นายกสมาคมสปาไทยหวั่นเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มส่งผลเสียต่อหลายธุรกิจ รวมถึงตลาดสปาด้วย คาดตลาดรวมสปาปีนี้โตไม่ถึง 20%
นางนภาลัย อารีสรณ์ นายกสมาคมสปาไทย กล่าวว่า เหตุการณ์อุบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วนั้น สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตให้กับกลุ่มธุรกิจโรงแรม ซึ่งอาจจะส่งกระทบต่อเนื่องกับธุรกิจสปา จนอาจทำให้ตลาดรวมเติบโตไม่ถึง 20% ซึ่งทางสมาคมฯ ได้หารือกับสมาชิกเพื่อร่วมกันจัดแพ็คเกจไปเสนอกับบริษัททัวร์ พร้อมกับเตรียมช่วยเหลือพนักงานสปาที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ในปี 2547 ที่ผ่านมา ธุรกิจสปามีมูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง 20% ทุกปี และเชื่อว่าภายใน 5 ปีนับจากปี 2547 มูลค่าตลาดรวมจะเพิ่มเป็น 50,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่นิยมเข้ามาใช้บริการสปาในประเทศไทย และทำให้ธุรกิจสปาของประเทศไทยมีสัดส่วน 40% ของภาพรวมสปาทั่วเอเชีย สูงกว่าบาหลีที่เคยเป็นผู้นำ และปัจจุบันมีสัดส่วนเหลือเพียง 30%
นอกจากนี้ นักลงทุนจากทั่วโลกยังให้ความสนใจที่นำธุรกิจสปาของไทยไปเปิดบริการในต่างประเทศค่อนข้างมาก โดยเฉพาะยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และในปีที่แล้วนั้นธุรกิจสปาที่มีการเติบโตมากที่สุด คือ สปาในโรงแรมหรือกลุ่มดี สปา เพราะเป็นบริการที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดว่า สปาที่มีบริการด้วยน้ำ การนวด และบริการอาหารเพื่อสุขภาพหรือการออกกำลังกายจึงจะได้รับใบอนุญาต ถ้าไม่ครบตามเกณฑ์จัดว่าเป็นกลุ่มนวดเพื่อสุขภาพ ไม่ใช่สปา จึงมีผู้ประกอบการธุรกิจสปาในประเทศที่ได้รับใบอนุญาตเพียง 100 แห่งเท่านั้น จากจำนวนที่มีการสำรวจทั้งหมด 300 - 400 แห่งทั่วประเทศ และ เป็นสมาชิกของสมาคมประมาณ 200 ราย
นางนภาลัย อารีสรณ์ นายกสมาคมสปาไทย กล่าวว่า เหตุการณ์อุบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วนั้น สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตให้กับกลุ่มธุรกิจโรงแรม ซึ่งอาจจะส่งกระทบต่อเนื่องกับธุรกิจสปา จนอาจทำให้ตลาดรวมเติบโตไม่ถึง 20% ซึ่งทางสมาคมฯ ได้หารือกับสมาชิกเพื่อร่วมกันจัดแพ็คเกจไปเสนอกับบริษัททัวร์ พร้อมกับเตรียมช่วยเหลือพนักงานสปาที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ในปี 2547 ที่ผ่านมา ธุรกิจสปามีมูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง 20% ทุกปี และเชื่อว่าภายใน 5 ปีนับจากปี 2547 มูลค่าตลาดรวมจะเพิ่มเป็น 50,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่นิยมเข้ามาใช้บริการสปาในประเทศไทย และทำให้ธุรกิจสปาของประเทศไทยมีสัดส่วน 40% ของภาพรวมสปาทั่วเอเชีย สูงกว่าบาหลีที่เคยเป็นผู้นำ และปัจจุบันมีสัดส่วนเหลือเพียง 30%
นอกจากนี้ นักลงทุนจากทั่วโลกยังให้ความสนใจที่นำธุรกิจสปาของไทยไปเปิดบริการในต่างประเทศค่อนข้างมาก โดยเฉพาะยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และในปีที่แล้วนั้นธุรกิจสปาที่มีการเติบโตมากที่สุด คือ สปาในโรงแรมหรือกลุ่มดี สปา เพราะเป็นบริการที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดว่า สปาที่มีบริการด้วยน้ำ การนวด และบริการอาหารเพื่อสุขภาพหรือการออกกำลังกายจึงจะได้รับใบอนุญาต ถ้าไม่ครบตามเกณฑ์จัดว่าเป็นกลุ่มนวดเพื่อสุขภาพ ไม่ใช่สปา จึงมีผู้ประกอบการธุรกิจสปาในประเทศที่ได้รับใบอนุญาตเพียง 100 แห่งเท่านั้น จากจำนวนที่มีการสำรวจทั้งหมด 300 - 400 แห่งทั่วประเทศ และ เป็นสมาชิกของสมาคมประมาณ 200 ราย