xs
xsm
sm
md
lg

คาดมิสยูนิเวิร์สทำเงิน2พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มดีทีซี/DTC เร่งเครื่องหาสปอนเซอร์จัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส ขาย 3 แพคเกจ สูงสุด 150 ล้านบาท “สุวัจน์” ยันงานนี้ไทยได้ประโยชน์เต็มๆ จ่ายแค่ 260 ล้านบาท คาดงานนี้มีคนต่างชาติเข้าไทยเพิ่มขึ้น 50,000 คน สร้างรายได้กว่า 2 พันล้านบาท ดีทีซีต้องจัดกิจกรรมดึงผู้หญิงต่างชาติเข้าชอปปิ้งในไทยให้ได้ เตรียมดึงโอ๊คร่วมถ่ายภาพนางงาม

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2005 เพราะเป็นหนึ่งในกิจกรรมระดับโลก ที่สามารถประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักกับนานาประเทศ ขณะเดียวกันยังได้แสดงออกถึงศักยภาพของประเทศไทยในการจัดงานระดับโลก ซึ่งจำนวนเงิน 6.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 260 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี อนุมัติจ่ายเป็นค่าลิขสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพจัดงานประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2005 ถือว่าเป็นจำนวนน้อยมาก เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับ โดยเฉพาะในส่วนของเวลา 9 นาที สำหรับการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ผ่านเครือข่ายของสถานีโทรทัศน์ NBC ซึ่งมี 171 ประเทศทั่วโลก หากคิดเป็นจำนวนเงินตามความเป็นจริงแล้ว ต้องจ่ายถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 3,000 ล้านบาท ประเทศไทยมีโอกาสออกข่าวตามสื่อต่างๆทั่วโลก ซึ่งเมื่อคิดเป็นเงินจะต้องใช้ถึง 25 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตามผลการประเมินเบื้องต้นถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการจัดงานครั้งนี้ คือจำนวนนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยในช่วงเดือนพฤษภาคม เฉพาะที่จะเข้ามาเพื่อการประกวด เป็นจำนวนรวม กว่า 1,700 คน ซึ่งมีทั้ง คณะทำงานจากกองการประกวด นางงามและผู้ติดตาม รวมถึงคณะสื่อมวลชน มีเงินสะพัดเข้าประเทศมากกว่า 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 300 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังคาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะได้นักท่องเที่ยวอันเป็นผลต่อเนื่องจากการรับรู้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยจากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส แล้วเข้ามาท่องเที่ยวในครึ่งปีหลังของปี 2548 อีกจำนวนไม่น้อยกว่า 50,000 คน เกิดรายได้อีก กว่า 1,650 ล้านบาท รวมแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท

รับลูกททท.ดึงผู้หญิงเที่ยวไทย
นายทอม เครือโสภณ ผู้ประสานงานกลุ่ม DTC ผู้ดำเนินการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2005 เปิดเผยว่า คณะสาวงามผู้เข้าประกวด จาก 88 ประเทศจะเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันที่ 11 พฤษภาคม เพื่อเตรียมขึ้นเวทีประกวดในวันที่ 31 พฤษภาคม 2548 โดยระหว่างนั้นทางกองประกวด จะจัดกิจกรรมระหว่างเก็บตัวให้กับบรรดาสาวงาม เบื้องต้นได้เตรียมแหล่งท่องเที่ยว รวม 9 แห่ง ทั่วทุกภาคของประเทศไทยสำหรับการเดินทางทำกิจกรรมและเก็บตัว แต่จะเน้นภาคใต้ในจังหวัดแถบอันดามันเป็นพิเศษโดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต

ทั้งนี้กิจกรรมทั้งหมด ที่สาวงามจากทุกประเทศมาร่วมทำ จะถูกบันทึกเทป เพื่อจัดทำเป็นวีดีโอ แพร่ภาพแหล่งท่องเที่ยว และของดีประเทศไทย เผยแพร่ไปทั่วโลกกว่า 171 ประเทศ ในเวลา 9 นาที ตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทมิสยูนิเวิร์ส สหรัฐอเมริกา โดยโจทย์ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ต้องการกลุ่ม DTC ในฐานะเอกชนผู้ได้ลิขสิทธิ์เป็นผู้จัดประกวด มิสยูนิเวิร์สในครั้งนี้ ได้นำเสนอสินค้าด้านการท่องเที่ยว ที่เหมาะกับผู้หญิง โดยให้เหตุผลว่า ผู้หญิงมีส่วนตัดสินใจสูงในการเลือกแหล่งท่องเที่ยว และการเที่ยวของผู้หญิงแต่ละครั้งจะมีการจับจ่ายมากกว่าผู้ชาย ดังนั้นสิ่งที่ DTC จะนำเสนอและบรรจุเข้าไปในกิจกรรมของสาวงาม คือ สปา แหล่งชอปปิ้ง ได้แก่ สวนจตุจักร ตลาดน้ำ และย่านชอปปิ้งระดับไฮเอนด์ โดยDTC ตั้งใจที่จะนำ “เจนิเฟอร์ ฮอกกิ้น” มิสยูนิเวิร์สคนล่าสุด มาเป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมตสปาของไทย

สำหรับกลุ่มDTC นั้นมาจากการวมตัวกันระหว่าง บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด, บริษัท บีบีทีวี โปรดัคชันส์ จำกัด, บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท

ช่อง7มั่นใจอุปกรณ์-บุคลากรพร้อม
นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด และผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี กล่าวว่าช่อง 7 สี เป็นผู้ถ่ายทอดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2005 ซึ่งประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดงานมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2532 และช่อง 7 ก็เป็นผู้ถ่ายทอดสด เช่นกัน ดังนั้น จึงคิดว่า เรามีความพร้อม ทั้งอุปกรณ์ และบุคลากร อย่างไรก็ตาม วงเงินการจัดงานครั้งนี้ คาดว่าจะใช้ทั้งสิ้นราว 650 ล้านบาท ในที่นี้ รวมถึงค่าลิขสิทธิ์ 260 ล้านบาทที่รัฐบาลจะจ่ายให้ด้วย ดังนั้น ภาคเอกชนจะต้องหาผู้ให้การสนับสนุนคิดเป็นเงินอีกราว 390 ล้านบาท ซึ่งเป็นหน้าที่ของ บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบ โดยเราแบ่งงานกันทำ ช่อง 7 จะดูเรื่องการผลิต

เร่งหาสปอนเซอร์
นายสมชาย ชีวสุทธานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับสินค้าที่สนใจเป็นสปอนเซอร์ มีประมาณ 5 กลุ่มสินค้าคือ เครื่องดื่ม สื่อสาร รถยนต์ คอสเมติกส์ เบ็ดเตล็ด ซึ่งแบ่งราคาเป็น 3 แพคเกจคือ แพลททินั่ม ราคา 150 ล้านบาท โกลด์ ราคา 80 ล้านบาท และ ซิลเวอร์ ราคา 40 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งแพคเกจแพลททินั่มนั้นจะได้สิทธิพิเศษมากที่สุดเช่น อาจจะ จัดเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้กับนางงาม หรือการได้ร่วมพาเหรดบนขบวนรถโชว์นางงาม เป็นต้น

ส่วนสถานที่จัดงานรอบสุดท้ายนั้นสรุปแล้วว่าจัดที่ อิมแพคอารีน่าเมืองทองธานี เพราะมีความพร้อมมากที่สุด แต่สถานที่พักสำหรับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งนางงาม เจ้าหน้าที่ สื่อมวลชน จะพักในโรงแรม ดุสิตธานี พลาซ่าแอทธินี อิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค เชียงการีล่า

นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรในแง่ซัปพลายเออร์เพิ่มเติมเพื่อรับช่วงงานต่อ เนื่องจากงานนี้เป็นงานใหญ่ต้องมีหลายฝ่ายช่วยกัน และยอมรับว่า จะมีการเจรากับนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค ให้เข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในช่างภาพถ่ายงานประกวดครั้งนี้ด้วย

รูปแบบการจัดงานนั้นจะมีรายละเอียดอีกมากทั้งการจัดประกวด การจัดกิจกรรมในช่วงก่อนรอบสุดท้าย ประมาณ 6-8 กิจกรรม ซึ่งจะเน้นความหลากหลาย เน้นคอนเซ็ปท์ โมเดิร์นไทย และจะพยายามเดินสายไปในหลายจังหวัดนอกจากภาคใต้ 6 จังหวัดอันดามันที่ประสบภัยจากคลื่นสึนามิ

สำหรับปัญหาของการยกเว้นภาษีนั้น นายสมชายกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีไม่ได้มีมติว่าจะไม่ให้ความช่วยเหลือเพียงแต่ว่าให้ไปศึกษากิจกรรมขนาดใหญ่ระดับประเทศที่จัดในไทยที่ผ่านมาว่ามีรูปแบบการทำงานอย่างไร เช่น ฟุตบอลหญิงที่เพิ่งจัดปีที่แล้ว งานประชุมเอเปค การแข่งขันเทนนิส เป็นต้น ว่าเคยได้รับการยกเว้นอย่างไร อะไรบ้าง เพื่อนำมาศึกษาเปรียบเทียบเป็นแนวทาง ซึ่งเราขอไปหลายอย่างไม่ใช่แค่เรื่องภาษี แต่จะมีเช่น การรักษาความปลอดภัย เป็นต้น

เขากล่าวด้วยว่า การร่วมเป็นพันธมิตรครั้งนี้จะช่วยส่งผลดีต่อแม็ทชิ่ง เพราะทำให้ทั่วโลกรู้จักมากขึ้น โอกาสที่จะดึงเอากิจกรรมใหญ่ระดับโลกเข้ามาก็มีความง่ายขึ้น รวมทั้งพันธมิตรอย่างช่อง 7 บีบีทีวี หรือสปอนเซอร์ รวมทั้งประเทศไทยก็ได้รับประโยชน์ทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น