ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดตั้งกองทุนเฉพาะสินค้าหัวหอมแดง โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ
นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดตั้งกองทุนเฉพาะสินค้าหัวหอมแดง ตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาราคาหัวหอมแดงที่ตกต่ำ รวมถึงการส่งเสริมการผลิต การแปรรูป และการขยายตลาดด้วย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา มีเกษตรกรจำนวนมากเข้ามาร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากกรณีราคาตกต่ำ ซึ่งในเบื้องต้นได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ
ทั้งนี้ กองทุนเฉพาะสินค้าจะเข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาและหามาตรการในการช่วยเหลือสินค้าเกษตรของไทย รวมถึงการแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรแต่ละชนิดแบบครบวงจร ซึ่งจะคล้ายกับกองทุนอ้อยและน้ำตาลที่เข้ามาช่วยชาวไร่อ้อยทุกอย่าง และในอนาคตจะเข้ามามีบทบาทการช่วยเหลือเกษตรกรแทนคณะกรรมการนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีให้เริ่มจากการจัดตั้งกองทุนหัวหอมแดงก่อน แล้วหลังจากนั้นก็จะค่อยทยอยการจัดตั้งกองทุนสินค้าประเภทอื่นเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการสร้างยี่ห้อหรือมิสเตอร์สินค้าเกษตรไทย
“การจัดตั้งกองทุนดังกล่าว ถือเป็นแนวความคิดใหม่ที่จะมีหน้าที่คล้ายกับกองทุนอ้อยและน้ำตาล แต่จะมีขนาดกองทุนไม่ใหญ่เท่า ซึ่งรัฐจะเป็นผู้ลงทุนงบประมาณก้อนแรกให้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณถึงวงเงิน อย่างไรก็ตาม กองทุนเฉพาะสินค้าจะเข้ามามีหน้าที่ในการช่วยเหลือเกษตรกรแทน คชก. ที่นายกรัฐมนตรีมองว่าเป็นองค์กรที่ทำงานล่าช้า และมีปัญหามาตลอด ส่วนกรณีที่กองทุนเฉพาะสินค้ามีความแข็งแรงแล้วอาจจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานของ คชก. หรืออาจจะยกเลิกก็ได้” นายจักรภพ กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ปรับโครงสร้างระบบข้าราชการให้ชัดเจนเกี่ยวกับดำเนินงานต่างๆ โดยเฉพาะด้านการผลิต การตลาด และอนุรักษ์นิยม เพื่อแก้ปัญหาให้การทำงานของหน่วยงานข้าราชการทั้งระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดตั้งกองทุนเฉพาะสินค้าหัวหอมแดง ตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาราคาหัวหอมแดงที่ตกต่ำ รวมถึงการส่งเสริมการผลิต การแปรรูป และการขยายตลาดด้วย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา มีเกษตรกรจำนวนมากเข้ามาร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากกรณีราคาตกต่ำ ซึ่งในเบื้องต้นได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ
ทั้งนี้ กองทุนเฉพาะสินค้าจะเข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาและหามาตรการในการช่วยเหลือสินค้าเกษตรของไทย รวมถึงการแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรแต่ละชนิดแบบครบวงจร ซึ่งจะคล้ายกับกองทุนอ้อยและน้ำตาลที่เข้ามาช่วยชาวไร่อ้อยทุกอย่าง และในอนาคตจะเข้ามามีบทบาทการช่วยเหลือเกษตรกรแทนคณะกรรมการนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีให้เริ่มจากการจัดตั้งกองทุนหัวหอมแดงก่อน แล้วหลังจากนั้นก็จะค่อยทยอยการจัดตั้งกองทุนสินค้าประเภทอื่นเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการสร้างยี่ห้อหรือมิสเตอร์สินค้าเกษตรไทย
“การจัดตั้งกองทุนดังกล่าว ถือเป็นแนวความคิดใหม่ที่จะมีหน้าที่คล้ายกับกองทุนอ้อยและน้ำตาล แต่จะมีขนาดกองทุนไม่ใหญ่เท่า ซึ่งรัฐจะเป็นผู้ลงทุนงบประมาณก้อนแรกให้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณถึงวงเงิน อย่างไรก็ตาม กองทุนเฉพาะสินค้าจะเข้ามามีหน้าที่ในการช่วยเหลือเกษตรกรแทน คชก. ที่นายกรัฐมนตรีมองว่าเป็นองค์กรที่ทำงานล่าช้า และมีปัญหามาตลอด ส่วนกรณีที่กองทุนเฉพาะสินค้ามีความแข็งแรงแล้วอาจจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานของ คชก. หรืออาจจะยกเลิกก็ได้” นายจักรภพ กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ปรับโครงสร้างระบบข้าราชการให้ชัดเจนเกี่ยวกับดำเนินงานต่างๆ โดยเฉพาะด้านการผลิต การตลาด และอนุรักษ์นิยม เพื่อแก้ปัญหาให้การทำงานของหน่วยงานข้าราชการทั้งระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น