xs
xsm
sm
md
lg

เท่แบบไทย เท่เกินร้อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายสัปดาห์ - ตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานหรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่าเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาทซึ่งมีบิ๊กทรี 3 รายเป็นผู้ครองตลาดเกือบทั้งหมดกว่า 97 % แยกเป็น เอ็ม-150 40% , กระทิงแดง 32 % และคาราบาวแดง 25 % ต่างค่ายต่างออกอาวุธฟาดฟันกัน เน้นใช้กลยุทธ์สื่อสารการตลาดเป็นหลัก ทั้งวิธีการสื่อสารมวลชน(Above the line) และการลงไปจัดกิจกรรมตามที่ต่างๆเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย(Below the line) ภายใต้สโลแกนของแต่ละคน โดยเอ็ม-150 ใช้ว่า “ไม่มีลิมิต ชีวิตเกิน100” ส่วนของกระทิงแดงคือ “ลูกผู้ชายตัวจริง” และคาราบาวแดงที่ว่า “นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่”

วศโดม รัศมิทัต ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์กลุ่มธุรกิจ และ ร่มเกล้า ถมพิทักษ์ หัวหน้ากลุ่มสร้างสรรค์ พร้อมด้วยทีมงานที่คิดงานโฆษณาชุดนี้เล่าให้ “ผู้จัดการรายสัปดาห์”ฟังว่า โฆษณาเอ็ม-150 นี้เป็นชุดที่3 แล้วที่ สปา แอดเวอร์ไทซิ่งทำให้ แต่ด้วยกรอบข้อจำกัดของทางราชการซึ่งออกมาในปีที่ผ่านมาทำให้โฆษณาสินค้าชนิดนี้ต้องมีเนื้อหาส่งเสริมสังคม โดยปีที่แล้วทีมงานก็เริ่มต้นนำเสนอเรื่องราวของผู้ทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม 3 กลุ่มคือ พอสว.,นักผจญเพลิงและนักศึกษา ต่างกับปีแรกที่ทีมงานสามารถนำเสนอเรื่องราวของความสนุกสนาน มีพลัง รวดเร็ว และการใช้พลังงานได้อย่างเต็มที่มากกว่า ผ่านเรื่องราวลีลาการเล่นลูกบอลกระดาษประกอบเพลงของ 3 ศิลปิน เสก โลโซ ,มอส ปฎิภาณ และเคท ไบรโอนี่

อะไรคือเท่แบบไทย
ส่วนในปีนี้แคมเปญที่ออกมาทีมงานต้องการที่จะสนับสนุนส่งเสริมให้คนไทยภูมิใจในการแสดงออกให้เห็นถึงความเป็นไทยผ่าน รอยยิ้ม , กริยา, ภาษา, มารยาท และน้ำใจความช่วยเหลือ ซึ่งมีอยู่ในตัวแล้วแต่ยังมีอีกหลายคนมองข้ามไปจึงกลายเป็นคอนเซปท์ที่มาของคอนเซปท์โฆษณาที่ว่า “เท่ห์แบบไทย เท่ห์เกินร้อย”

จุดเริ่มต้นของโครงเรื่องนี้มาจากเพลงที่เล่าถึงความดีงามของคนไทยก่อน จากนั้นจึงเอามาผูกสถานการณ์ต่างๆเข้าด้วยกันโดยเหตุผมที่เลือกใช้ฉากสนามบินก็เนื่องจากว่าเป็นสถานที่ที่คนหลายเชื้อชาติจะมาเจอกันและสามารถจะนำเสนอความเท่ห์มีเสน่ห์แบบไทยออกมาได้แตกต่างชัดเจน โดยมีความยากอยู่ตรงที่จะต้องเฉลี่ยความโดดเด่นของแต่ละศิลปินให้ออกมาเท่าๆกันให้ได้

เมื่อตั้งใจจะใช้สนามบิน ทีมงานจึงได้ปรึกษากันว่าจะให้เนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นออกมาแนวไหน ซึ่งก็ลงท้ายด้วยการตกลงว่าจะให้เป็นเหตุการณ์เด็กฝรั่งพลัดหลงแล้วบังเอิญมาเจอกับ 3 ศิลปินและก็มีการหยอกล้อแหย่กันตามภาษาของเด็ก 3 ขวบซึ่งมีนิสัยออกจะแก่นๆหน่อย ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มเรื่องว่าทั้ง 3 ต้องมาดูแลเด็กโดยมีการพาไปเล่นตามที่ต่างๆเป็นการถ่ายทอดให้เห็นในเรื่องน้ำใจ รอยยิ้ม คำพูดแฝงเข้าไปจนในท้ายที่สุดเด็กคนนี้ก็เจอแม่ได้ แต่บรรดาศิลปินนั้นก็กลับพลาดเที่ยวบิน

เพลงดี พรีเซนเตอร์ดัง
ด้านเพลงที่ใช้ประกอบก็มีทำนองและการแสดงออกถึงพลังลดน้อยลงกว่าในชุดที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นไปตามคอนเซปท์ “เท่ห์แบบไทย”ซึ่งคงจะรุนแรงมากก็ไม่ได้ประกอบกับเนื้อหาของโฆษณาชุดนี้เป็นเรื่องราวของการแสดงความมีรอยยิ้มและมิตรไมตรีระหว่างกลุ่มศิลปินซึ่งเป็นตัวแทนของคนไทยกับเด็กฝรั่งซึ่งเป็นตัวแทนของชาวต่างชาติ


การใช้พรีเซนเตอร์ 4 คนอันได้แก่ เสก โลโซ, โต โมเดิร์นร็อก, แด๊ก บิ๊กแอส และ ลานนา คัมมินส์ มานำเสนอ เนื่องจากต้องการใช้ความร่าเริงสดใสของศิลปินเหล่านี้มาเชื่อมโยงเพื่อให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ทันสมัยอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าวันนี้เอ็ม-150จะมีอายุถึง 17 ปีแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูมีชีวิตชีวา

เบื้องหลังการเลือกพรีเซนเตอร์นั้น ทีมงานก็ดูจากกระแสความนิยมเป็นหลัก โดยสาเหตุที่ยังคงเสกไว้ในโฆษณาชุดที่ 3แล้วเนี่องจากผลสำรวจชี้ว่าสิ่งที่ผู้ชมคิดออกเมื่อเอ็ม-150ก็คือเสก โลโซ รองลงมาก็คือโต และเพื่อให้ถูกใจคนหมู่มาก จึงได้เพิ่มตัวแทนศิลปินที่โดดเด่นในแต่ละกลุ่มมา ซึ่งเมื่อรวมเข้ากัน 4 คนแล้วทำให้มีศักยภาพในการเข้าถึงสูงขึ้นอีก โดยมุ่งกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นวัยรุ่นขึ้นไปเนื่องจากกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงและง่ายต่อการที่จะปูฐานในอนาคตอีกด้วยตามหลักการตลาด

แต่ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมโฆษณาจึงไม่มีการเอ่ยคำว่า เอ็ม-150 หรือไม่มีให้เห็นแม้กระทั้งตัวผลิตภัณฑ์เลย มีแต่เฉพาะตัวโลโก้ในตอนท้ายเท่านั้น เพียงไม่ถึง 5 วินาทีจากตัวโฆษณาที่ยาว 90 วินาที เป็นโฆษณาที่ทำให้เกิดความชื่นชอบในแบรนด์มากกว่าชักจูงให้ดื่ม เนื่องจากคนที่ไม่ดื่ม โฆษณายังไงเขาก็ไม่ดื่มอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ดื่มเขาก็จะเลือกแบรนด์ที่เขาชื่นชอบที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเชื่อมโยงความคิดนึกถึงแบรนด์เอ็ม-150ได้อีกด้วยทันทีที่เห็นดาราเหล่านี้ผ่านสื่อชนิดใหนหรือเมื่อใดก็ตาม และยังอาจจะช่วยให้สังคมดีขึ้นอีกด้วยเพราะการมีศิลปินเป็นตัวอย่างที่ดีคนก็จะทำตาม

กว่าจะได้เห็นเป็นโฆษณา
“โฆษณาชุดนี้ รัตน์ โอสถานุเคราะห์ ประธานโอสถสภาได้ลงมาเฝ้าดูและติชมเองเลยตั้งแต่ขั้นตอนแต่งเพลง เป็นการทำงานที่ใกล้ชิดมาระหว่างลูกค้า, เอเยนซี่และโปรดักท์ชั่นเฮ้าส์ ใช้เวลาถ่ายทำกัน 3 วัน 2 คืนที่สนามบินหัวหิน และตัวประกอบอีกเกือบ100คนโดยส่วนที่ยากที่สุดคือ กากำกับเด็กฝรั่งอายุ 3 ขวบคนดังกล่าวให้ทำตามบท แต่ก็ต้องนับว่าน้องคนนั้นเป็นเด็กเก่งพิเศษจริงๆที่เข้ากล้องตั้งแต่เช้ายันดึกดื่นค่ำคืน เพราะขนาดเราเป็นผู้ใหญ่ยังเหนื่อยเลย”

นอกจากภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้แล้ว ยังมีสื่ออื่นตามออกมาสนับสนุนตอกย้ำสร้างการรับรู้และจดจำด้วย การหุ้ม(Wrap) ตึกย่านบางนา รวมถึงป้ายแบนเนอร์ที่เป็นรูปศิลปินแขวนตามกันสาดที่พบได้ตามท้องถนนตรอกซอกซอย และโปสเตอร์, สติ๊กเกอร์สีเหลืองที่จะเห็นในร้านค้าทั่วไป

บริษัทตัวแทนโฆษณา : สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง
ความยาว : 90 วินาที(เวลาเต็ม)/60,30 วินาที(ตัดย่อ)
โปรดักชั่นเฮาส์ : อัพเพอร์ คัท
กำลังโหลดความคิดเห็น