xs
xsm
sm
md
lg

สยามร่วมมิตรทุ่ม200ล.บุกปีหน้า ส่งสแน็ก2แบรนด์ลุยหวังโต40%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สยามร่วมมิตรแย้มแผนปีหน้าเตรียมเปิดตัวสินค้าสแน็กใหม่ 2 ตัว ในกลุ่มขนมขึ้นรูปและไลน์ใหม่ของขนมขบเคี้ยวที่มีนวัตกรรม ตั้งเป้าไลน์ใหม่ขึ้นแท่นเบอร์ 2 รองจากฮานามิ พร้อมเตรียมรุกตลาดมากขึ้นในปีหน้า ด้วยการทุ่มงบตลาดกว่า 150 ล้านบาทโหมจัดแคมเปญและกิจกรรมเอาใจคอสแน็ก  หวังยอดขายโตแบบก้าวกระโดด 30-40%

นายสุรเดช นภาพฤษ์ชาติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท สยามร่วมมิตร จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมขบเคี้ยว ข้าวเกรียบกุ้งฮานามิ,รวยเพื่อนและข้าวโพดอบกรอบคอร์นพัฟฟ์ เปิดเผยถึงแผนการทำตลาดในปีหน้าว่า บริษัทฯได้วางงบทางการตลาดไว้ประมาณ 150-200 ล้านบาทเพื่อรุกทำตลาดมากขึ้น เพื่อผลักดันให้ยอดขายของบริษัทฯเติบโตแบบก้าวกระโดด 30-40% และมีแผนจะออกสินค้าใหม่ในกลุ่มของขนมขบเคี้ยวอีก 2 ตัว ประเภทแรกเป็นขนมขึ้นรูป ส่วนตัวที่ 2 เป็นไลน์ใหม่ของขนมขบเคี้ยวที่มีนวัตกรรมและบริษัทฯยังไม่เคยทำตลาดมาก่อน คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. 48 โดยได้ตั้งเป้าไว้ว่าสินค้าตัวใหม่นี้ก้าวขึ้นมาอยู่อันดับ 2ในด้านยอดขายของบริษัท รองจากกลุ่มข้าวเกรียบกุ้งฮานามิ

ล่าสุดบริษัทฯทุ่มงบจำนวน 64 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายเวลาแคมเปญฮานามิ รวยโชคขยายไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2548 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้แคมเปญมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นจากเดิมที่กลุ่มลูกค้าจะอยู่ที่อายุประมาณ 10-15 ปี แต่ภายหลังจากที่มีการจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายความต้องการของลูกค้ามีอายุอยู่ที่ประมาณ 10-35 ปี

บริษัทฯได้ 4 สาวเกอร์รี่เบอร์รี่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับโฆษณาชุดใหม่ของฮานามิ ซึ่งคาดว่าภายหลังจากที่แคมเปญสิ้นสุดลงบริษัทฯจะมียอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% และในสิ้นปีหน้าคาดว่าฮานามิน่าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5-10% จากเดิมที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ 60%

ส่วนรายได้รวมของบริษัทฯในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท หรือมีอัตราเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 5% และภายหลังจากที่บริษัทฯมีการบุกตลาดอย่างต่อเนื่องพร้อมกับเปิดตัวสินค้าใหม่ออกทำตลาดคาดว่าปีหน้าบริษัทฯน่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท

สำหรับตลาดรวมขนมขบเคี้ยวมีมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5% ซึ่งถือว่าโตน้อยเป้าที่คาดการณ์ไว้15-20% เนื่องจากปีนี้มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคจำนวนมาก อาทิ ไข้หวัดนก เหตุการณ์ภาคใต้และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยปีหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้าขยายตลาดข้าวเกรียบกุ้งให้มีส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากปัจจุบันมีแชร์ 8% ซึ่งแนวโน้มของข้าวเกรียบกุ้งกำลังจะกลับมาได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอีกครั้งหลังจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะเป็นมันฝรั่งทอดกรอบและปลาเส้น
กำลังโหลดความคิดเห็น