ถูกเรียกเก็บ VCD เป็นผลจากการร่วมมือของภาครัฐและเอกชนในการเตรียมความพร้อมข้อเท็จจริงต่อการส่งออก
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประกาศอัตราขั้นสุดท้ายของอากร AD และการอุดหนุน (VCD) สำหรับสินค้าเม็ดพลาสติกชนิดใช้ทำขวดจากไทยและประเทศอื่น ๆ อีก 3 ประเทศแล้ว โดยไทยจะไม่ถูกสหรัฐเรียกเก็บอากร CVD เนื่องจากสหรัฐพบการอุดหนุนในระดับต่ำมากไม่ถึงร้อยละ 2 ซึ่งถือเป็นเกณฑ์ที่องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) กำหนดว่าไม่ให้เรียกเก็บอากรตอบโต้ โดยสินค้าดังกล่าวของไทยจะถูกเรียกเก็บอากร AD ในอัตราร้อยละ 24.83-41.28 ขณะที่ประเทศอื่น ๆ มีอัตราที่แตกต่างกันไป อาทิ อินเดีย AD ร้อยละ 21.05-52.54 CVD ร้อยละ 6.15-20.26 อินโดนีเซีย AD ร้อยละ 18.41-27.61 ไต้หวัน AD ร้อยละ 0.10 (de minitinis)
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การที่ไทยไม่ถูกเรียกเก็บ CVD เป็นผลมาจากการที่กรมการค้าต่างประเทศได้ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในการต่อสู้ โดยการเตรียมความพร้อมแก่ผู้ส่งออกไทย การจัดเตรียมข้อมูลและข้อเท็จจริงให้พร้อมต่อการตรวจสอบ ตลอดจนการวางกลยุทธ์ร่วมกับทุกฝ่าย ซึ่งคาดว่าคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ (ITC) ของสหรัฐจะประกาศผลการพิจารณาความเสียหายขั้นสุดท้ายประมาณปลายเดือนเมษายนนี้ และหาก ITC ยืนยันว่าอุตสาหกรรมภายในของสหรัฐได้รับความเสียหายจากการนำเข้าสินค้าของประเทศดังกล่าว สหรัฐจะใช้มาตรการ AD และ CVD อย่างเป็นทางการกับสินค้าเม็ดพลาสติก ประมาณต้นเดือนพฤษภาคมนี้
ทั้งนี้ ไทยส่งออกสินค้าดังกล่าวในมูลค่าที่สูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2545-2547) มูลค่าการส่งออกขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 46 ต่อปี โดยมูลค่าการส่งออกปี 2547 อยู่ที่ 10,602 ล้านบาท ตลาดหลักได้แก่ ญี่ปุ่น ร้อยละ 21 สหรัฐ ร้อยละ 19 นอกนั้นเป็นการส่งออกกระจายไปหลายประเทศในหลายภูมิภาคทั่วโลก
“สินค้าเม็ดพลาสติกของไทยเป็นสินค้าหนึ่งในหลายรายการที่ถูกหลายประเทศใช้มาตรการ AD แล้ว และอยู่ระหว่างถูกไต่สวน AD ด้วย จึงขอให้ผู้ส่งออกให้ความสนใจการกำหนดปริมาณส่งออกในตลาดต่าง ๆ ที่เหมาะสมและราคาส่งออกที่ไม่เป็นตามภาวะการตัดราคาในตลาดมากเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกไต่สวนเพื่อใช้มาตรการต่าง ๆ กับสินค้าไทย ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกและหรือเสียตลาดในอนาคต” นายราเชนทร์ กล่าว
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประกาศอัตราขั้นสุดท้ายของอากร AD และการอุดหนุน (VCD) สำหรับสินค้าเม็ดพลาสติกชนิดใช้ทำขวดจากไทยและประเทศอื่น ๆ อีก 3 ประเทศแล้ว โดยไทยจะไม่ถูกสหรัฐเรียกเก็บอากร CVD เนื่องจากสหรัฐพบการอุดหนุนในระดับต่ำมากไม่ถึงร้อยละ 2 ซึ่งถือเป็นเกณฑ์ที่องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) กำหนดว่าไม่ให้เรียกเก็บอากรตอบโต้ โดยสินค้าดังกล่าวของไทยจะถูกเรียกเก็บอากร AD ในอัตราร้อยละ 24.83-41.28 ขณะที่ประเทศอื่น ๆ มีอัตราที่แตกต่างกันไป อาทิ อินเดีย AD ร้อยละ 21.05-52.54 CVD ร้อยละ 6.15-20.26 อินโดนีเซีย AD ร้อยละ 18.41-27.61 ไต้หวัน AD ร้อยละ 0.10 (de minitinis)
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การที่ไทยไม่ถูกเรียกเก็บ CVD เป็นผลมาจากการที่กรมการค้าต่างประเทศได้ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในการต่อสู้ โดยการเตรียมความพร้อมแก่ผู้ส่งออกไทย การจัดเตรียมข้อมูลและข้อเท็จจริงให้พร้อมต่อการตรวจสอบ ตลอดจนการวางกลยุทธ์ร่วมกับทุกฝ่าย ซึ่งคาดว่าคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ (ITC) ของสหรัฐจะประกาศผลการพิจารณาความเสียหายขั้นสุดท้ายประมาณปลายเดือนเมษายนนี้ และหาก ITC ยืนยันว่าอุตสาหกรรมภายในของสหรัฐได้รับความเสียหายจากการนำเข้าสินค้าของประเทศดังกล่าว สหรัฐจะใช้มาตรการ AD และ CVD อย่างเป็นทางการกับสินค้าเม็ดพลาสติก ประมาณต้นเดือนพฤษภาคมนี้
ทั้งนี้ ไทยส่งออกสินค้าดังกล่าวในมูลค่าที่สูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2545-2547) มูลค่าการส่งออกขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 46 ต่อปี โดยมูลค่าการส่งออกปี 2547 อยู่ที่ 10,602 ล้านบาท ตลาดหลักได้แก่ ญี่ปุ่น ร้อยละ 21 สหรัฐ ร้อยละ 19 นอกนั้นเป็นการส่งออกกระจายไปหลายประเทศในหลายภูมิภาคทั่วโลก
“สินค้าเม็ดพลาสติกของไทยเป็นสินค้าหนึ่งในหลายรายการที่ถูกหลายประเทศใช้มาตรการ AD แล้ว และอยู่ระหว่างถูกไต่สวน AD ด้วย จึงขอให้ผู้ส่งออกให้ความสนใจการกำหนดปริมาณส่งออกในตลาดต่าง ๆ ที่เหมาะสมและราคาส่งออกที่ไม่เป็นตามภาวะการตัดราคาในตลาดมากเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกไต่สวนเพื่อใช้มาตรการต่าง ๆ กับสินค้าไทย ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกและหรือเสียตลาดในอนาคต” นายราเชนทร์ กล่าว