กลุ่มโคคาสุกี้ขยายธุรกิจเปิดร้านกาแฟ เบเกอรี่ เร่งเจรจาซื้อแฟรนไชส์จากอิตาลี คาดปีนี้เห็นแน่ เบรกแผนร้านอาหารแบรนด์อื่นในประเทศ ทุ่ม 60 ล้านบาทรีโนเวทอย่างเดียวฉลอง 50 ปี บุกขยายสาขาในต่างประเทศหนัก ทั้งโคคาสุกี้และร้านแม็งโกทรี
นายอาร์ทเธ่อร์ เอเคี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท โคคาโฮลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการร้านกาแฟรายใหญ่ของอิตาลี เพื่อที่จะซื้อสิทธิ์ร้านกาแฟเข้ามาเปิดบริการในประเทศไทย คาดว่าจะสามารถสรุปรายละเอียดการเจรจาและเปิดสาขาแรกได้ภายในปีนี้แน่นอน ซึ่งเป็นแบรนด์ใหญ่ของอิตาลีมีสาขาเฉพาะในยุโรปยังไม่เคยขยายธุรกิจเข้ามาในเอเซีย ซึ่งไทยจะเป็นประเทศแรก
ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มโคคาก็ทำธุรกิจกาแฟมาบ้าง ด้วยการเปิดร้านกรัวซัง เฮ้าส์ ซึ่งจำหน่ายทั้งกาแฟ เบเกอรี่ ขนมปัง มี 2 สาขา คือ ที่ สยามเซ็นเตอร์และสุรวงศ์ ก่อนหน้านี้ปิดสาขาที่เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่าไปแล้ว ทั้งนี้ได้ปรับบทบาทของกรัวซังเฮ้าส์มาทำตลาดแบบโฮลเซล ด้วยการผลิตเบเกอรี่ ขนมปังจำหน่ายให้กับลูกค้ารายใหญ่ เช่น โรงพยาบาลสมิติเวช ร้านคอฟฟี่เวิลด์ เอสเอฟซีเนม่า เป็นต้น ซึ่งหากการเจรจากับอิตาลีเรียบร้อยมีแผนที่จะนำเอาแบรนด์กรัวซังเฮ้าส์นี้มารวมกันด้วย
สำหรับแผนการลงทุนธุรกิจร้านอาหารอื่นนั้น ในปีนี้คาดว่าจะไม่มีการขยายสาขาใหม่ๆในไทย ไม่ว่าจะเป็น โคคาสุกี้ มี 8 สาขา ส่วนร้านแม็งโกทรี ร้านโบตันเต ร้านนิคาอิ อย่างละ 1 สาขา แต่จะรีโนเวทสาขาเก่าด้วยงบรวมกว่า 60 ล้านบาทใน 2 ปีนี้เพื่อฉลองคบรอบ 50 ปีของกิจการในปี 2550 เช่นสาขาที่ทำแล้วคือ อังรีดูนังต์ สุขุมวิท39 สยามเซ็นเตอร์
โดยจะเน้นการขยายสาขาในต่างประเทศแทนโดยเฉพาะร้านโคคาสุกี้ในรูปแบบแฟรนไชส์ และร้านแม็งโกทรี ซึ่งขณะนี้โคคาสุกี้มีสาขาในต่างประเทศหลายแห่ง เช่น สิงคโปร์ 4แห่ง จีน 2 แห่ง อินโดนีเซีย 6 แห่ง ญี่ปุ่น 3 แห่ง มาเลเซีย 6 แห่ง ไต้หวัน 2 แห่ง พม่า ลาว เกาหลี ประเทศละ 1 แห่ง โดยจะเปิดร้านโคคาสุกี้ใหม่เช่นที่ เซี่ยงไฮ้
ส่วนร้านแม็งโกทรีมีในต่างประเทศแล้ว 6 แห่ง และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มเป็น 14 แห่ง สาขาใหม่เช่นที่ มุมไบ กัลกัตตา ดูไบ ญี่ปุ่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เป็นต้น รวมทั้ง 2 แบรนด์จะมีมากกว่า 10 แห่ง ซึ่งอินเดียน่าสนใจมากเพราะว่าเศรษฐกิจเติบโตดี และมีธุรกิจค้าปลีกเกิดขึ้นมากโดยในปีนี้จะมีเกิดใหม่กว่า 23 ศูนย์การค้า และเปิดอีก 300 แห่งในปีหน้า
เขากล่าวด้วยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 350 ล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปีที่แล้วที่ทำรายได้ 300 ล้านบาท ของร้านอาหารทุกแบรนด์ในเครือเฉพาะในประเทศเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นส่งผลต่อต้นทุนดำเนินการสูงขึ้นนั้น เขากล่าวว่า ยังไม่มีการปรับราคาแต่อย่างใด ยังเป็นราคาเดิมที่ใช้มา 2 ปีแล้ว แต่จะเพิ่มเมนูอาหารใหม่เป็นทางเลือก และควบคุมต้นทุนด้วยการ มอบหมายให้บริษัท บางกอก แร้นช์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบซัปพลายด้านการจัดหาวัตถุดิบและอาหารสดให้กับบริษัท เพราะมีความเชี่ยวชาญ เริ่มมาเมื่อปีที่แล้ว
ล่าสุดได้จัดแคมเปญ พาเหรดเป็ดอร่อย โดยนำเป็ดมาจัดเป็นเมนูที่หลากหลาย โดยตั้งเป้าหมายถึงสิ้นเดือนหน้าจะมียอดขายเป็ดกว่า 5,000 ตัว และเดือนเมษายนจัดแคมเปญ สุกี้ชุดแฟมิลี่ราคาพิเศษเพื่อรองรับกลุ่มครอบครัว
