กรมปศุสัตว์เตรียมอาผิดฟาร์มสุกรที่ยังลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดงต้องสงสัยที่ต้องมีการสอบสวน จำนวน 208 ฟาร์ม ซึ่งขณะนี้ ได้ทำการอายัดห้ามเคลื่อนย้ายสุกรไว้ทั้งหมดแล้ว จำนวน 35,523 ตัว เพื่อรอผลการตรวจวิเคราะห์ยืนยันจากห้องปฏิบัติการของกรมปศุสัตว์ ซึ่งหากผลการยืนยันว่าเป็นบวกจะดำเนินคดีอาญากับเจ้าของฟาร์ม
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์เข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสุกร หลังผลตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการ ที่ตรวจวิเคราะห์อาหารสัตว์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา ยืนยันว่าอาหารที่ใช้ในการเลี้ยงสุกรมีส่วนผสมของสารเบต้าอะโกนิสท์ หรือสารเร่งเนื้อแดง จำนวน 3 ฟาร์ม ที่ จ.ชลบุรี และอีก 2 ฟาร์ม ที่ จ.สระบุรี โดยฟาร์มสุกรที่พบใช้สารเร่งเนื้อแดงที่ จ.ชลบุรี คือ ฟาร์มนายประเสริฐ รุ่งโรจน์ชำนาญกิจ ฟาร์มนายดำรง จักรแก้ว และฟาร์มนายจำนวน กิตติวิริยวิญญู ส่วนฟาร์มที่พบมีการใช้สารเร่งเนื้อแดงที่ จ.สระบุรี คือ ชวนะฟาร์ม และศรีปทุมฟาร์ม โดยทั้งหมดจะได้รับโทษ ตาม พ.ร.บ.คุณภาพอาหารสัตว์ โดยจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนเจ้าหน้าที่จะถูกลงโทษทางวินัยหรือไม่กรณีที่ในพื้นที่มีการใช้สารเร่งเนื้อแดงนั้น นายยุคล กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวจะต้องทราบสาเหตุที่แท้จริงว่า ที่เกษตรกรมีการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดงมาจากเหตุใด และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และควรเห็นใจเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้เสียกำลังใจในการปฏิบัติงานด้วย
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมากรมปศุสัตว์มีการตรวจฟาร์มสุกรทั้งสิ้น 4,954 ฟาร์ม โรงฆ่าสัตว์ 624 แห่ง ออกใบอนุญาตควบคุมการเคลื่อนย้ายสุกร 4,340 ใบ เป็นสุกรจำนวน 317,665 ตัว และซากสุกร 25,306 ตัว เก็บตัวอย่างปัสสาวะสุกร 26,662 ตัวอย่าง อาหารสัตว์ 1,565 ตัวอย่าง ทั้งนี้ จากผลการตรวจวิเคราะห์เบื้องต้นด้วยวิธี Else พบว่า มีฟาร์มที่ยังลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดงอีก 35 ฟาร์ม คิดเป็นร้อยละ 0.70 ของฟาร์มที่ตรวจสอบทั้งหมด พร้อมกันนี้ มีฟาร์มต้องสงสัยที่ต้องมีการสอบสวน จำนวน 208 ฟาร์ม ซึ่งขณะนี้ ได้ทำการอายัดห้ามเคลื่อนย้ายสุกรไว้ทั้งหมดแล้ว จำนวน 35,523 ตัว เพื่อรอผลการตรวจวิเคราะห์ยืนยันจากห้องปฏิบัติการของกรมปศุสัตว์ ซึ่งหากผลการยืนยันว่าเป็นบวกจะดำเนินคดีอาญากับเจ้าของฟาร์ม
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์เข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสุกร หลังผลตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการ ที่ตรวจวิเคราะห์อาหารสัตว์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา ยืนยันว่าอาหารที่ใช้ในการเลี้ยงสุกรมีส่วนผสมของสารเบต้าอะโกนิสท์ หรือสารเร่งเนื้อแดง จำนวน 3 ฟาร์ม ที่ จ.ชลบุรี และอีก 2 ฟาร์ม ที่ จ.สระบุรี โดยฟาร์มสุกรที่พบใช้สารเร่งเนื้อแดงที่ จ.ชลบุรี คือ ฟาร์มนายประเสริฐ รุ่งโรจน์ชำนาญกิจ ฟาร์มนายดำรง จักรแก้ว และฟาร์มนายจำนวน กิตติวิริยวิญญู ส่วนฟาร์มที่พบมีการใช้สารเร่งเนื้อแดงที่ จ.สระบุรี คือ ชวนะฟาร์ม และศรีปทุมฟาร์ม โดยทั้งหมดจะได้รับโทษ ตาม พ.ร.บ.คุณภาพอาหารสัตว์ โดยจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนเจ้าหน้าที่จะถูกลงโทษทางวินัยหรือไม่กรณีที่ในพื้นที่มีการใช้สารเร่งเนื้อแดงนั้น นายยุคล กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวจะต้องทราบสาเหตุที่แท้จริงว่า ที่เกษตรกรมีการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดงมาจากเหตุใด และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และควรเห็นใจเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้เสียกำลังใจในการปฏิบัติงานด้วย
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมากรมปศุสัตว์มีการตรวจฟาร์มสุกรทั้งสิ้น 4,954 ฟาร์ม โรงฆ่าสัตว์ 624 แห่ง ออกใบอนุญาตควบคุมการเคลื่อนย้ายสุกร 4,340 ใบ เป็นสุกรจำนวน 317,665 ตัว และซากสุกร 25,306 ตัว เก็บตัวอย่างปัสสาวะสุกร 26,662 ตัวอย่าง อาหารสัตว์ 1,565 ตัวอย่าง ทั้งนี้ จากผลการตรวจวิเคราะห์เบื้องต้นด้วยวิธี Else พบว่า มีฟาร์มที่ยังลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดงอีก 35 ฟาร์ม คิดเป็นร้อยละ 0.70 ของฟาร์มที่ตรวจสอบทั้งหมด พร้อมกันนี้ มีฟาร์มต้องสงสัยที่ต้องมีการสอบสวน จำนวน 208 ฟาร์ม ซึ่งขณะนี้ ได้ทำการอายัดห้ามเคลื่อนย้ายสุกรไว้ทั้งหมดแล้ว จำนวน 35,523 ตัว เพื่อรอผลการตรวจวิเคราะห์ยืนยันจากห้องปฏิบัติการของกรมปศุสัตว์ ซึ่งหากผลการยืนยันว่าเป็นบวกจะดำเนินคดีอาญากับเจ้าของฟาร์ม