เอาท์ดอร์ เดินหน้าผู้นำนวัตกรรมสื่อโฆษณา เปิดตัว "ป้ายโฆษณาพลังงานแสงอาทิตย์" เกาะกระแสนโยบายรัฐเร่งประหยัดพลังงาน เล็งศึกษาใช้พลังงานลม หวังจับลูกค้าในจังหวัดท่องเที่ยวตามชายทะเล
นายนิธิกร เพียมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอาท์ดอร์ โซลูชั่นส์(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตสื่อโฆษณากลางแจ้ง จากประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ล่าสุดได้เซ็นสัญญากับเจ้าของพื้นที่ที่จะใช้ติดตั้งป้ายโฆษณา ซึ่งมีรวมกันหลายพื้นที่ เช่น ย่านเขตวัฒนา ปทุมวัน ราชเทวี และคลองเตย เป็นต้น โดยทั้งหมดเป็นทำเลที่อยู่ในย่านชุมชน
นอกจากนั้นในเดือนตุลาคม ยังได้เตรียมเปิดตัวโปรดักส์ใหม่ คือ ป้ายโฆษณาแบบใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการป้ายโฆษณาของไทย โดยตัวป้ายจะมีการติดตั้งแผงโซล่าเซลส์ เพื่อรับแสงอาทิตย์ตองกลางวัน แล้วมาผันเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อให้แสงสว่างตอนกลางคืน แต่ทั้งนี้ด้วยพื้นรับแสงมีขนาดจำกัด ดังนั้นจึงต้องมีการพึ่งกระแสไฟฟ้าส่วนหนึ่งหรือประมาณ 60-70% ของการใช้ไฟทั้งหมดของแผ่นป้าย แต่ทั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการช่วยชาติประหยัดพลังงาน ตรงนี้จึงเป็นจุดขายสำคัญ ที่เราจะบอกแก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ
ทั้งนี้ ต้นทุนของการผลิตป้ายโฆษณาพลังงานแสงอาทิตย์ จะมีต้นทุนมากกว่าป้ายบิลบอร์ดปกติที่เห็นอยู่ทั่วไปราว 30 % ซึ่งตรงนี้การกำหนดราคาขายพื้นที่กับลูกค้าจึงแพงกว่าป้ายปกติ เฉลี่ยที่ 30% เช่นกัน ซึ่งลูกค้าเป้าหมายของบริษัท ส่วนใหญ่เป็นระดับพรีเมียม มีกิจการสาขาอยู่ทั่วโลก ดังนั้นจึงเป็นราคาที่สมเหตุสมผล ปัจจุบันป้ายโฆษณาที่อาศัยพลังงานจากแหล่งธรรมชาติ มีใช้กันแพร่หลายในประเทศแถบยุโรป ซึ่งมีทั้งพลังงานจากแสงอาทิตย์ และพลังงานจากลม ในส่วนของประเทศไทย บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาทำป้ายโฆษณาที่ใช้พลังงานจากลม ซึ่งน่าจะใช้ได้ดีในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล
"เรายังคงเดินหน้า หานวัตกรรมใหม่ๆ ในเรื่องของป้ายโฆษณา มานำเสนอให้กับผู้ประกอบการ โดยจะให้ความสำคัญในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน ซึ่งป้ายโฆษณาพลังงานแสงอาทิตย์ สามารถเปิดตัวได้ทันกระแสรณรงค์ประหยัดพลังงานของรัฐบาล ตรงนี้บริษัทจะใช้เป็นจุดขาย โดยมีตัวเลขชี้แจงได้ว่า การใช้ป้ายประหยัดพลังงานดังกล่าว จะช่วยชาติลดการใช้พลังงานได้เป็นจำนวนเงินเท่าใดต่อปี ซึ่งตรงนี้บริษัทจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ"
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน บริษัท มีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 2-3 ราย ที่เตรียมเปิดตัวพร้อมกัน เป็นบริษัทที่มีเครือข่ายข้ามชาติ และบริษัทระดับชั้นนำของไทย โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะมีรายได้ติดหนึ่งใน 5 อันดับของบริษัทสื่อโฆษณา ขณะเดียวกันปีนี้ตั้งเป้ารายได้ที่ 200 ล้านบาท
นายนิธิกร เพียมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอาท์ดอร์ โซลูชั่นส์(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตสื่อโฆษณากลางแจ้ง จากประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ล่าสุดได้เซ็นสัญญากับเจ้าของพื้นที่ที่จะใช้ติดตั้งป้ายโฆษณา ซึ่งมีรวมกันหลายพื้นที่ เช่น ย่านเขตวัฒนา ปทุมวัน ราชเทวี และคลองเตย เป็นต้น โดยทั้งหมดเป็นทำเลที่อยู่ในย่านชุมชน
นอกจากนั้นในเดือนตุลาคม ยังได้เตรียมเปิดตัวโปรดักส์ใหม่ คือ ป้ายโฆษณาแบบใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการป้ายโฆษณาของไทย โดยตัวป้ายจะมีการติดตั้งแผงโซล่าเซลส์ เพื่อรับแสงอาทิตย์ตองกลางวัน แล้วมาผันเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อให้แสงสว่างตอนกลางคืน แต่ทั้งนี้ด้วยพื้นรับแสงมีขนาดจำกัด ดังนั้นจึงต้องมีการพึ่งกระแสไฟฟ้าส่วนหนึ่งหรือประมาณ 60-70% ของการใช้ไฟทั้งหมดของแผ่นป้าย แต่ทั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการช่วยชาติประหยัดพลังงาน ตรงนี้จึงเป็นจุดขายสำคัญ ที่เราจะบอกแก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ
ทั้งนี้ ต้นทุนของการผลิตป้ายโฆษณาพลังงานแสงอาทิตย์ จะมีต้นทุนมากกว่าป้ายบิลบอร์ดปกติที่เห็นอยู่ทั่วไปราว 30 % ซึ่งตรงนี้การกำหนดราคาขายพื้นที่กับลูกค้าจึงแพงกว่าป้ายปกติ เฉลี่ยที่ 30% เช่นกัน ซึ่งลูกค้าเป้าหมายของบริษัท ส่วนใหญ่เป็นระดับพรีเมียม มีกิจการสาขาอยู่ทั่วโลก ดังนั้นจึงเป็นราคาที่สมเหตุสมผล ปัจจุบันป้ายโฆษณาที่อาศัยพลังงานจากแหล่งธรรมชาติ มีใช้กันแพร่หลายในประเทศแถบยุโรป ซึ่งมีทั้งพลังงานจากแสงอาทิตย์ และพลังงานจากลม ในส่วนของประเทศไทย บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาทำป้ายโฆษณาที่ใช้พลังงานจากลม ซึ่งน่าจะใช้ได้ดีในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล
"เรายังคงเดินหน้า หานวัตกรรมใหม่ๆ ในเรื่องของป้ายโฆษณา มานำเสนอให้กับผู้ประกอบการ โดยจะให้ความสำคัญในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน ซึ่งป้ายโฆษณาพลังงานแสงอาทิตย์ สามารถเปิดตัวได้ทันกระแสรณรงค์ประหยัดพลังงานของรัฐบาล ตรงนี้บริษัทจะใช้เป็นจุดขาย โดยมีตัวเลขชี้แจงได้ว่า การใช้ป้ายประหยัดพลังงานดังกล่าว จะช่วยชาติลดการใช้พลังงานได้เป็นจำนวนเงินเท่าใดต่อปี ซึ่งตรงนี้บริษัทจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ"
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน บริษัท มีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 2-3 ราย ที่เตรียมเปิดตัวพร้อมกัน เป็นบริษัทที่มีเครือข่ายข้ามชาติ และบริษัทระดับชั้นนำของไทย โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะมีรายได้ติดหนึ่งใน 5 อันดับของบริษัทสื่อโฆษณา ขณะเดียวกันปีนี้ตั้งเป้ารายได้ที่ 200 ล้านบาท