บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย ระบุความคืบหน้าการก่อสร้างหอบังคับการบินที่สุวรรณภูมิ มีแล้วกว่าร้อยละ 84 พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เรดาร์แล้วเรียบร้อย คาดงานทั้ง 2 ส่วนจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 6 มิถุนายนก่อนจะนำเครื่องบินขึ้นลงทดสอบ
นายศรีศักดิ์ ว่องส่งสาร รองผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) กล่าวภายหลังนำคณะสื่อมวลชน เยี่ยมชมความคืบหน้าการก่อสร้างหอบังคับการบิน ที่อากาศยานสุวรรณภูมิว่า ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 84 ทั้งหอบังคับการ หรือทาวเวอร์ แคป ที่มีความสูงที่สุด 132.2 เมตร รวม 11 ชั้น ซึ่งเป็นจุดที่การก่อสร้างค่อนข้างยุ่งยาก เพราะเป็นงานก่อสร้างในที่สูงและมีเนื้อที่จำกัด
ขณะที่การก่อสร้างอาคารออฟฟิศสำนักงาน ในวันนี้ได้เริ่มการเข้าติดตั้งอุปกรณ์สำนักงานในชั้นที่ 4-5 แล้ว ซึ่งงานทั้ง 2 ส่วนนี้ จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 6 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ก่อนที่จะมีการทดสอบระบบไปจนถึงวันที่ 27 กันยายน 2548 ขณะที่การติดตั้งอุปกรณ์ระบบติดตามอากาศยานหรือเรดาร์ และเครื่องช่วยการเดินอากาศต่าง ๆ ได้ติดตั้งแล้วเสร็จหมดแล้ว เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญช่วยให้การนำเครื่องบินขึ้นลงทดสอบระบบอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 29 กันยายนนี้ เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้อย่างแน่นอน
“ระบบเครื่องช่วยเดินอากาศนี้ ต้องมีมาตรฐานจากข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ช่วยนำเครื่องบินเข้าสู่ท่าอากาศยาน ร่อนลงสู่ทางวิ่งได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ซึ่ง บวท.ได้นำอุปกรณ์ที่มีความทันสมัยมากที่สุด มีระบบคอมพิวเตอร์ที่เที่ยงตรงและแม่นยำ ช่วยลดภาระของผู้ควบคุมจราจรทางอากาศ สามารถใช้ศักยภาพของท่าอากาศยานได้เต็มที่” นายศรีศักดิ์กล่าว
สำหรับหอบังคับการบินของสนามบินสุวรรณภูมินี้ ถือเป็นหอบังคับการบินที่มีความสูงที่สุดในโลก มีพื้นที่ใช้สอย 2,600 ตารางเมตร มีห้องปฏิบัติงาน 158 ตารางเมตร วงเงินก่อสร้าง 731 ล้านบาท
นายศรีศักดิ์ ว่องส่งสาร รองผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) กล่าวภายหลังนำคณะสื่อมวลชน เยี่ยมชมความคืบหน้าการก่อสร้างหอบังคับการบิน ที่อากาศยานสุวรรณภูมิว่า ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 84 ทั้งหอบังคับการ หรือทาวเวอร์ แคป ที่มีความสูงที่สุด 132.2 เมตร รวม 11 ชั้น ซึ่งเป็นจุดที่การก่อสร้างค่อนข้างยุ่งยาก เพราะเป็นงานก่อสร้างในที่สูงและมีเนื้อที่จำกัด
ขณะที่การก่อสร้างอาคารออฟฟิศสำนักงาน ในวันนี้ได้เริ่มการเข้าติดตั้งอุปกรณ์สำนักงานในชั้นที่ 4-5 แล้ว ซึ่งงานทั้ง 2 ส่วนนี้ จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 6 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ก่อนที่จะมีการทดสอบระบบไปจนถึงวันที่ 27 กันยายน 2548 ขณะที่การติดตั้งอุปกรณ์ระบบติดตามอากาศยานหรือเรดาร์ และเครื่องช่วยการเดินอากาศต่าง ๆ ได้ติดตั้งแล้วเสร็จหมดแล้ว เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญช่วยให้การนำเครื่องบินขึ้นลงทดสอบระบบอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 29 กันยายนนี้ เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้อย่างแน่นอน
“ระบบเครื่องช่วยเดินอากาศนี้ ต้องมีมาตรฐานจากข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ช่วยนำเครื่องบินเข้าสู่ท่าอากาศยาน ร่อนลงสู่ทางวิ่งได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ซึ่ง บวท.ได้นำอุปกรณ์ที่มีความทันสมัยมากที่สุด มีระบบคอมพิวเตอร์ที่เที่ยงตรงและแม่นยำ ช่วยลดภาระของผู้ควบคุมจราจรทางอากาศ สามารถใช้ศักยภาพของท่าอากาศยานได้เต็มที่” นายศรีศักดิ์กล่าว
สำหรับหอบังคับการบินของสนามบินสุวรรณภูมินี้ ถือเป็นหอบังคับการบินที่มีความสูงที่สุดในโลก มีพื้นที่ใช้สอย 2,600 ตารางเมตร มีห้องปฏิบัติงาน 158 ตารางเมตร วงเงินก่อสร้าง 731 ล้านบาท