มีเดีย ทรานเอเชียชี้ปี 2548 ศึกนิตยสารหัวใหม่เดือด รุมแย่งเม็ดเงินโฆษณาเจ้าของสินค้าที่มีจำกัด กลางปีหน้าเตรียมทุ่ม 65 ล้านบาท ผุดหัวนอกเล่มใหม่ 2 หัว ล่าสุด ปรับสโลแกนเซเว่นทีนตามบริษัทแม่รับแผนฉลองครบรอบ 2 ปีในไทย
นางสาวRasina Uberoi รองประธาน และนางสาวแพร กวิตานนท์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสารเซเว่นทีน บริษัท มีเดีย ทรานเอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า ในปีหน้าแนวโน้มตลาดธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทนิตยสารจะแข่งขันกันดุเดือดรุนแรงกว่าปีนี้มาก เนื่องจากจะมีนิตยสารหัวใหม่เกิดขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก ในขณะที่จำนวนเม็ดเงินโฆษณาของเอเจนซี่หรือเจ้าของสินค้ามีจำนวนจำกัด ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันในด้านการแย่งชิงเม็ดเงินดังกล่าวของทั้งนิตยสารหัวใหม่และหัวเดิมที่มีวางจำหน่ายอยู่
ความเป็นจริงแล้วภาพรวมตลาดธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ไม่ได้เติบโตมากนักในแง่เม็ดเงินโฆษณา แต่การที่บริษัทมีเดียยักษ์ใหญ่ประเภทวิทยุ โทรทัศน์ ค่ายเพลง หนังสือพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็น แกรมมี่, เครือเนชั่น ต้องการมีสื่อที่ครอบคลุมเพื่อความครบวงจรในการทำตลาด ทำให้ต้องออกสื่อนิตยสารเสริมทัพเข้าไป ซึ่งในปีหน้านิตยสาร HAZAR ในเครือของบริษัทแม่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก็จะเข้ามาทำตลาดในไทยโดยมีกลุ่มเนชั่นเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ และกลุ่มแกรมมี่เองก็จะเปิดตัวนิตยสารใหม่อีก 2 หัว อัตราการเติบโตของตลาดนี้จึงเกิดขึ้นเพราะจำนวนหัวใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเม็ดเงินโฆษณา
สำหรับบริษัทเองก็มีเป้าหมายที่จะออกนิตยสารหัวใหม่เช่นกัน หลังจากที่มีนิตยสารสำหรับวางจำหน่าย 2 หัว คือ เซเว่นทีน และลีฟวิ่ง อิน ไทยแลนด์ และนิตยสารเผยแพร่ข่าวสารขององค์กร (Contact Magazine) 8 หัว โดยจะใช้งบลงทุน 65 ล้านบาท เพื่อออกนิตยสารสำหรับวางจำหน่ายที่หัวนอกหัวใหม่ เจาะกลุ่มนิช มาร์เก็ต 2 หัว คาดว่าเล่มแรกจะเปิดตัวประมาณเดือนพ.ค.หรือมิ.ย. ปี 2548 และเล่มสองจะเปิดตัวประมาณเดือนต.ค. ปี 2548 ส่วนนิตยสารเผยแพร่ข่าวสารขององค์กรหัวใหม่เป็นของสายการบินภูเก็ต แอร์จะออกเล่มแรกในเดือนม.ค. ปี 2548
ตลาดนิตยสารสำหรับผู้หญิงและผู้ชายในเมืองไทยยังมีช่องว่างอีกมาก แต่จะต้องเป็นนิตยสารที่เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มหรือนิช มาร์เก็ต จึงจะสามารถที่จะอยู่ในตลาดได้นาน เพราะปัจจุบันนิตยสารส่วนใหญ่ที่มีอยู่จะไม่เจาะจงที่จะเจาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ชัดเจนนัก ซึ่งนิตยสารแนวไลฟ์สไตล์เป็นแนวที่มาแรง และแนวเจาะผู้หญิงทำงานเฉพาะก็เป็นตลาดที่น่าสนใจมาก
สำหรับนิตยสารเซเว่นทีนที่ครบรอบ 2 ปีในเดือนนี้ในประเทศไทย ก็เตรียมที่จะต้องปรับเปลี่ยนให้รับสถานการณ์ต่างๆ และนโยบายของเซเว่นทีนที่สหรัฐอเมริกาที่มีอายุครบ 60 ปี และได้ปรับสโลแกนจากเดิมที่ใช้ My choice my style my magazine มาเป็น Life begins at 17! หรือชีวิตเริ่มต้นกับเซเว่นทีน ไปตั้งแต่ต้นปีแล้ว แต่ในไทยจะเริ่มใช้สโลแกนดังกล่าวในฉบับเดือนธันวาคม 2547 เป็นฉบับแรก
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาถือว่าเซเว่นทีนประสบความสำเร็จและมีอัตราการเติบโตที่ดีมาก จากจำนวนหน้า 200 หน้าเพิ่มเป็น 300 หน้าและ 400 หน้าในปัจจุบัน แบ่งเป็นส่วนของเนื้อหา 70% และโฆษณา 30% มียอดพิมพ์ที่เพิ่มขึ้นจาก 90,000 เล่มในช่วงปีแรกเป็น 120,000 เล่ม และในปีหน้าตั้งเป้าเพิ่มเป็น 135,000 เล่ม ซึ่ง 75% ของเนื้อหาเป็นเนื้อหาใหม่ที่ปรับจากเนื้อหาเดิมให้เหมาะกับคนไทย โดยในแง่โฆษณาปีนี้มีอัตราการเติบโต 20%
ปีนี้บริษัทเองได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและราคากระดาษที่เพิ่มขึ้นแล้ว ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 15% ซึ่งปีหน้าต้องยอมรับว่าจะต้องปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น 6% และปัญหาราคาน้ำมันดีเซลก็จะส่งผลกระทบต่อการลดงบโฆษณาของเอเจนซีในครึ่งปีหลัง เพราะครึ่งปีแรกจองโฆษณาครบแล้ว