xs
xsm
sm
md
lg

ยูพีเอสเติบโตรับธุรกิจส่งพัสดุภัณฑ์ขยายตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยูพีเอส ประเทศไทย (UPS) เปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 เติบโตต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมเติบโตกว่า 7.7% และรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นถึง 20.4% อันเป็นผลมาจากปริมาณการส่งออกในเอเชียที่เพิ่มขึ้นเกือบ 30% รวมถึงปริมาณการส่งออกของประเทศไทยที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่า 15%

สำหรับไตรมาสที่สาม ปริมาณการจัดส่งพัสดุภัณฑ์รายวันเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 13.7 ล้านชิ้น หรือเพิ่มขึ้นวันละ 445,000 ชิ้น โดยคิดเป็น 3.4% และปริมาณการส่งออกระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 13.2% ในขณะที่ธุรกิจในส่วนของธุรกิจซัพพลายเชน มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 10.1%

นายสกอตต์ เดวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของยูพีเอส กล่าวว่า การที่ปริมาณสินค้าส่งออกของทุกๆ ภูมิภาคทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในอัตราตัวเลข 2 หลัก ทำให้เรามั่นใจได้ว่าผลกำไรจะเติบโตตามไปด้วย

สำหรับไตรมาสที่สามของปีซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน รายรับรวมของยูพีเอสมีมูลค่าถึง 8,950 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 366,950 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 7.7% จาก 8,310 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 340,710 ล้านบาท) ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลกำไรจากการประกอบการรวมเพิ่มขึ้น 9.7% เป็น 1,260 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 51,660 ล้านบาท) รายได้สุทธิมีมูลค่า 890 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 36,490 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามของปี 2546 ที่มีมูลค่า 739 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทั้งนี้ผลประกอบการในไตรมาสที่สามของปี 2546 นั้น ได้มีการรวมเอากำไรจากการขายธุรกิจเทคโนโลยีทางการบิน (UPS Aviation Technologies) จำนวน 24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมทั้งผลประโยชน์ทางภาษีอีก 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับในไตรมาสที่สามของปีนี้ บริษัทฯ ได้รับการลดหย่อนภาษีรายได้ถึง 99 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องมาจากการปรับระเบียบด้านภาษีของกรมสรรพากรหลายรายการ

สำหรับผลประกอบการ 9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2547 บริษัทฯ มีรายได้รวม 26,740 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,096,340 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 8.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรจากการดำเนินงานรวม 3,790 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 155,390 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 19.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 20.8% เป็น 2,470 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 101,270 ล้านบาท) จากช่วงเดียวกันของปี 2546

การเติบโตในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ของยูพีเอสในช่วงไตรมาสที่สาม มีดังนี้ รายได้จากการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 21.6% เป็น 1,670 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 68,470 ล้านบาท) โดยปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น 13.2% และปริมาณการจัดส่งพัสดุระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 4.1%

รายได้จากการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ภายในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 4.4% เป็น 6,490 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 266,090 ล้านบาท) กำไรจากการประกอบการเพิ่มขึ้น 3.9% เป็น 857 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 35,137 ล้านบาท)

รายได้จากธุรกิจบริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับพัสดุ เพิ่มขึ้น 9.5% เป็น 792 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 32,472 ล้านบาท) โดยธุรกิจในส่วนของธุรกิจซัพพลายเชน (UPS Supply Chain Solutions) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในส่วนของการให้บริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับพัสดุ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10.1% เป็นมูลค่า 591 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 24,231 ล้านบาท)

สำหรับในไตรมาสนี้ มีปัจจัยหลายประกายที่เป็นปัจจัยสำคัญซึ่งเป็นส่วนผลักดันให้บริษัทฯ เติบโต อย่างต่อเนื่อง อาทิ ข้อตกลงในการควบรวมกิจการของเมนโล เวิลด์ไวด์ ฟอร์วาร์ดดิ้งที่เพิ่งทำในเดือนนี้ และการพัฒนาด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสนี้ รวมทั้งในช่วงต้นไตรมาส ยูพีเอสยังได้เพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งด้วยการแนะนำบริการใหม่ ภายใต้ชื่อ “เทรด ไดเร็ก” (Trade Direct) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ไม่ต้องกังวลใจกับปัญหาในการจัดเก็บสินค้า หลังจากสั่งสินค้าเข้ามาแล้วอีกต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ยูพีเอสยังได้เพิ่มเที่ยวบินอีก 3 เที่ยวบิน เพื่อให้ครอบคลุมเครือข่ายของยูพีเอสทั่วโลก

นายเดวิส กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในไตรมาสที่ 4 บริษัทฯ คาดหวังการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการจัดส่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงทั้งในสหรัฐฯ และนอกสหรัฐฯ นอกจากนี้ เรายังตั้งเป้าว่ากำไรต่อหุ้นในไตรมาสที่ 4 น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว จาก 0.70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น ไปอยู่ที่ช่วง 0.83 – 0.87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น และคาดว่าการเติบโตของกำไรต่อหุ้นรวมตลอดทั้งปี 2548 น่าจะเพิ่มขึ้นระหว่าง 13-17%
กำลังโหลดความคิดเห็น