ผู้จัดการรายวัน- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจับมือบริษัทท่องเที่ยวไทยกว่า 95 รายลุยงานWorld Travel Market (WTM) 2004 ที่อังกฤษ ตั้งเป้าบุกตลาดยุโรปกว่า 12% รองผู้ว่าฯฝ่ายตลาดต่างประเทศมั่นใจตลาดยุโรปปีนี้คึกคักสวนกระแสภูมิภาคอื่น ส่วนสถานการณ์ภาคใต้ของไทยไม่มีผลกระทบ ตลาดหลักของไทย พร้อมเปิดตัวคอนเซปใหม่ "Happiness on Earth" ชูการท่องเที่ยวแห่งความสุข รื่นรมย์และปลอดภัย ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยที่เข้าร่วมงานคุยยอดขายไปโลด คาดอนาคตมีการซื้อขายเพิ่มขึ้นแน่
นางพรศิริ มโนหาญ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฝ่ายตลาดต่างประเทศ เปิดเผยการเข้าร่วมงานWorld Travel Market (WTM)2004 ซึ่งจัดขึ้นที่ Excel Exhibition Centre กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 8-11 พ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกกว่า 5,000 รายจาก 190 ประเทศทั่วโลก ซึ่งแบ่งเป็นภูมิภาคต่าง ๆ คือ ยุโรป เอเซียแปซิฟิก อเมริการเหนือ แคริบเบียน อเมริกากลางและอเมริการใต้ แอฟริการ ตะวันออกกลาง ในจำนวนนี้มีผู้เข้าร่วมงานรายใหม่ที่เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรกกว่า 70 ราย จาประเทศต่าง ๆ เช่น อุสเบกิสถาน เลโซโธ ฯลฯ
ในปีนี้งานดังกล่าวจัดมีความยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เนื่องจากเป็นปีเฉลิมฉลองการจัดงานครบรอบ 25 ปี โดยที่การท่องเที่ยวไทย ได้เข้าร่วมงานและเชิญผู้ประกอบการธุรกิจในแวดอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมงานในพื้นที่ของ ททท. จำนวน 95 ราย แบ่งเป็นภาคธุรกิจโรงแรม / รีสอร์ท 79 หน่วย งาน บริษัทนำเที่ยว 13 หน่วยงานและสายการบิน 1 รายคือบริษัทการบินไทย บริษัทรถเช่าและเรือสำราญอย่างละ 1 ราย
สำหรับบรรยากาศในคูหาของการเที่ยวแห่งประเทศ จัดให้มีการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อแล้ว บริเวณพื้นที่ Thailand Stand ยังมีการจัดเคาน์เตอร์ให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวไทยให้กับผู้ซื้อ และผู้สนใจทั่วไป รวมทั้งมีการฉายวีดีโอเพื่อนำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวของประเทศ รวมทั้งมีพื้นที่สาธิตการนวดแบบสปา และการจัดแสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ด้วย
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เฉพาะของภาคธุรกิจเอกชนไทยหลายรายที่ต้องการความเป็นสัดส่วนและสะดวกในการเจรจาทางธุรกิจได้จองพื้นที่เองเพื่อใช้ในการเจรจาธุรกิจอีกด้วย
ท่องเที่ยวไทยครึ่งปี 47 ฟื้นตัว
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2547 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทั้งสิ้น 5,511,252 คน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.22 แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์การการท่องเที่ยวของไทยได้มีการฟื้นตัวจากการทรุดตัวลงอย่างหนักในปี 2546 ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือโรคซาร์ส
นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในปี 2545 ซึ่งเป็นปีที่มีแนวโน้มปกติแล้วพบว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยโดยรวมมีการฟื้นตัวกลับมาอยู่ในแนวโน้มปกติในอัตราการเติบโตระดับปานกลางคือร้อยละ 3.48 โดยแทบทุกภูมิภาคได้ฟื้นตัวกลับมาแล้ว ยกเว้นภูมิภาคตะวันออกกลางแอฟริกา
อย่างไรในช่วงต้นปี 2547 มีการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกและประเทศมหาอำนาจมีการเติบโตดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยกลับฟื้นตัวขึ้น ซึ่งมีสายการบินต้นทุนต่ำภายในภูมิภาคตและการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินประจำเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น
นางพรศิริ กล่าวว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2547 ว่าประเทศไทยรับนักท่องเที่ยวยุโรปเป็นจำนวน 1,285,761 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 12.11 ซึ่งเป็นการขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่สูง เนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนไทยรับนักท่องเที่ยวจากยุโรปลดลงจำนวนมาก อันเป็นผลมาจากการระบาดของโรคซาร์สในภูมิภาคเอเซีย การขยายตัวของตลาดในอัตราค่อนข้างสูงชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็วภายหลังวิกฤตโรคซาร์ส
อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบการเติบโตของตลาดกับปี 2545 ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยอยู่ในภาวะปกติแล้ว จะพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2547 มีการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.98 ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่สูงมากนัก ทั้งนี้เป็นผลมาจากในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2547 ไทยต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคไข้หวัดนกจนทำให้เกิดผู้เสียชีวิตนั้น และข่าวความไม่สงบในภาคใต้ แต่เมื่อพิจารณารายตลาดแล้ว พบว่า เมื่อเทียบกับปี 2545 ตลาดหลักสำคัญของไทย เช่น สหราชอาณาจักรและเยอรมนีมีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ คืออยู่ที่ระดับร้อยละ 8.22 และ 7.96 ตามลำดับ
ค่าปอนด์-ยูโรแข็งดีต่อท่องเที่ยวไทย
ทั้งนี้มาจากการแข็งค่าของเงินปอนด์และเงินยูโร เป็นปัจจัยสำคัญแล้ว ยังมีการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินตรงของสายการบินไทยในเส้นทางลอนดอน-กรุงเทพฯ มิวนิค-กรุงเทพฯ เป็นปัจจัยที่สนับสนุนที่สำคัญ ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ และสวีเดน อยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากตลาดมีการชะลอตัวลง สาเหตุหลักมาจากการระบาดของไข้หวัดนก
สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสถัดไป คาดว่า โดยภาพรวม ตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปอาจจะยังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับปี 2545 เนื่องจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวตลาดหลักฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และสวีเดน ยังคงต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในการฟื้นตัวมาสู่แนวโน้มปกติ ประกอบกับในช่วงกลางเดือนมิถุนายน -กลางเดือนกรกฎาคมนี้จะมีการแข่งขันชิงแชมป์ฟุตบอลแห่งชาติยุโรป 2004 ที่ประเทศโปรตุเกส และในช่วงสิงหาคมก็จะมีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศกรีซ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะมีความสำคัญสำหรับชาวยุโรป ซึ่งจะทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในยุโรปมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้โอกาสสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวระยะไกลและกลางชะลอตัวลงไปในระดับหนึ่ง
ส่วนแนวโน้มสถานการณ์ในปี 2548 คาดว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวของภูมิโรคยุโรปจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งค่าเงินยูโรและเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นจะเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นการเดินทางออก และสนับสนุนให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คุ้มค่าเงินมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสายการบินต่าง ๆ ได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากภูมิภาคยุโรปมาประเทศไทย เช่น การบินไทย
ปัญหาภาคใต้ไม่กระทบตลาดหลัก
นางพรศิริ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาความสงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก และปัญหาราคาน้ำมันในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 แม้ว่าจะส่งผลกระทบระยะสั้นในบางตลาด ซึ่งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมีการปรับตัวมากขึ้นในการรองรับวิกฤติการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ช่วยลดความร้อนแรงของสถานการณ์ท่องเที่ยวโดยรวม ทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวครึ่งปีในภาพรวมมีการเติบโตระดับปานกลางเท่านั้น
อย่างไรก็ตามตลาดใหญ่ที่มีการเติบโตอย่างเข้มแข็งคือ มาเลเซีย ฮ่องกง เกาหลี สหราชอาณาจักร เยอรมนี อินเดียว และออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังพบการเปลี่ยนแปลงลักษณะการเดินทางของตลาดที่สำคัญๆ คือ ตลาดมาเลเซีย มีการขยายตัวดี ทั้งดานชายแดนภาคใต้และการกระจายตัวเข้ากรุงเทพฯและเชียงใหม่มากขึ้น ซึ่งทำให้เห็นว่าเหตุการณ์ความสงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่มีผลกระทบต่อตลาดนี้
ชูคอนเซ็ปต์Happiness on Earth
นายสุรพล เศวตเศรณี รองผู้ว่การการท่องเที่ยวฯ เปิดเผยว่าการท่องเที่ยวฯ ได้มีการเปิดตัว Happiness on Earth ซึ่งเป็นการเปิตตัวในงาน WTM เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมาโดยชูแนวคิดในเรื่องประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งความสุข สงบ รื่นรมย์ และปลอดภัยอย่างแท้จริง ซึ่งการนำแนวคิดนี้มาใช้โปรโมทประเทศไทยเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งการท่องเที่ยวจะต้องเร่งสร้างภาพลักษณ์และภาพพจน์ให้เกิดขึ้น
"แนวคิดนี้ได้มีการวิเคราะห์และวิจัยมาแล้ว จึงได้มีการนำเสนอคอนเซปนี้ออกมาก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการโปรโมทประเทศ ซึ่งมีความแตกต่างจากอะเมสซิ่งไทยแลนด์ และพยายามชูจุดแข็งของการท่องเที่ยวไทยและพยายามสื่อสารให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ"
ผู้ประกอบการคุยยอดขายฉลุย
นายศิรศักดิ์ ตันเกษม ผู้จัดการทั่วไป กลุ่ม ไอยปุระ รีสอร์ทและสปา หนึ่งในผู้ประกอบที่เข้าร่วมในงานดังกล่าว เปิดเผยถึงการเข้าร่วมงานครั้งนี้ว่าปีนี้เป็นปีแรกที่เข้ามาร่วมงานครั้งนี้ แต่ก็พอใจเพราะได้พบกับลูกค้าที่มีความหลากหลาย ซึ่งลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่เคยเห็นสินค้าก็ได้เห็นและได้พบปะและขอข้อมูลจากบริษัท รวมทั้งมีการนัดหมายที่จะเข้ามาดูสถานที่จริงในประเทศไทย
"ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีการเซ็นสัญญาซื้อขายกันเกิดขึ้น แต่อนาคตก็คาดว่าจะต้องมีการซื้อขายเกิดขึ้นแน่ บางรายได้ยินชื่อเสียงของไอยปุระแต่ไม่สามารถหารายละเอียด เมื่อมางานนี้ก็ได้พบผู้ประกอบการตัวจริงจึงได้มีการนัดหมายกันขึ้น ตรงนี้เป็นสิ่งที่ทำให้รู้ว่าคุ้มค่าที่ได้มาร่วมงานกับการท่องเที่ยวในครั้งนี้"
นายสุกมล แดนนี่ ผู้จัดการฝ่ายข่ายของกลุ่ม Hilton กล่าวว่าปีนี้ยอดขายของโรงแรมและผู้เข้าร่วมงานคึกคักมากกว่า1-2 ปีทีผ่านมา เนื่องจากช่วงดังกล่าวสถานการณ์ท่องเที่ยวไม่คึกคักเท่าที่ควร เพราะมีปัญหาเรื่องโรคซาร์ส แต่มาปีนี้คนที่เข้ามาร่วมชมงานคึกคัก ซึ่งทางกลุ่ม Hilton ได้มีการนำเสนอสินค้าในเครือของโรงแรม3 แห่งด้วยกัน ซึ่งมี 2 โรงแรมที่จะเปิดในปี 2005 แต่ก็เป็นการเปิดตัวและขายกันล่วงหน้า ซึ่งมีลูกค้าสนใจติดต่อเจรจาซื้อขายกันอย่างคึกคักมากกว่าปีก่อน ๆ
"โดยรวมๆ ผู้ที่เข้ามาร่วมงานมียอดขายที่เพิ่มขึ้นแน่ บางราย 20-30 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยวของไทยน่าจะคึกคักในปีหน้า เพราะการเปิดซื้อขายสินค้ากันครั้งนี้เป็นการสำรองและจองกันล่วงหน้า"
นางพรศิริ มโนหาญ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฝ่ายตลาดต่างประเทศ เปิดเผยการเข้าร่วมงานWorld Travel Market (WTM)2004 ซึ่งจัดขึ้นที่ Excel Exhibition Centre กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 8-11 พ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกกว่า 5,000 รายจาก 190 ประเทศทั่วโลก ซึ่งแบ่งเป็นภูมิภาคต่าง ๆ คือ ยุโรป เอเซียแปซิฟิก อเมริการเหนือ แคริบเบียน อเมริกากลางและอเมริการใต้ แอฟริการ ตะวันออกกลาง ในจำนวนนี้มีผู้เข้าร่วมงานรายใหม่ที่เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรกกว่า 70 ราย จาประเทศต่าง ๆ เช่น อุสเบกิสถาน เลโซโธ ฯลฯ
ในปีนี้งานดังกล่าวจัดมีความยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เนื่องจากเป็นปีเฉลิมฉลองการจัดงานครบรอบ 25 ปี โดยที่การท่องเที่ยวไทย ได้เข้าร่วมงานและเชิญผู้ประกอบการธุรกิจในแวดอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมงานในพื้นที่ของ ททท. จำนวน 95 ราย แบ่งเป็นภาคธุรกิจโรงแรม / รีสอร์ท 79 หน่วย งาน บริษัทนำเที่ยว 13 หน่วยงานและสายการบิน 1 รายคือบริษัทการบินไทย บริษัทรถเช่าและเรือสำราญอย่างละ 1 ราย
สำหรับบรรยากาศในคูหาของการเที่ยวแห่งประเทศ จัดให้มีการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อแล้ว บริเวณพื้นที่ Thailand Stand ยังมีการจัดเคาน์เตอร์ให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวไทยให้กับผู้ซื้อ และผู้สนใจทั่วไป รวมทั้งมีการฉายวีดีโอเพื่อนำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวของประเทศ รวมทั้งมีพื้นที่สาธิตการนวดแบบสปา และการจัดแสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ด้วย
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เฉพาะของภาคธุรกิจเอกชนไทยหลายรายที่ต้องการความเป็นสัดส่วนและสะดวกในการเจรจาทางธุรกิจได้จองพื้นที่เองเพื่อใช้ในการเจรจาธุรกิจอีกด้วย
ท่องเที่ยวไทยครึ่งปี 47 ฟื้นตัว
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2547 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทั้งสิ้น 5,511,252 คน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.22 แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์การการท่องเที่ยวของไทยได้มีการฟื้นตัวจากการทรุดตัวลงอย่างหนักในปี 2546 ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือโรคซาร์ส
นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในปี 2545 ซึ่งเป็นปีที่มีแนวโน้มปกติแล้วพบว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยโดยรวมมีการฟื้นตัวกลับมาอยู่ในแนวโน้มปกติในอัตราการเติบโตระดับปานกลางคือร้อยละ 3.48 โดยแทบทุกภูมิภาคได้ฟื้นตัวกลับมาแล้ว ยกเว้นภูมิภาคตะวันออกกลางแอฟริกา
อย่างไรในช่วงต้นปี 2547 มีการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกและประเทศมหาอำนาจมีการเติบโตดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยกลับฟื้นตัวขึ้น ซึ่งมีสายการบินต้นทุนต่ำภายในภูมิภาคตและการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินประจำเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น
นางพรศิริ กล่าวว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2547 ว่าประเทศไทยรับนักท่องเที่ยวยุโรปเป็นจำนวน 1,285,761 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 12.11 ซึ่งเป็นการขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่สูง เนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนไทยรับนักท่องเที่ยวจากยุโรปลดลงจำนวนมาก อันเป็นผลมาจากการระบาดของโรคซาร์สในภูมิภาคเอเซีย การขยายตัวของตลาดในอัตราค่อนข้างสูงชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็วภายหลังวิกฤตโรคซาร์ส
อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบการเติบโตของตลาดกับปี 2545 ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยอยู่ในภาวะปกติแล้ว จะพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2547 มีการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.98 ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่สูงมากนัก ทั้งนี้เป็นผลมาจากในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2547 ไทยต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคไข้หวัดนกจนทำให้เกิดผู้เสียชีวิตนั้น และข่าวความไม่สงบในภาคใต้ แต่เมื่อพิจารณารายตลาดแล้ว พบว่า เมื่อเทียบกับปี 2545 ตลาดหลักสำคัญของไทย เช่น สหราชอาณาจักรและเยอรมนีมีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ คืออยู่ที่ระดับร้อยละ 8.22 และ 7.96 ตามลำดับ
ค่าปอนด์-ยูโรแข็งดีต่อท่องเที่ยวไทย
ทั้งนี้มาจากการแข็งค่าของเงินปอนด์และเงินยูโร เป็นปัจจัยสำคัญแล้ว ยังมีการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินตรงของสายการบินไทยในเส้นทางลอนดอน-กรุงเทพฯ มิวนิค-กรุงเทพฯ เป็นปัจจัยที่สนับสนุนที่สำคัญ ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ และสวีเดน อยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากตลาดมีการชะลอตัวลง สาเหตุหลักมาจากการระบาดของไข้หวัดนก
สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสถัดไป คาดว่า โดยภาพรวม ตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปอาจจะยังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับปี 2545 เนื่องจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวตลาดหลักฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และสวีเดน ยังคงต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในการฟื้นตัวมาสู่แนวโน้มปกติ ประกอบกับในช่วงกลางเดือนมิถุนายน -กลางเดือนกรกฎาคมนี้จะมีการแข่งขันชิงแชมป์ฟุตบอลแห่งชาติยุโรป 2004 ที่ประเทศโปรตุเกส และในช่วงสิงหาคมก็จะมีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศกรีซ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะมีความสำคัญสำหรับชาวยุโรป ซึ่งจะทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในยุโรปมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้โอกาสสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวระยะไกลและกลางชะลอตัวลงไปในระดับหนึ่ง
ส่วนแนวโน้มสถานการณ์ในปี 2548 คาดว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวของภูมิโรคยุโรปจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งค่าเงินยูโรและเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นจะเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นการเดินทางออก และสนับสนุนให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คุ้มค่าเงินมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสายการบินต่าง ๆ ได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากภูมิภาคยุโรปมาประเทศไทย เช่น การบินไทย
ปัญหาภาคใต้ไม่กระทบตลาดหลัก
นางพรศิริ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาความสงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก และปัญหาราคาน้ำมันในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 แม้ว่าจะส่งผลกระทบระยะสั้นในบางตลาด ซึ่งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมีการปรับตัวมากขึ้นในการรองรับวิกฤติการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ช่วยลดความร้อนแรงของสถานการณ์ท่องเที่ยวโดยรวม ทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวครึ่งปีในภาพรวมมีการเติบโตระดับปานกลางเท่านั้น
อย่างไรก็ตามตลาดใหญ่ที่มีการเติบโตอย่างเข้มแข็งคือ มาเลเซีย ฮ่องกง เกาหลี สหราชอาณาจักร เยอรมนี อินเดียว และออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังพบการเปลี่ยนแปลงลักษณะการเดินทางของตลาดที่สำคัญๆ คือ ตลาดมาเลเซีย มีการขยายตัวดี ทั้งดานชายแดนภาคใต้และการกระจายตัวเข้ากรุงเทพฯและเชียงใหม่มากขึ้น ซึ่งทำให้เห็นว่าเหตุการณ์ความสงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่มีผลกระทบต่อตลาดนี้
ชูคอนเซ็ปต์Happiness on Earth
นายสุรพล เศวตเศรณี รองผู้ว่การการท่องเที่ยวฯ เปิดเผยว่าการท่องเที่ยวฯ ได้มีการเปิดตัว Happiness on Earth ซึ่งเป็นการเปิตตัวในงาน WTM เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมาโดยชูแนวคิดในเรื่องประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งความสุข สงบ รื่นรมย์ และปลอดภัยอย่างแท้จริง ซึ่งการนำแนวคิดนี้มาใช้โปรโมทประเทศไทยเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งการท่องเที่ยวจะต้องเร่งสร้างภาพลักษณ์และภาพพจน์ให้เกิดขึ้น
"แนวคิดนี้ได้มีการวิเคราะห์และวิจัยมาแล้ว จึงได้มีการนำเสนอคอนเซปนี้ออกมาก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการโปรโมทประเทศ ซึ่งมีความแตกต่างจากอะเมสซิ่งไทยแลนด์ และพยายามชูจุดแข็งของการท่องเที่ยวไทยและพยายามสื่อสารให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ"
ผู้ประกอบการคุยยอดขายฉลุย
นายศิรศักดิ์ ตันเกษม ผู้จัดการทั่วไป กลุ่ม ไอยปุระ รีสอร์ทและสปา หนึ่งในผู้ประกอบที่เข้าร่วมในงานดังกล่าว เปิดเผยถึงการเข้าร่วมงานครั้งนี้ว่าปีนี้เป็นปีแรกที่เข้ามาร่วมงานครั้งนี้ แต่ก็พอใจเพราะได้พบกับลูกค้าที่มีความหลากหลาย ซึ่งลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่เคยเห็นสินค้าก็ได้เห็นและได้พบปะและขอข้อมูลจากบริษัท รวมทั้งมีการนัดหมายที่จะเข้ามาดูสถานที่จริงในประเทศไทย
"ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีการเซ็นสัญญาซื้อขายกันเกิดขึ้น แต่อนาคตก็คาดว่าจะต้องมีการซื้อขายเกิดขึ้นแน่ บางรายได้ยินชื่อเสียงของไอยปุระแต่ไม่สามารถหารายละเอียด เมื่อมางานนี้ก็ได้พบผู้ประกอบการตัวจริงจึงได้มีการนัดหมายกันขึ้น ตรงนี้เป็นสิ่งที่ทำให้รู้ว่าคุ้มค่าที่ได้มาร่วมงานกับการท่องเที่ยวในครั้งนี้"
นายสุกมล แดนนี่ ผู้จัดการฝ่ายข่ายของกลุ่ม Hilton กล่าวว่าปีนี้ยอดขายของโรงแรมและผู้เข้าร่วมงานคึกคักมากกว่า1-2 ปีทีผ่านมา เนื่องจากช่วงดังกล่าวสถานการณ์ท่องเที่ยวไม่คึกคักเท่าที่ควร เพราะมีปัญหาเรื่องโรคซาร์ส แต่มาปีนี้คนที่เข้ามาร่วมชมงานคึกคัก ซึ่งทางกลุ่ม Hilton ได้มีการนำเสนอสินค้าในเครือของโรงแรม3 แห่งด้วยกัน ซึ่งมี 2 โรงแรมที่จะเปิดในปี 2005 แต่ก็เป็นการเปิดตัวและขายกันล่วงหน้า ซึ่งมีลูกค้าสนใจติดต่อเจรจาซื้อขายกันอย่างคึกคักมากกว่าปีก่อน ๆ
"โดยรวมๆ ผู้ที่เข้ามาร่วมงานมียอดขายที่เพิ่มขึ้นแน่ บางราย 20-30 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยวของไทยน่าจะคึกคักในปีหน้า เพราะการเปิดซื้อขายสินค้ากันครั้งนี้เป็นการสำรองและจองกันล่วงหน้า"