ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ภาวะชะลอตัวตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปีนี้ สะท้อนแนวโน้มตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ปี 2548 ว่าตลาดจะชะลอต่อเนื่อง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประมาณว่า สิ้นปีนี้ จะมีเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมประมาณ 27.5 ล้านเลขหมาย ขยายตัวประมาณ 24% จากปี 2546
ปี 2548 คาดว่าจะมีเลขหมายเปิดใช้เพิ่มเป็น 32 ล้านเลขหมาย ขยายตัวประมาณ 16% การชะลอตัวตลาดบริการเลขหมาย คาดว่าจะส่งผลกระทบการขยายตัวตลาดเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย
ปีนี้ ตลาดเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เคลื่อนไหวค่อนข้างรวดเร็ว เครื่องรุ่นใหม่จำหน่ายหลายรุ่น ทั้งจากผู้ผลิตเครื่องแบรนด์ระดับโลก (global brand) เช่น โนเกีย โมโตโรล่า โซนี่-อิริคสัน และจากผู้ผลิตแบรนด์ขนาดเล็ก (small brand) จากจีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน และเครื่องเฮ้าส์แบรนด์ (house brand)
ยอดจำหน่ายเครื่องลูกข่าย มาจาก 2 ส่วน คือผู้ใช้รายใหม่ (new users) และ ผู้ใช้เดิมที่เปลี่ยนเครื่อง หรือเครื่องทดแทน (replacement) ปีนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประมาณยอดจำหน่ายเครื่องลูกข่ายประมาณ 7 ล้านเครื่อง ปี 2548 คาดว่าตลาดเครื่องลูกข่ายจะมียอดจำหน่ายประมาณ 6.5 ล้านเครื่อง ลดลง 7%
ยอดจำหน่ายเครื่องลูกข่ายแนวโน้มลดลงปี 2548 เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้ใหม่ที่จะใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนลดลง อัตราใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อประชากรไทยเริ่มสูงขึ้น ปีนี้ ประมาณ 41.3% ของประชากรทั้งประเทศ
จะเพิ่มเป็น 50.8% ของประชากรปี 2548 เป็นอัตราสูง แม้ตลาดเครื่องทดแทนจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องลูกข่ายระดับบน หรือเครื่องที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ฟังก์ชั่นทำงานหลากหลาย และรูปทรงเครื่องเป็นแฟชั่นมากยิ่งขึ้น
จะเป็นปัจจัยกระตุ้นอัตราเปลี่ยนเครื่องรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่เครื่องลูกข่ายระดับบน ยังเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ขณะที่เครื่องราคาไม่สูงนัก ยังเป็นที่ต้องการของตลาดมาก
แนวโน้มตลาดเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศปี 2548 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปดังนี้
- การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเครื่อง ช่วงที่ผ่านมา เทคโนโลยีในเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นมาก เครื่องลูกข่ายจอภาพสี จะเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐาน ขณะที่เครื่องจอภาพขาว-ดำ จะมีปริมาณจำหน่ายลดลงตามลำดับ จะมีราคาลดต่อเนื่อง
โดยจะนำเครื่องรุ่นเก่าจอภาพขาว-ดำ ลดราคาต่อเนื่อง ขณะที่กล้องดิจิทัล จะเป็นฟังก์ชั่นติดตั้งกับเครื่องลูกข่าย รองจากจอภาพสี ความละเอียดของสี และของภาพ จากกล้องดิจิทัล จะกำหนดความแตกต่างราคาเครื่องแต่ละรุ่น
เครื่องลูกข่ายรองรับเทคโนโลยีเสียงแบบเอ็มพี 3 ที่ทำให้เสียงเรียกเข้าแบบทรูโทน รูปลักษณ์เป็นแฟชั่น เมมโมรี่การ์ด และเกม จะเป็นปัจจัยกระตุ้นยอดจำหน่ายปี 2548
- ราคาเครื่องลูกข่าย แนวโน้มราคาจำหน่ายเครื่องลูกข่ายรุ่นเก่า จะลดลงรวดเร็ว เมื่อมีเครื่องรุ่นใหม่วางจำหน่าย อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่า เครื่องรุ่นใหม่ที่เข้ามาจำหน่าย จะราคาค่อนข้างทรงตัว
เครื่องระดับบน จะราคาประมาณ 20,000-30,000 บาทต่อเครื่อง เครื่องระดับกลาง-บน จะราคาประมาณ 10,000-20,000 บาท และเครื่องระดับกลาง-ล่าง จะราคาต่ำกว่า 10,000 บาท
ปี 2548 การเปลี่ยนแปลงราคาเครื่องรุ่นใหม่ จะไม่มากนัก เครื่องลูกข่ายราคาต่ำกว่า 10,000 บาท จะเป็นที่ต้องการของตลาดสูง ยอดขายประมาณ 70%
- ภาวะแข่งขัน เครื่องลูกข่ายที่จำหน่าย มีความหลากหลายด้านใช้งาน และมีหลากหลายแบรนด์ ทั้งจากผู้ผลิตเครื่องแบรนด์ระดับโลก (global brand) เช่น โนเกีย โมโตโรล่า โซนี่-อิริคสัน ผู้ผลิตแบรนด์ขนาดเล็ก (small brand) จากจีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน และเครื่องเฮ้าส์แบรนด์ (house brand)
ปี 2548 คาดว่าแบรนด์ระดับโลกจะยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดสูง ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เชื่อถือคุณภาพ และเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองทั้งตลาดทุกระดับ
เครื่องแบรนด์ระดับโลก จะมีเครื่องลูกข่ายทหลากหลาย เข้าถึงกลุ่มลูกค้าวงกว้าง (mass) ทั้งรุ่นราคาจำหน่ายไม่สูงนัก ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับเครื่องแบรนด์ขนาดเล็กและเฮ้าส์แบรนด์ ต่างแย่งส่วนแบ่งตลาด
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเห็นว่า ตลาดเครื่องลูกข่ายราคาถูกแบรนด์เอเชียและเฮ้าส์แบรนด์ จะมีแนวโน้มตลาดเติบโตขึ้นอีก โดยเฉพาะตลาดเครื่องลูกข่ายราคาไม่เกิน 5,000 บาท
เพราะช่วงราคาใกล้เคียงกัน เครื่องลูกข่ายแบรนด์เอเชียและเฮ้าส์แบรนด์ จะมีลูกเล่น หรือฟังก์ชั่นการทำงาน มากกว่าแบรนด์ระดับโลก อย่างไรก็ตาม แบรนด์ขนาดเล็กและเฮ้าส์แบรนด์ ยังเสียเปรียบบริการหลังการขาย และบริการเสริมต่อเนื่อง ที่ยังมีน้อยกว่า
- สินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ แนวโน้มการซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเงินผ่อนเริ่มลดลง โดยปี 2546 ยอดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนระบบผ่อนชำระสูงถึง 17.7% ขณะที่ปีนี้ ลดเหลือ 8.6% เท่านั้น
คาดว่าน่าจะเป็นผลจากการปรับตัวของราคาโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดต่อเนื่อง และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยเงินผ่อนช่วงที่ผ่านมา ทำให้การเช่าซื้อชะลอ
- ตลาดต่างจังหวัด ผลสำรวจสำนักงานสถิติแห่งชาติปีนี้ ตลาดกรุงเทพ ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 47.8% ของจำนวนประชากร ขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัด ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เพียง 24.6%
ทำให้ตลาดต่างจังหวัด ยังมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเข้าสู่ระบบครั้งแรก ทำให้ผู้จำหน่ายเครื่องต้องเปิดสาขา และช่องทางจำหน่ายเข้าถึงชุมชนมากยิ่งขึ้น ผ่านเครือข่ายร้านค้าเครื่อง และจัดกิจกรรม ณ จุดขาย (event marketing) เพื่อกระตุ้นตลาด
โดยตลาดต่างจังหวัด เครื่องจอขาว-ดำ และจอสีราคาถูก ยังเป็นที่ต้องการมาก อย่างไรก็ตาม การแข่งขันของตลาดยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะแข่งขันกับเครื่องมือสองราคาถูก
- บริการเสริม เช่น ดาวน์โหลดภาพหน้าจอ ดาวน์โหลดริงโทน บริการดาวน์โหลดเกม คาราโอเกะ เพลงเอ็มพี 3 ฯลฯ เป็นบริการที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ผลิตแต่ละราย ต้องสร้างสังคม (Society) กลุ่มผู้ใช้ รูปแบบบริการที่สอดคล้องกัน
โดยร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวสินค้า โดยเฉพาะการพัฒนาคอนเทนท์ต่างๆ เพื่อใช้งานกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
- ปรับปรุงบริการหลังการขาย โดยเฉพาะผู้ผลิตแบรนด์ระดับโลก ที่เริ่มเปิดศูนย์บริการครบวงจร เป็นทั้งร้านจำหน่าย ศูนย์บริการตรวจเช็คสภาพ ศูนย์ซ่อมเครื่อง ขณะที่เครื่องแบรนด์ระดับเล็กและเฮ้าส์แบรนด์ เริ่มจะให้ความสำคัญบริการหลังการขายเพิ่มขึ้น
โดยสรุป ตลาดเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ปี 2548 แนวโน้มตลาดไม่สดใสเท่าช่วงที่ผ่านมา การขยายตัวตลาดลดลง ส่งผลการแข่งขันของตลาดรุนแรงยิ่งขึ้น ขณะที่ผู้ผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้ส่วนต่างกำไรจากการจำหน่ายไม่มากนัก ทำให้ผู้ผลิต ทั้งรายเล็กและใหญ่ ต่างต้องเร่งปรับตัว เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดของตนให้ได้มากที่สุด
ภาวะชะลอตัวตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปีนี้ สะท้อนแนวโน้มตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ปี 2548 ว่าตลาดจะชะลอต่อเนื่อง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประมาณว่า สิ้นปีนี้ จะมีเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมประมาณ 27.5 ล้านเลขหมาย ขยายตัวประมาณ 24% จากปี 2546
ปี 2548 คาดว่าจะมีเลขหมายเปิดใช้เพิ่มเป็น 32 ล้านเลขหมาย ขยายตัวประมาณ 16% การชะลอตัวตลาดบริการเลขหมาย คาดว่าจะส่งผลกระทบการขยายตัวตลาดเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย
ปีนี้ ตลาดเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เคลื่อนไหวค่อนข้างรวดเร็ว เครื่องรุ่นใหม่จำหน่ายหลายรุ่น ทั้งจากผู้ผลิตเครื่องแบรนด์ระดับโลก (global brand) เช่น โนเกีย โมโตโรล่า โซนี่-อิริคสัน และจากผู้ผลิตแบรนด์ขนาดเล็ก (small brand) จากจีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน และเครื่องเฮ้าส์แบรนด์ (house brand)
ยอดจำหน่ายเครื่องลูกข่าย มาจาก 2 ส่วน คือผู้ใช้รายใหม่ (new users) และ ผู้ใช้เดิมที่เปลี่ยนเครื่อง หรือเครื่องทดแทน (replacement) ปีนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประมาณยอดจำหน่ายเครื่องลูกข่ายประมาณ 7 ล้านเครื่อง ปี 2548 คาดว่าตลาดเครื่องลูกข่ายจะมียอดจำหน่ายประมาณ 6.5 ล้านเครื่อง ลดลง 7%
ยอดจำหน่ายเครื่องลูกข่ายแนวโน้มลดลงปี 2548 เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้ใหม่ที่จะใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนลดลง อัตราใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อประชากรไทยเริ่มสูงขึ้น ปีนี้ ประมาณ 41.3% ของประชากรทั้งประเทศ
จะเพิ่มเป็น 50.8% ของประชากรปี 2548 เป็นอัตราสูง แม้ตลาดเครื่องทดแทนจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องลูกข่ายระดับบน หรือเครื่องที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ฟังก์ชั่นทำงานหลากหลาย และรูปทรงเครื่องเป็นแฟชั่นมากยิ่งขึ้น
จะเป็นปัจจัยกระตุ้นอัตราเปลี่ยนเครื่องรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่เครื่องลูกข่ายระดับบน ยังเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ขณะที่เครื่องราคาไม่สูงนัก ยังเป็นที่ต้องการของตลาดมาก
แนวโน้มตลาดเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศปี 2548 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปดังนี้
- การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเครื่อง ช่วงที่ผ่านมา เทคโนโลยีในเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นมาก เครื่องลูกข่ายจอภาพสี จะเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐาน ขณะที่เครื่องจอภาพขาว-ดำ จะมีปริมาณจำหน่ายลดลงตามลำดับ จะมีราคาลดต่อเนื่อง
โดยจะนำเครื่องรุ่นเก่าจอภาพขาว-ดำ ลดราคาต่อเนื่อง ขณะที่กล้องดิจิทัล จะเป็นฟังก์ชั่นติดตั้งกับเครื่องลูกข่าย รองจากจอภาพสี ความละเอียดของสี และของภาพ จากกล้องดิจิทัล จะกำหนดความแตกต่างราคาเครื่องแต่ละรุ่น
เครื่องลูกข่ายรองรับเทคโนโลยีเสียงแบบเอ็มพี 3 ที่ทำให้เสียงเรียกเข้าแบบทรูโทน รูปลักษณ์เป็นแฟชั่น เมมโมรี่การ์ด และเกม จะเป็นปัจจัยกระตุ้นยอดจำหน่ายปี 2548
- ราคาเครื่องลูกข่าย แนวโน้มราคาจำหน่ายเครื่องลูกข่ายรุ่นเก่า จะลดลงรวดเร็ว เมื่อมีเครื่องรุ่นใหม่วางจำหน่าย อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่า เครื่องรุ่นใหม่ที่เข้ามาจำหน่าย จะราคาค่อนข้างทรงตัว
เครื่องระดับบน จะราคาประมาณ 20,000-30,000 บาทต่อเครื่อง เครื่องระดับกลาง-บน จะราคาประมาณ 10,000-20,000 บาท และเครื่องระดับกลาง-ล่าง จะราคาต่ำกว่า 10,000 บาท
ปี 2548 การเปลี่ยนแปลงราคาเครื่องรุ่นใหม่ จะไม่มากนัก เครื่องลูกข่ายราคาต่ำกว่า 10,000 บาท จะเป็นที่ต้องการของตลาดสูง ยอดขายประมาณ 70%
- ภาวะแข่งขัน เครื่องลูกข่ายที่จำหน่าย มีความหลากหลายด้านใช้งาน และมีหลากหลายแบรนด์ ทั้งจากผู้ผลิตเครื่องแบรนด์ระดับโลก (global brand) เช่น โนเกีย โมโตโรล่า โซนี่-อิริคสัน ผู้ผลิตแบรนด์ขนาดเล็ก (small brand) จากจีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน และเครื่องเฮ้าส์แบรนด์ (house brand)
ปี 2548 คาดว่าแบรนด์ระดับโลกจะยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดสูง ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เชื่อถือคุณภาพ และเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองทั้งตลาดทุกระดับ
เครื่องแบรนด์ระดับโลก จะมีเครื่องลูกข่ายทหลากหลาย เข้าถึงกลุ่มลูกค้าวงกว้าง (mass) ทั้งรุ่นราคาจำหน่ายไม่สูงนัก ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับเครื่องแบรนด์ขนาดเล็กและเฮ้าส์แบรนด์ ต่างแย่งส่วนแบ่งตลาด
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเห็นว่า ตลาดเครื่องลูกข่ายราคาถูกแบรนด์เอเชียและเฮ้าส์แบรนด์ จะมีแนวโน้มตลาดเติบโตขึ้นอีก โดยเฉพาะตลาดเครื่องลูกข่ายราคาไม่เกิน 5,000 บาท
เพราะช่วงราคาใกล้เคียงกัน เครื่องลูกข่ายแบรนด์เอเชียและเฮ้าส์แบรนด์ จะมีลูกเล่น หรือฟังก์ชั่นการทำงาน มากกว่าแบรนด์ระดับโลก อย่างไรก็ตาม แบรนด์ขนาดเล็กและเฮ้าส์แบรนด์ ยังเสียเปรียบบริการหลังการขาย และบริการเสริมต่อเนื่อง ที่ยังมีน้อยกว่า
- สินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ แนวโน้มการซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเงินผ่อนเริ่มลดลง โดยปี 2546 ยอดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนระบบผ่อนชำระสูงถึง 17.7% ขณะที่ปีนี้ ลดเหลือ 8.6% เท่านั้น
คาดว่าน่าจะเป็นผลจากการปรับตัวของราคาโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดต่อเนื่อง และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยเงินผ่อนช่วงที่ผ่านมา ทำให้การเช่าซื้อชะลอ
- ตลาดต่างจังหวัด ผลสำรวจสำนักงานสถิติแห่งชาติปีนี้ ตลาดกรุงเทพ ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 47.8% ของจำนวนประชากร ขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัด ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เพียง 24.6%
ทำให้ตลาดต่างจังหวัด ยังมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเข้าสู่ระบบครั้งแรก ทำให้ผู้จำหน่ายเครื่องต้องเปิดสาขา และช่องทางจำหน่ายเข้าถึงชุมชนมากยิ่งขึ้น ผ่านเครือข่ายร้านค้าเครื่อง และจัดกิจกรรม ณ จุดขาย (event marketing) เพื่อกระตุ้นตลาด
โดยตลาดต่างจังหวัด เครื่องจอขาว-ดำ และจอสีราคาถูก ยังเป็นที่ต้องการมาก อย่างไรก็ตาม การแข่งขันของตลาดยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะแข่งขันกับเครื่องมือสองราคาถูก
- บริการเสริม เช่น ดาวน์โหลดภาพหน้าจอ ดาวน์โหลดริงโทน บริการดาวน์โหลดเกม คาราโอเกะ เพลงเอ็มพี 3 ฯลฯ เป็นบริการที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ผลิตแต่ละราย ต้องสร้างสังคม (Society) กลุ่มผู้ใช้ รูปแบบบริการที่สอดคล้องกัน
โดยร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวสินค้า โดยเฉพาะการพัฒนาคอนเทนท์ต่างๆ เพื่อใช้งานกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
- ปรับปรุงบริการหลังการขาย โดยเฉพาะผู้ผลิตแบรนด์ระดับโลก ที่เริ่มเปิดศูนย์บริการครบวงจร เป็นทั้งร้านจำหน่าย ศูนย์บริการตรวจเช็คสภาพ ศูนย์ซ่อมเครื่อง ขณะที่เครื่องแบรนด์ระดับเล็กและเฮ้าส์แบรนด์ เริ่มจะให้ความสำคัญบริการหลังการขายเพิ่มขึ้น
โดยสรุป ตลาดเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ปี 2548 แนวโน้มตลาดไม่สดใสเท่าช่วงที่ผ่านมา การขยายตัวตลาดลดลง ส่งผลการแข่งขันของตลาดรุนแรงยิ่งขึ้น ขณะที่ผู้ผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้ส่วนต่างกำไรจากการจำหน่ายไม่มากนัก ทำให้ผู้ผลิต ทั้งรายเล็กและใหญ่ ต่างต้องเร่งปรับตัว เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดของตนให้ได้มากที่สุด