xs
xsm
sm
md
lg

ซั่งไห่ ฟู้ด เอาใจคนทันสมัย ใช้กลยุทธ์ “ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซั่งไห่ ฟู้ด เปิดตัวแคมเปญ “บินลัดฟ้า” สร้างจุดขาย ระดมเชฟจากเซี่ยงไฮ้ มากที่สุดในตลาดถึง 15 คน ปักหลักประจำทุกสาขา

บริษัท ซั่งไห่ ฟู้ด จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2546 ประกอบธุรกิจร้านอาหารจีนเซี่ยงไฮ้ ภายใต้ชื่อ “ร้านซั่งไห่ เสี่ยวหลงเปา” ซึ่งเป็นโมเดลใหม่แบบ Quick Service Restaurant (Fast Food) สไตล์โมเดิร์น ด้วยรูปแบบ “ครัวเปิด” เน้นความเร็ว–อร่อย–สะอาด และทันสมัย กอปรกับรสชาติ เมนูอาหารที่ไม่เหมือนใคร ด้วยความเป็นต้นตำรับ “ซั่งไห่” จากประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของเชฟชาวเซี่ยงไฮ้มืออาชีพถึง 15 คน นับเป็นร้านอาหารจีนที่ระดมเชฟชาวจีนมากที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคคนไทย ตามสโลแกน “ประสบการณ์ความอร่อยใหม่ ตำรับซั่งไห่ ที่คุณต้องลอง”

บริษัท ซั่งไห่ ฟู้ด จำกัด นำโดย นายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ กรรมการผู้จัดการ ผู้ปลุกกระแส China Chic ได้จัดงานเลี้ยงสื่อมวลชน เพื่อแนะนำ ทีมเชฟชาวเซี่ยงไฮ้ 15 คน ที่บินตรงจากเซี่ยงไฮ้ มาประจำร้านซั่งไห่ เสี่ยวหลงเปา ทั้ง 7 สาขา โดยบริษัทฯ ได้ออกแคมเปญ “บินลัดฟ้า” พร้อมโปรโมชั่น “สะสม แสตมป์ เชฟ ไม่ซ้ำหน้า” เมื่ออิ่มอร่อย ทุก 300.- บาท ที่ ร้านซั่งไห่ เสี่ยวหลงเปา ทุกสาขา เพื่อคืนกำไรสู่ผู้บริโภค ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 47 – 30 เม.ย. 48

กระแสอาหารจีนมาแรง
นายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ เปิดเผยว่า “จากกระแสการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารประเภทควิกเซอร์วิส เรสเตอร์รองในประเทศไทย ที่มีมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท / ปี และมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเปิดแนวรุกใหม่ของธุรกิจร้านอาหารจีนวันนี้ ดูจะเป็นความแตกต่างที่ลงตัว และ เชื่อว่า “อาหารจีน กำลังจะมา” โดยจะสังเกตุได้จากความแตกต่างที่ชัดเจนจากในอดีต หลายแบรนด์มีการปรับเปลี่ยนไปสู่ยุคใหม่ของร้านอาหารจีน ตามคอนเซ็ปต์ของความเป็น โมเดิร์น ไชนิส เรสเตอรองต์ส (Modern Chinese Restaurant) และมีการปรับตัวสู่เจนเนอเรชั่น 2 และ 3 เพื่อตอบรับวิถีชีวิตของคนทันสมัย บริษัทฯ จึงได้ริเริ่มโมเดลใหม่ของร้านอาหารจีน ให้เป็นโมเดิร์น บิสซิเนส เพื่อเพิ่มทางเลือกของผู้บริโภค ด้วยคอนเซ็ปต์ “Quick Service Restaurant” (Fast Food) สไตล์โมเดิร์น ใช้ชื่อ “ร้านซั่งไห่ เสี่ยวหลงเปา” โดยใช้เงินลงทุนสาขาละประมาณ 3–5 ล้านบาท ปัจจุบันมีทั้งหมด 7 สาขา ได้แก่ สีลมซอย 6, มาบุญครอง ชั้น 3, เมเจอร์ฯ – รัชโยธิน, เมเจอร์ฯ - เอกมัย, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล พระราม 2 และกำลังจะเปิดสาขาที่ 8 ที่เมเจอร์ฯ ปิ่นเกล้า ในราวต้นปี 2548 โดยมีเป้าหมายจะเปิดให้ครบอย่างน้อย 20 จุด ภายในปี 2548 นี้

นายอรัญ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีแผนการขยายการบริการให้ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายในเวลา 3 ปีแรกของการเปิดตลาด และตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้นำธุรกิจอาหารจีน สู่ระบบใหม่ Quick Service Restaurant หรือ Fast Food ด้วยรูปแบบ “ครัวเปิด” รวมถึงการนำกลยุทธ์ Lifestyle Marketing เพื่อขยายฐานลูกค้า ให้สามารถตอบรับวิถีชีวิตสมัยใหม่ และพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งบริษัทใช้เป็นตัวกำหนดกลยุทธ์ด้านทำเลที่ตั้งของร้านซั่งไห่ เสี่ยวหลงเปา จึงมีการเลือกพื้นที่ในศูนย์การค้า และ Entertainment Center เป็นหลัก แนวของการออกแบบร้านที่มีจุดเด่นและดูทันสมัย ดึงดูดความสนใจ สอดรับกับวิถีชีวิตของผู้บริโภค ในด้านกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ เน้นความหลากหลายบนพื้นฐานความต้องการในแต่ละกลุ่มลูกค้า ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะนำออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของร้านซั่งไห่ เสี่ยวหลงเปา มีอายุระหว่าง 25 – 45 ปี มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย และกลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะเป็นครอบครัว

ออกแคมเปญ “บินลัดฟ้า” พร้อมเปิด “ครัวกลาง”
นายอรัญ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ออกแคมเปญ “บินลัดฟ้า” โดยชูจุดขาย “รสชาติต้นตำรับ” จาก “เชฟต้นตำรับ” พร้อม ๆ กับการปลุกกระแสอาหารจีน ด้วยการระดมเชฟชาวจีนเซี่ยงไฮ้ถึง 15 คน มาประจำร้านซั่งไห่ ทั้ง 7 สาขา นำทีมโดย มร. เฉา จื้อ ลี่ ซึ่งเป็นหัวหน้าเชฟ คนเซี่ยงไฮ้โดยกำเนิด มีประสบการณ์ด้านอาหารมานานกว่า 20 ปี โดยเชฟทั้ง 15 คนนี้ จะถูกจัดเป็น 9 ทีม ทีมใหญ่จะประจำอยู่ที่ “ครัวกลาง” ส่วนสาขา จะส่งมือหนึ่งด้านการปรุงและการผัด ประจำสาขาละ 1 – 2 คน เพื่อควบคุมการปรุงอาหารตามเมนูที่ลูกค้าต้องการ นับว่า เป็นแบรนด์ร้านอาหารที่มีเชฟชาวจีนแท้ ๆ มากที่สุดในขณะนี้

นอกเหนือจาก การเน้น เชฟต้นตำรับ ที่มีจำนวนมากแล้ว บริษัทฯ ยังจัดทำ “ครัวกลาง” ขึ้น โดยออกแบบถูกต้องตามหลักสุขอนามัยและโภชนาการ เพื่อคัดสรรและจัดซื้อวัตถุดิบ ตลอดจนควบคุมคุณภาพอาหาร โดยอาหารต่าง ๆ จะถูกจัดเตรียมและส่งออกไปยังแต่ละสาขาทุกวัน เน้นความสด – ใหม่ เป็นการรักษาคุณค่าอาหารและรสชาติให้สม่ำเสมอ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภคและสร้างความพึงพอใจสูงสุดต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ เนื่องจากหัวใจหลักของร้านอาหารจีน คือ “เชฟ” และเสน่ห์ของร้านอาหารจีน อยู่ที่การทำ “ครัวเปิด” ให้เห็นลีลาการปรุงอาหารของ “เชฟ” ปรุงสด ๆ และทานขณะยังร้อน ๆ

สดทุกวัน – อร่อยทุกคำ กว่า 60 เมนู
สำหรับเมนูในร้านซั่งไห่ เสี่ยวหลงเปา เน้นความเป็นต้นตำรับเซี่ยงไฮ้ และความหลากหลาย ที่มีอาหารให้เลือกมากกว่า 60 เมนู แบ่งเป็น ประเภทซุป, อาหารทานเล่น, อาหารจานหลัก, อาหารจานเดียว และของหวาน โดยเมนูเด่นใน “ร้านซั่งไห่” คือ “เสี่ยวหลงเปา” หรือ ซาลาเปาพร้อมดื่ม ที่มีน้ำซุปหมูร้อน ๆ อยู่ข้างใน, หมูพันชั้น, ไก่ผัดซั่งไห่, หมูสามชั้นน้ำแดง, เนื้อเส้นผัดซั่งไห่, กุ้งผัดซอสเสฉวน ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมี “อาหารชุดพิเศษ – เลือกคู่ความอร่อย” ที่จัดเป็นเซ็ทง่าย ๆ ร่วม 20 รายการ เพียงชุดละ 89.- บาท และ “อาหารจานเดียว” ในราคาเพียง 69.- บาท เพื่อรองรับพฤติกรรมการบริโภคทุกรูปแบบ ทั้งความต้องการเร่งด่วน หรือความประหยัด ยิ่งกว่านี้ ร้านซั่งไห่ เสี่ยวหลงเปา ยังมี “เส้นหมี่-ซั่งไห่ประเภทต่าง ๆ” ที่เป็นสูตรเฉพาะ ให้ความเหนียว นุ่ม และรสชาติไม่เหมือนใคร เพราะทำสด ๆ ทุกวัน อีกทั้ง บริษัทฯ มีการพัฒนาและออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคที่เข้ามาในร้านซั่งไห่ เสี่ยวหลงเปา ได้สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยใหม่ตลอดเวลา และคงความเป็นต้นตำรับของความเป็นผู้นำ นายอรัญกล่าว

โปรโมชั่น “สะสม แสตมป์เชฟ ไม่ซ้ำหน้า”
นายอรัญเปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้จัดโปรโมชั่นเพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสมาสัมผัสความเป็นต้นตำรับซั่งไห่ โดยจัดทำ “สะสม แสตมป์เชฟ ไม่ซ้ำหน้า” เมื่อลูกค้าทานอาหารในร้านซั่งไห่ เสี่ยวหลงเปา ทุกสาขา ครบ 300.- บาท จะได้รับ แสตมป์หน้าเชฟ 1 หน้า สะสมไม่ซ้ำหน้า เมื่อครบ 10 หน้า รับทันที คูปอง ทานอาหาร ฟรี! 300.- บาท เริ่มตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2547 ถึง 30 เมษายน 2548
กำลังโหลดความคิดเห็น