บีทูเอสส่ง 3 รูปแบบร้านลุยผุดสาขาใหม่ปี 2548 วางงบ 150 ล้านบาท เตรียมคลอดคอนเซ็ปต์ที่ 4 เร่งเครื่องหาพันธมิตรสร้างสีสัน เตรียมแผนโกอินเตอร์รับลูกซีอาร์ซี
นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีทูเอส จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้มีแผนขยายสาขาร้านบีทูเอสไม่ต่ำกว่า 30 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 90 สาขา วางงบประมาณเบื้องต้น 150 ล้านบาท โดยจะเลือกรูปแบบที่มีอยู่ให้เหมาะสมกับทำเลใหม่ หลังจากที่บีทูเอสกำหนดรูปแบบธุรกิจไว้ 3 รูปแบบแล้ว คือ ร้านขนาด 600 – 2,000 ตร.ม. เหมาะกับศูนย์การค้า มีจำนวนสินค้ากว่า 80,000 รายการ ปัจจุบันมี 30 สาขา
รูปแบบบีทูเอส เน็ตเวิร์ก เน้นเปิดกับกลุ่มซูเปอร์สโตร์ หรือห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นในต่างจังหวัดที่มีตลาดมีความต้องการหนังสือ เครื่องเขียนไม่ใหญ่นัก มีขนาด 150 -300 ตร.ม. มีจำนวนสินค้า 30,000 รายการ ปัจจุบันมี 27 สาขา และรูปแบบแมกกาซีน คอร์เนอร์ เหมาะกับค้าปลีกที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก มีขนาดเพียง 10 -50 ตร.ม. มีจำนวนสินค้า 1,000 รายการ เน้นกลุ่มหนังสือ ซึ่งปัจจุบันมี 33 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ในท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต
นอกจากทั้ง 3 รูปแบบแล้วบีทูเอสยังอยู่ระหว่างการออกแบบรูปแบบใหม่มีขนาดใหญ่กว่าสาขาชิดลม 2 เท่า ซึ่งจะถือว่าเป็นสาขาเมกกะสโตร์ของบีทูเอสที่ใหญ่ที่สุด โดยจะเกิดขึ้นสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ด พลาซ่าในปี 2549 โซนพลาซ่าใหม่ แต่หากมีทำเลที่ดีและตลาดมีความต้องการใกล้เคียงกับทำเลดังกล่าวก็สามารถเปิดได้
ด้านกลยุทธ์การตลาดในฐานะที่บีทูเอสเป็นเบอร์ 2 ของตลาดทั้งในแง่ยอดขายและจำนวนสาขา โดยมีซีเอ็ดเป็นเจ้าตลาดในธุรกิจร้านหนังสือ ขณะนี้หาพันธมิตรสำนักพิมพ์ต่างๆ อาทิ สนพ.มติชน, สนพ.บ้านวรรณกรรม เพื่อสร้างกิจกรรมพิเศษให้เกิดสีสัน รวมถึงการเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องเขียนให้มีความเป็นเทรนดี้มากขึ้น
ล่าสุดได้จับมือกับบริษัท สยามอินเตอร์ มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ในการเปิดมุมหนังสือ “มุมจอมยุทธ์” ในร้านหนังสือบีทูเอส 9 สาขาแรก และเตรียมจะขยายจนครบทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อรับกับกระแสตลาดนวนิยายหนังจีนกำลังภายในที่กำลังจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หลังจากที่กระแสดังกล่าวห่างหายไปจากวงการนวนิยายนานกว่า 20 ปีแล้ว
นายยุทธศักดิ์ กล่าวถึงแผนการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ว่า บีทูเอสจะไปพร้อมกับกลุ่มซีอาร์ซีมากกว่าไปเอง และหนังสือที่จำหน่ายจะต้องเน้นหนังสือภาษาอังกฤษ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนเตรียมการ
สำหรับผลประกอบการปี 2547 ปิดยอดขาย 2,300 ล้านบาท เติบโต 30% แบ่งเป็นกลุ่มหนังสือ 40% เครื่องเขียน 40% และกลุ่มเพลง หนัง 20% ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20%
นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีทูเอส จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้มีแผนขยายสาขาร้านบีทูเอสไม่ต่ำกว่า 30 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 90 สาขา วางงบประมาณเบื้องต้น 150 ล้านบาท โดยจะเลือกรูปแบบที่มีอยู่ให้เหมาะสมกับทำเลใหม่ หลังจากที่บีทูเอสกำหนดรูปแบบธุรกิจไว้ 3 รูปแบบแล้ว คือ ร้านขนาด 600 – 2,000 ตร.ม. เหมาะกับศูนย์การค้า มีจำนวนสินค้ากว่า 80,000 รายการ ปัจจุบันมี 30 สาขา
รูปแบบบีทูเอส เน็ตเวิร์ก เน้นเปิดกับกลุ่มซูเปอร์สโตร์ หรือห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นในต่างจังหวัดที่มีตลาดมีความต้องการหนังสือ เครื่องเขียนไม่ใหญ่นัก มีขนาด 150 -300 ตร.ม. มีจำนวนสินค้า 30,000 รายการ ปัจจุบันมี 27 สาขา และรูปแบบแมกกาซีน คอร์เนอร์ เหมาะกับค้าปลีกที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก มีขนาดเพียง 10 -50 ตร.ม. มีจำนวนสินค้า 1,000 รายการ เน้นกลุ่มหนังสือ ซึ่งปัจจุบันมี 33 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ในท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต
นอกจากทั้ง 3 รูปแบบแล้วบีทูเอสยังอยู่ระหว่างการออกแบบรูปแบบใหม่มีขนาดใหญ่กว่าสาขาชิดลม 2 เท่า ซึ่งจะถือว่าเป็นสาขาเมกกะสโตร์ของบีทูเอสที่ใหญ่ที่สุด โดยจะเกิดขึ้นสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ด พลาซ่าในปี 2549 โซนพลาซ่าใหม่ แต่หากมีทำเลที่ดีและตลาดมีความต้องการใกล้เคียงกับทำเลดังกล่าวก็สามารถเปิดได้
ด้านกลยุทธ์การตลาดในฐานะที่บีทูเอสเป็นเบอร์ 2 ของตลาดทั้งในแง่ยอดขายและจำนวนสาขา โดยมีซีเอ็ดเป็นเจ้าตลาดในธุรกิจร้านหนังสือ ขณะนี้หาพันธมิตรสำนักพิมพ์ต่างๆ อาทิ สนพ.มติชน, สนพ.บ้านวรรณกรรม เพื่อสร้างกิจกรรมพิเศษให้เกิดสีสัน รวมถึงการเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องเขียนให้มีความเป็นเทรนดี้มากขึ้น
ล่าสุดได้จับมือกับบริษัท สยามอินเตอร์ มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ในการเปิดมุมหนังสือ “มุมจอมยุทธ์” ในร้านหนังสือบีทูเอส 9 สาขาแรก และเตรียมจะขยายจนครบทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อรับกับกระแสตลาดนวนิยายหนังจีนกำลังภายในที่กำลังจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หลังจากที่กระแสดังกล่าวห่างหายไปจากวงการนวนิยายนานกว่า 20 ปีแล้ว
นายยุทธศักดิ์ กล่าวถึงแผนการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ว่า บีทูเอสจะไปพร้อมกับกลุ่มซีอาร์ซีมากกว่าไปเอง และหนังสือที่จำหน่ายจะต้องเน้นหนังสือภาษาอังกฤษ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนเตรียมการ
สำหรับผลประกอบการปี 2547 ปิดยอดขาย 2,300 ล้านบาท เติบโต 30% แบ่งเป็นกลุ่มหนังสือ 40% เครื่องเขียน 40% และกลุ่มเพลง หนัง 20% ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20%