เกาะช้างรับอานิสงส์ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติทดแทนอันดามัน เผย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยอรมัน สแกนดิเนเวีย ปลื้มเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มไฮเอนด์ วันพักยาว ส่งรายได้ปีนี้โตไม่น้อยกว่า10% พร้อมเตรียมพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวเพิ่ม ชี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น 2 เดือนแรกลดลงเล็กน้อย ยันทั้งปียังเติบโต กว่า 8%
นายชูชาติ อ่อนเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคกลางเขต 5 (ตราด) เปิดเผยถึงสถานการณ์นักท่องเที่ยวในจังหวัดตราดว่า ภายหลังเกิดเหตุสึนามิ ทาง 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ส่งผลให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดตราด โดยเฉพาะที่เกาะช้างเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีอัตราเข้าพักตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมาเฉลี่ยที่ 70-80% ของจำนวนห้องพัก โดยบางโรงแรมสูงถึงกว่า 90% นอกจากนั้นจำนวนวันพักยังเพิ่มขึ้นจาก 3-4 วัน เพิ่มเป็น 7 –10วัน กลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มาจาก ยุโรป เยอรมัน และสแกนดิเนเวีย โดยเป็นการเข้าพักในช่วงวันธรรมดา และเป็นกลุ่มครอบครัวเป็นส่วนใหญ่
คาดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเป็นนานกว่า 3 ปี หรือจนกว่า แหล่งท่องเที่ยวฝั่งอันดามันจะฟื้นเป็นปกติ ดังนั้นทางสำนักงาน ททท.และภาคเอกชน จะต้องเตรียมความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยการสร้างมาตรฐานด้านบริการ ทั้ง โรงแรม รถ และเรือนำเที่ยว รวมถึงระบบความปลอดภัยต่างๆ นำเสนอสินค้าด้านการท่องเที่ยวใหม่ๆเพิ่มเติม ได้แก่ ทริปการเดินป่า จากปัจจุบัน สินค้าท่องเที่ยวของเกาะช้างได้แก่ ดำน้ำ ชมปะการัง พายเรือแคนนู, คายัค และนั่งช้าง นอกจากนั้นในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ จ.ตราดจะจัดงานเปิดฤดูท่องเที่ยวและเทศกาลซีฟู้ด เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
“ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สึนามิ ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยหายไป แต่เราโชคดีที่ได้นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น และเป็นกลุ่มที่มีการจับจ่ายเงินต่อวันสูง”
นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจ.ตราด 9 เดือนแรกของปี 2547 มีจำนวนกว่า 4 แสนคน คาดทั้งปีน่าจะอยู่ที่ ไม่น้อยกว่า 7.5 แสนคน มีรายได้มากกว่า 2.5 พันล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ที่ 2.1 พันล้านบาท สำหรับปี 2548 ตั้งเป้าเติบโตอีกไม่น้อยกว่า 10% มีรายได้กว่า 3 พันล้านบาท ปัจจุบันโรงแรมที่เกาะช้างมีประมาณ 100 แห่ง คิดเป็นจำนวนกว่า 3,000 ห้อง ซึ่งจากการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวปัจจุบันเริ่มมีนักลงทุนเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว และเชนโรงแรมต่างประเทศเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น
นางพรศิริ มโนหาญ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุสึนามิ เดือนมกราคมมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เดินทางเข้ามาจำนวน 90,789 คน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.59% ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ วันที่ 1-15 มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น 46,655 คน ลดลง 4.37% และจากการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดแฟมทริปนำสื่อมวลชนและบริษัททัวร์เข้ามาดูสถานที่ คาดว่าชาวญี่ปุ่นจะกลับเข้ามาเที่ยวประเทศไทยได้เป็นปกติติภายในเดือนตุลาคมนี้ โดยททท.สุดยังคงเป้าหมายการเติบโตของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไว้ที่ 1.36 ล้านคน เติบโตจากปีก่อน 8.87% ล่าสุด ททท.ได้มีโอกาสต้อนรับคณะผู้บริหารจากบริษัท เจแปน ทราเวล บูโร หรือ เจทีบี รวม 19 คน พร้อมกันนี้ยังได้นำเงินที่รวบรวมจากพนักงานของบริษัท มาร่วมบริการให้ผู้ประสบภัยอีก 2 ล้านบาท
นายทากาชิ ซาซากิ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจทีบี คอร์ป จำกัด เครือข่ายบริษัทนำเที่ยว จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีอยู่ทั่วโลก เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์สึนามิ บริษัทมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่ยกเลิกการเดินทางมาจ.ภูเก็ตเพียง 5% และบางส่วนคาดว่าจะกลับมาเที่ยวภูเก็ตอีกครั้งช่วงไฮซีซั่นนี้ หรือประมาณเดือนตุลาคม ซึ่งยอมรับว่านักท่องเที่ยวที่ไม่มาประเทศไทยบางส่วนเปลี่ยนจุดหมายไปเที่ยวที่ ฮาวาย เกาะกวม และไซปัน หรือบางรายหันมาเดินทางเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้บริษัทสูญเสียรายได้จากการยกเลิกทัวร์ช่วง 2 เดือนคิดเป็นเงิน 30 ล้านบาท
สาเหตุหลักที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไม่เดินทางเข้ามาเพราะไม่ต้องการมาเห็นสภาพของการสูญเสีย แต่เชื่อว่า ในเดือนมีนาคมนี้จะเริ่มทยอยกลับเข้ามาเที่ยวแล้ว โดยบริษัทได้จัดแพคเกจท่องเที่ยวช่วยภัยสึนามิ คือ ทุกคนที่ซื้อแพ็คเกจจะต้องมอบเงินบริจาคให้ผู้ประสบภัยคนละ 1 หมื่นเยน ซึ่งได้รับความสนใจ มาก เพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง มีคนเข้ามาซื้อแพ็คเกจถึง 350 คน นอกจากนี้ เจทีบี ยังได้จัดแพ็คเกจภูเก็ต ลดราคา 50% ในช่วงนี้
นายชูชาติ อ่อนเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคกลางเขต 5 (ตราด) เปิดเผยถึงสถานการณ์นักท่องเที่ยวในจังหวัดตราดว่า ภายหลังเกิดเหตุสึนามิ ทาง 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ส่งผลให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดตราด โดยเฉพาะที่เกาะช้างเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีอัตราเข้าพักตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมาเฉลี่ยที่ 70-80% ของจำนวนห้องพัก โดยบางโรงแรมสูงถึงกว่า 90% นอกจากนั้นจำนวนวันพักยังเพิ่มขึ้นจาก 3-4 วัน เพิ่มเป็น 7 –10วัน กลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มาจาก ยุโรป เยอรมัน และสแกนดิเนเวีย โดยเป็นการเข้าพักในช่วงวันธรรมดา และเป็นกลุ่มครอบครัวเป็นส่วนใหญ่
คาดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเป็นนานกว่า 3 ปี หรือจนกว่า แหล่งท่องเที่ยวฝั่งอันดามันจะฟื้นเป็นปกติ ดังนั้นทางสำนักงาน ททท.และภาคเอกชน จะต้องเตรียมความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยการสร้างมาตรฐานด้านบริการ ทั้ง โรงแรม รถ และเรือนำเที่ยว รวมถึงระบบความปลอดภัยต่างๆ นำเสนอสินค้าด้านการท่องเที่ยวใหม่ๆเพิ่มเติม ได้แก่ ทริปการเดินป่า จากปัจจุบัน สินค้าท่องเที่ยวของเกาะช้างได้แก่ ดำน้ำ ชมปะการัง พายเรือแคนนู, คายัค และนั่งช้าง นอกจากนั้นในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ จ.ตราดจะจัดงานเปิดฤดูท่องเที่ยวและเทศกาลซีฟู้ด เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
“ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สึนามิ ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยหายไป แต่เราโชคดีที่ได้นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น และเป็นกลุ่มที่มีการจับจ่ายเงินต่อวันสูง”
นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจ.ตราด 9 เดือนแรกของปี 2547 มีจำนวนกว่า 4 แสนคน คาดทั้งปีน่าจะอยู่ที่ ไม่น้อยกว่า 7.5 แสนคน มีรายได้มากกว่า 2.5 พันล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ที่ 2.1 พันล้านบาท สำหรับปี 2548 ตั้งเป้าเติบโตอีกไม่น้อยกว่า 10% มีรายได้กว่า 3 พันล้านบาท ปัจจุบันโรงแรมที่เกาะช้างมีประมาณ 100 แห่ง คิดเป็นจำนวนกว่า 3,000 ห้อง ซึ่งจากการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวปัจจุบันเริ่มมีนักลงทุนเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว และเชนโรงแรมต่างประเทศเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น
นางพรศิริ มโนหาญ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุสึนามิ เดือนมกราคมมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เดินทางเข้ามาจำนวน 90,789 คน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.59% ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ วันที่ 1-15 มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น 46,655 คน ลดลง 4.37% และจากการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดแฟมทริปนำสื่อมวลชนและบริษัททัวร์เข้ามาดูสถานที่ คาดว่าชาวญี่ปุ่นจะกลับเข้ามาเที่ยวประเทศไทยได้เป็นปกติติภายในเดือนตุลาคมนี้ โดยททท.สุดยังคงเป้าหมายการเติบโตของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไว้ที่ 1.36 ล้านคน เติบโตจากปีก่อน 8.87% ล่าสุด ททท.ได้มีโอกาสต้อนรับคณะผู้บริหารจากบริษัท เจแปน ทราเวล บูโร หรือ เจทีบี รวม 19 คน พร้อมกันนี้ยังได้นำเงินที่รวบรวมจากพนักงานของบริษัท มาร่วมบริการให้ผู้ประสบภัยอีก 2 ล้านบาท
นายทากาชิ ซาซากิ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจทีบี คอร์ป จำกัด เครือข่ายบริษัทนำเที่ยว จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีอยู่ทั่วโลก เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์สึนามิ บริษัทมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่ยกเลิกการเดินทางมาจ.ภูเก็ตเพียง 5% และบางส่วนคาดว่าจะกลับมาเที่ยวภูเก็ตอีกครั้งช่วงไฮซีซั่นนี้ หรือประมาณเดือนตุลาคม ซึ่งยอมรับว่านักท่องเที่ยวที่ไม่มาประเทศไทยบางส่วนเปลี่ยนจุดหมายไปเที่ยวที่ ฮาวาย เกาะกวม และไซปัน หรือบางรายหันมาเดินทางเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้บริษัทสูญเสียรายได้จากการยกเลิกทัวร์ช่วง 2 เดือนคิดเป็นเงิน 30 ล้านบาท
สาเหตุหลักที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไม่เดินทางเข้ามาเพราะไม่ต้องการมาเห็นสภาพของการสูญเสีย แต่เชื่อว่า ในเดือนมีนาคมนี้จะเริ่มทยอยกลับเข้ามาเที่ยวแล้ว โดยบริษัทได้จัดแพคเกจท่องเที่ยวช่วยภัยสึนามิ คือ ทุกคนที่ซื้อแพ็คเกจจะต้องมอบเงินบริจาคให้ผู้ประสบภัยคนละ 1 หมื่นเยน ซึ่งได้รับความสนใจ มาก เพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง มีคนเข้ามาซื้อแพ็คเกจถึง 350 คน นอกจากนี้ เจทีบี ยังได้จัดแพ็คเกจภูเก็ต ลดราคา 50% ในช่วงนี้