เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวการปรับโครงสร้างของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ออกมาตามสื่อหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการปรับโครงสร้างใหญ่ขนาดนี้ จนกระทั่งมีข่าวลือตามมาหลายประเด็นไม่ว่าจะเป็น การดึงคนนอกเข้ามาดูแลด้านข่าว ทำไมโครงสร้างใหม่ต้องเป็นแบบนี้
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) สนทนากับ “ผู้จัดการรายวัน” ถึงประเด็นของการปรับโครงสร้างของ อสมท พร้อมกับประเด็นข่าวลือที่ตามมา
ข้อเท็จจริงที่ว่าจะมีคนนอกองค์กรอสมท เข้ามาร่วมนั่งบริหารด้วย
มิ่งขวัญ : ไม่มีอะไร การปรับโครงสร้างก็เป็นเรื่องปรกติ ต้องมีคนใน คนนอก คนใหม่ คนเก่า เข้ามาเป็นธรรมดา แต่จะมาจากไหนเป็นเรื่องของอดีต เมื่อก่อนเขาอาจจะอยู่ที่ใดมาก่อนก็ได้ แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ เราไม่ได้เจาะจงว่าเป็นใคร
อีกประการคือผมยังยืนยันว่าผมยังนั่งบริหารอยู่ที่อสมท ต่ออีก เพราะว่ายังมีภารกิจอีกมากที่ต้องสานต่อ ไม่ว่าจะเป็น สถานีโทรทัศน์โลก โมเดิร์นเรดิโอ ที่เพิ่งเริ่มต้นในการแยกเซ็กเม้นท์ของแต่ละคลื่นวิทยุที่เราทำ ยังมีงานอีกมาก หรือ โมเดิร์นไนน์ที่ต้องพัฒนาต่อไป หลังจากที่เราได้จุดประกายให้กับวงการโทรทัศน์จนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และผมยังบริหารงานด้านข่าวด้วย ยังไม่ได้ทิ้งไปไหน อย่าไปเชื่อข่าวลือว่าผมจะไม่บริหารด้านข่าวแล้ว หรือข่าวลือที่ว่าผมจะไม่อยู่ที่ อสมท ยืนยันว่าผมยังอยู่ที่นี่
ผังใหม่ที่ละเอียดของอสมท เป็นอย่างไร
มิ่งขวัญ : จริงๆแล้ว ภาพรวมยังเหมือนเดิม แต่มีการปรับเล็กน้อย โดยโครงสร้างใหม่ที่บอร์ดอสมทอนุมัติล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จะมี 8 สายงานหลักคือ 1.สายงานวิทยุและกิจกรรมพิเศษ 2.สายงานโทรทัศน์ 3.สายงานกิจการสำนักข่าวไทย 4.สายงานการตลาด 5. สายงานวิศวกรรมและเทคโนโลยี 6.สายงานการเงิน 7.สายงานการบริหาร 8.สายงานกิจการพิเศษ ซึ่งเดิมเราแบ่งออกเป็น 4 ส่วนงานเดิมได้แก่ ฝ่ายวิศวกรรม ฝ่ายบริหาร สถานีโทรทัศน์ และ สำนักข่าวไทย
ในแง่ของสำนักข่าวไทยเราก็ยังแยกออกเป็น 1.สำนักกิจการข่าวในประเทศ 2.สำนักกิจการขาวระหว่างประเทศ เพื่อการทำงานที่มีศักยภาพมากขึ้นเป็นต้น
ผังนี้จะมีข้อดีอย่างไร
มิ่งขวัญ : ถ้าพิจารณาให้ดีแล้ว ผังใหม่ของอสมท จะมีความชัดเจนและส่งผลดีต่อการทำงานมากขึ้น เพราะมีการแบ่งสายงานอย่างละเอียด และมีคนมาดูแลชัดเจน ทุกอย่างจะทำงานโดยตรง และการทำงานนั้นจะเร็วกว่าเดิมที่เคยเป็นรัฐวิสาหกิจอีกด้วย เพราะเราได้ลดระดับขั้นตอนการติดต่องานลงมา ทำให้เมื่อเกิดอะไรหรือมีประเด็นอะไรที่เกี่ยวกับการตัดสินใจจะทำให้ข้างบนทราบเรื่องเร็วขึ้น และสั่งการได้เร็วขึ้นด้วย
ตำแหน่งสำคัญที่มีการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติม
มิ่งขวัญ : โครงสร้างใหม่ที่เปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ก็เพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัวมากขึ้น มีการลดระดับสายงานลงให้เหลือน้อยที่สุด โดยหลักๆมีดังนี้ 1.การขยายออกไปเป็น 8 หน่วยงาน 2.มีการขยายอัตราตำแหน่งต่างๆอย่างชัดเจน คือ ตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่จากเดิมมี 4 อัตรา เพิ่มเป็น 8 อัตรา ส่วนระดับสำนักจากเดิมมี 9 อัตราเพิ่มเป็น 18 อัตรา ส่วนระดับฝ่ายหรือสำนักงานจากเดิมมี 24 ตำแหน่งเพิ่มเป็น 47 ตำแหน่ง เท่ากับว่ารวมแล้วจากเดิมมี 48 ตำแหน่งเพิ่มเป็น 87 ตำแหน่ง
3.การลดระดับสายงานบังคับบัญชา เพื่อสร้างความคล่องตัวในการปฎิบัติงาน จากเดิม อสมท มี 10 ระดับในการติดต่องาน แต่ว่าขั้นตอนการทำหนังสือจะเกินกว่า 12 ระดับ ทำให้การประสานงานล่าช้าไม่ทันกับการแข่งขันธุรกิจทีวี หรือสื่อ แต่การปรับใหม่ครั้งนี้จะเหลือแค่ 3 ระดับเท่านั้นเอง คือ 1. ระดับสำนักหรือ ผู้อำนวยการสำนัก (Vice President) 2.ระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (Executive Vice President) 3.ระดับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (President)
ตำแหน่งรองฯที่ยังว่างอยู่จะเพิ่มหรือไม่และจะรับใครเข้ามา
มิ่งขวัญ : ตอนนี้เรามีตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่จริงๆแค่ 4 คนเท่านั้นเองแต่มีถึง 8 อัตรารองรับไว้ จาก 8 สายงาน การทำงานตอนนี้จึงต้องให้ท่านรองฯบางคนนั่งควบ 2 สายงานไปก่อน บางคนก็ดูแค่สายงานเดียว เพื่อความเหมาะสม เช่น รองฯชิตณรงค์ คุณะกฤดาธิการ ดูแลควบทั้งสายงานโทรทัศน์และสายงานกิจการสำนักข่าวไทย ท่านรองฯอรัญรัตน์ อยู่คง ดูแลทั้งสายงานวิทยุและสายงานบริหาร ท่านรองฯสิทธิศักดิ์ เอกพจน์ ดูแลสายงานวิศวกรรมและเทคโนโลยี ท่านรองฯนิพนธ์ นาคสมภพ ซึ่งมีตำแหน่งเทียบเท่ากับตำแหน่งรองฯ ดูแลกิจกจการพิเศษ
ส่วนบางสายงานยังไม่มีรองฯ ผมก็ต้องนั่งดูแลไปก่อนเช่น สายงานการตลาด สายงานการเงิน จนกว่าจะมีใครที่เหมาะสมเข้ามาดูต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นทั้งคนนอก หรือคนในองค์กรก็ได้
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) สนทนากับ “ผู้จัดการรายวัน” ถึงประเด็นของการปรับโครงสร้างของ อสมท พร้อมกับประเด็นข่าวลือที่ตามมา
ข้อเท็จจริงที่ว่าจะมีคนนอกองค์กรอสมท เข้ามาร่วมนั่งบริหารด้วย
มิ่งขวัญ : ไม่มีอะไร การปรับโครงสร้างก็เป็นเรื่องปรกติ ต้องมีคนใน คนนอก คนใหม่ คนเก่า เข้ามาเป็นธรรมดา แต่จะมาจากไหนเป็นเรื่องของอดีต เมื่อก่อนเขาอาจจะอยู่ที่ใดมาก่อนก็ได้ แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ เราไม่ได้เจาะจงว่าเป็นใคร
อีกประการคือผมยังยืนยันว่าผมยังนั่งบริหารอยู่ที่อสมท ต่ออีก เพราะว่ายังมีภารกิจอีกมากที่ต้องสานต่อ ไม่ว่าจะเป็น สถานีโทรทัศน์โลก โมเดิร์นเรดิโอ ที่เพิ่งเริ่มต้นในการแยกเซ็กเม้นท์ของแต่ละคลื่นวิทยุที่เราทำ ยังมีงานอีกมาก หรือ โมเดิร์นไนน์ที่ต้องพัฒนาต่อไป หลังจากที่เราได้จุดประกายให้กับวงการโทรทัศน์จนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และผมยังบริหารงานด้านข่าวด้วย ยังไม่ได้ทิ้งไปไหน อย่าไปเชื่อข่าวลือว่าผมจะไม่บริหารด้านข่าวแล้ว หรือข่าวลือที่ว่าผมจะไม่อยู่ที่ อสมท ยืนยันว่าผมยังอยู่ที่นี่
ผังใหม่ที่ละเอียดของอสมท เป็นอย่างไร
มิ่งขวัญ : จริงๆแล้ว ภาพรวมยังเหมือนเดิม แต่มีการปรับเล็กน้อย โดยโครงสร้างใหม่ที่บอร์ดอสมทอนุมัติล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จะมี 8 สายงานหลักคือ 1.สายงานวิทยุและกิจกรรมพิเศษ 2.สายงานโทรทัศน์ 3.สายงานกิจการสำนักข่าวไทย 4.สายงานการตลาด 5. สายงานวิศวกรรมและเทคโนโลยี 6.สายงานการเงิน 7.สายงานการบริหาร 8.สายงานกิจการพิเศษ ซึ่งเดิมเราแบ่งออกเป็น 4 ส่วนงานเดิมได้แก่ ฝ่ายวิศวกรรม ฝ่ายบริหาร สถานีโทรทัศน์ และ สำนักข่าวไทย
ในแง่ของสำนักข่าวไทยเราก็ยังแยกออกเป็น 1.สำนักกิจการข่าวในประเทศ 2.สำนักกิจการขาวระหว่างประเทศ เพื่อการทำงานที่มีศักยภาพมากขึ้นเป็นต้น
ผังนี้จะมีข้อดีอย่างไร
มิ่งขวัญ : ถ้าพิจารณาให้ดีแล้ว ผังใหม่ของอสมท จะมีความชัดเจนและส่งผลดีต่อการทำงานมากขึ้น เพราะมีการแบ่งสายงานอย่างละเอียด และมีคนมาดูแลชัดเจน ทุกอย่างจะทำงานโดยตรง และการทำงานนั้นจะเร็วกว่าเดิมที่เคยเป็นรัฐวิสาหกิจอีกด้วย เพราะเราได้ลดระดับขั้นตอนการติดต่องานลงมา ทำให้เมื่อเกิดอะไรหรือมีประเด็นอะไรที่เกี่ยวกับการตัดสินใจจะทำให้ข้างบนทราบเรื่องเร็วขึ้น และสั่งการได้เร็วขึ้นด้วย
ตำแหน่งสำคัญที่มีการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติม
มิ่งขวัญ : โครงสร้างใหม่ที่เปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ก็เพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัวมากขึ้น มีการลดระดับสายงานลงให้เหลือน้อยที่สุด โดยหลักๆมีดังนี้ 1.การขยายออกไปเป็น 8 หน่วยงาน 2.มีการขยายอัตราตำแหน่งต่างๆอย่างชัดเจน คือ ตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่จากเดิมมี 4 อัตรา เพิ่มเป็น 8 อัตรา ส่วนระดับสำนักจากเดิมมี 9 อัตราเพิ่มเป็น 18 อัตรา ส่วนระดับฝ่ายหรือสำนักงานจากเดิมมี 24 ตำแหน่งเพิ่มเป็น 47 ตำแหน่ง เท่ากับว่ารวมแล้วจากเดิมมี 48 ตำแหน่งเพิ่มเป็น 87 ตำแหน่ง
3.การลดระดับสายงานบังคับบัญชา เพื่อสร้างความคล่องตัวในการปฎิบัติงาน จากเดิม อสมท มี 10 ระดับในการติดต่องาน แต่ว่าขั้นตอนการทำหนังสือจะเกินกว่า 12 ระดับ ทำให้การประสานงานล่าช้าไม่ทันกับการแข่งขันธุรกิจทีวี หรือสื่อ แต่การปรับใหม่ครั้งนี้จะเหลือแค่ 3 ระดับเท่านั้นเอง คือ 1. ระดับสำนักหรือ ผู้อำนวยการสำนัก (Vice President) 2.ระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (Executive Vice President) 3.ระดับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (President)
ตำแหน่งรองฯที่ยังว่างอยู่จะเพิ่มหรือไม่และจะรับใครเข้ามา
มิ่งขวัญ : ตอนนี้เรามีตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่จริงๆแค่ 4 คนเท่านั้นเองแต่มีถึง 8 อัตรารองรับไว้ จาก 8 สายงาน การทำงานตอนนี้จึงต้องให้ท่านรองฯบางคนนั่งควบ 2 สายงานไปก่อน บางคนก็ดูแค่สายงานเดียว เพื่อความเหมาะสม เช่น รองฯชิตณรงค์ คุณะกฤดาธิการ ดูแลควบทั้งสายงานโทรทัศน์และสายงานกิจการสำนักข่าวไทย ท่านรองฯอรัญรัตน์ อยู่คง ดูแลทั้งสายงานวิทยุและสายงานบริหาร ท่านรองฯสิทธิศักดิ์ เอกพจน์ ดูแลสายงานวิศวกรรมและเทคโนโลยี ท่านรองฯนิพนธ์ นาคสมภพ ซึ่งมีตำแหน่งเทียบเท่ากับตำแหน่งรองฯ ดูแลกิจกจการพิเศษ
ส่วนบางสายงานยังไม่มีรองฯ ผมก็ต้องนั่งดูแลไปก่อนเช่น สายงานการตลาด สายงานการเงิน จนกว่าจะมีใครที่เหมาะสมเข้ามาดูต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นทั้งคนนอก หรือคนในองค์กรก็ได้