xs
xsm
sm
md
lg

กระแสสุขภาพพลิกวงการน้ำดื่ม ค่ายยักษ์เปิดเกมบี้-ขวดขุ่นรอวันดับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ค่ายยักษ์ใหญ่ธุรกิจน้ำดื่มยิ้มรับ กระแสสุขภาพพลิกตลาดน้ำดื่มขวดใสมีตราสินค้าขาขึ้น พฤติกรรมคนไทยเปลี่ยนคำนึงถึงแบรนด์มากกว่าราคา แม่ค้าตู้แช่เริ่มอ้าแขนรับจำหน่ายเพิ่ม "เสริมสุข"เร่งเครื่องทำตลาดคริสตัลหนัก เดินเกมสร้างความแข็งแกร่งตราสินค้า 5 ปีขวดขุ่นสูญหายจากตลาดเหลือเฉพาะแบรนด์ท้องถิ่น


จากกระแสสุขภาพที่มาแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ไม่เพียงแต่ทำให้ธุรกิจชาเขียวพร้อมดื่ม น้ำผลไม้เติบโตเท่านั้น วงการธุรกิจน้ำดื่มยังพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย โดยเฉพาะน้ำดื่มจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง เสริมสุข สิงห์ ไทยน้ำทิพย์ เนสท์เล่ ฯลฯ ขณะที่น้ำดื่มขวดขุ่นหรือน้ำดื่มท้องถิ่นนับวันรอสูญหายไปจากตลาดอย่างช้าๆ

นายเพิ่มศักดิ์ ยิ้มดี ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ทีทีซี น้ำดื่มสยาม จำกัด เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน"ถึงภาพรวมตลาดน้ำดื่มมูลค่า 10,000 ล้านบาทว่า เริ่มเปลี่ยนแปลงไปช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ หลังจากที่กระแสสุขภาพมาแรง ทำให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การตัดสินใจซื้อน้ำดื่มจึงคำนึงถึงตราสินค้าและมีความน่าเชื่อถือมากกว่า และเริ่มมองว่าน้ำดื่มขวดขุ่น เป็นน้ำดื่มที่ไม่ได้มาตรฐาน แนวโน้มดังกล่าวทำให้ปัจจุบันสัดส่วนน้ำดื่มจากเดิมที่เป็นขวดขุ่นจาก 50% ลดเหลือแค่ 30-40% ขณะที่ขวดใสหรือเพ็ทสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 50%เป็น 60-70%

"อีก 5 ปี น้ำดื่มขวดขุ่นจะหายจากตลาดไป โดยเหลือเฉพาะน้ำดื่มท้องถิ่นเท่านั้น เท่าที่สังเกตผู้ประกอบการน้ำดื่มท้องถิ่นเอง ขณะนี้พยายามปรับตัวมากขึ้น ด้วยการผลิตน้ำดื่มที่เป็นขวดใสจำหน่ายแล้วเช่นกัน รวมทั้งยังกลยุทธ์ราคาที่ถูกกว่าในการทำตลาด แต่เชื่อว่าจะไม่ได้ผลอะไรมากนัก เพราะในยุคนี้ต้องบอกว่าการตัดสินใจซื้อสินค้ากลุ่มนี้เปลี่ยนไปแล้ว"

นายเพิ่มศักดิ์ กล่าวว่า ความได้เปรียบของค่ายใหญ่ในเวลานี้ คงเป็นเรื่องของตราสินค้าที่มีการตอกย้ำและสร้างการรับรู้ผ่านสื่อโฆษณาทางทีวีได้มากกว่า การมีระบบการกระจายสินค้าที่สามารถครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการทำโปรโมชั่น กิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง โดยความเคลื่อนไหวผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่าง ค่ายเสริมสุข ไทยน้ำทิพย์ และเนสท์เล่ ฯลฯ เริ่มขยายช่องทางจำหน่ายไปยังตู้แช่และร้านอาหารมากขึ้น จากเดิมจะให้ความสำคัญกับช่องทางจำหน่ายผ่านโรงแรม ร้านอาหาร ในลักษณะเข้าไปผูกติดกับแหล่งจำหน่ายประจำเป็นหลัก

นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พฤติกรรมการซื้อน้ำดื่มของคนไทยจะมาจากความคุ้นเคย ความน่าเชื่อถือ และการหาซื้อได้อย่างสะดวก ขณะเดียวกันก็มองถึงมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการรับรอง ซึ่งคาดว่าพฤติกรรมดังกล่าวจะทำให้ขวดขุ่นหายจากตลาดไปในที่สุด ขณะที่บรรจุภัณฑ์เพ็ทหรือขวดใสในปีที่ผ่านมาโตถึง 50-60% ส่วนแก้วโต 10%

"จากกระแสสุขภาพที่มาแรง ส่งผลให้กลุ่มเครื่องดื่มคริสตัลที่ทำตลาดครบ 10 ปี เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายโตสูงสุด 32% เกินเป้าที่ตั้งคือ 20% โดยจากผลวิจัยรอบล่าสุด พบว่าการรับรู้ตราสินค้าของคริสตัล เพิ่มมากขึ้นจาก 14% เป็น 51% ขณะที่น้ำสิงห์ผู้นำตลาดลดลงจาก 65% เหลือ 28% น้ำทิพย์ 12% เหลือ 4% และเนสท์เล่จาก 4% เพิ่มเป็น 12%"

การทำตลาดปีนี้ บริษัทจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับตราสินค้าภายใต้แนวคิด"คิดจะดื่มน้ำ ดื่มคริสตัล"เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 15-35 ปี โดยตอกย้ำน้ำดื่มคริสตัลเป็นน้ำดื่มคุณภาพ อีกทั้งยังเน้นกระจายสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค ซึ่งขนาด 600 มล.และ 1,500 มล.จะจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดและโชวห่วย โดยขณะนี้บริษัทจะสามารถเข้าถึงร้านค้าได้กว่า 30% ส่วนขวดแก้ว 500 มล.ผ่านร้านอาหารและโรงแรม โดยวางเป้าหมายไว้ว่าช่วง 3 ปีคริสตัลจะต้องโต30%ต่อปี สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้าโต 30%

น้ำแร่ต้องใช้เวลาสร้างตลาด
นายเพิ่มศักดิ์ กล่าวต่อถึงตลาดน้ำแร่แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ตลาดน้ำแร่นำเข้า และตลาดน้ำแร่ในประเทศ มีมูลค่ารวมประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน รักสุขภาพ โดยแนวโน้มตลาดน้ำแร่ยังค่อยเติบโตมากนัก เนื่องจากยังไม่ค่อยมีผู้ประกอบการให้ความรู้ไปยังกลุ่มผู้บริโภคอย่างจริงจังมากนัก ซึ่งหากมีการให้ความรู้คาดว่าตลาดดังกล่าวเติบโตเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันออร่าเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 37% มิเนเร่ 33% และอื่นๆ 11% ที่เหลือ 19% เป็นแบรนด์น้ำนำเข้า

ณ วันนี้ ไม่เพียงแต่ตลาดน้ำดื่มที่ได้รับอานิสงส์จากกระแสสุขภาพที่มาแรง แต่ตลาดเครื่องดื่มแนวแคชชวลดริงก์หรือสไตล์ลำลองก็เป็นอีกตลาดหนึ่งที่จับตามองเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่มไอเฟิร์ม ของค่ายยูนิ-เพรสซิเดนท์ หรืออไลฟ์จากค่ายโค้กยักษ์ใหญ่น้ำดื่ม ซึ่งก็ต้องมาดูว่าการสร้างตลาดเครื่องดื่มแคชชวลดริงก์ จะแจ้งเกิดหรือไม่ในตลาด รวมทั้งจะกลายเป็นตลาดที่บูมเช่นเดียวกับชาเขียวหรือไม่ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น