โดย ถนอม พิพิธยากร
รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาความไม่สงบภาคใต้ของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรีประกาศ “พลิกวิกฤตเป็นโอกาส” พัฒนาภาคใต้ให้เจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน พร้อมเตรียมจัดคาราวานแก้จน บุกถึงครัวเรือนภาคใต้ หลังเกิดเหตุการณ์ผู้ร่วมชุมนุมก่อความไม่สงบ ที่ตากใบ นราธิวาส ที่มีจุดมุ่งหมายแบ่งแยกดินแดน เมื่อวันที่ 25 ต.ค. และเกิดกรณีผิดพลาดของระดับเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติการสลายม็อบ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 85 ศพ
นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยืนยันจะ “เยียวยา” ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่ตากใบ ด้วยการมอบเงินอุดหนุนให้ครอบครัวคนเหล่านี้ เดินทางไปแสวงบุญที่ตะวันออกกลาง เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าว รวมถึงการช่วยเหลือครอบครัว-ผู้บริสุทธิ รวมถึงผู้ทำผิด ในเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีสั่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ตากใบ ที่มีนายพิเชต สุนทรพิพิธ เป็นประธาน หลังเกิตเหตุการณ์ลำเลียงผู้ประท้วงที่อำเภอตากใบ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการลำเลียงผู้ป่วย โดยวิธีคว่ำแหน้า และให้นอนซ้อนกัน โดยให้อำนาจคณะทำงาน มีอิสระในการสอบสวนอย่างเต็มที่ เพราะรัฐบาลก็ต้องการทราบความจริงที่เกิดขึ้น
ขณะที่รัฐบาลสั่งปล่อยตัวผู้บริสุทธิกว่า 900 คนที่ร่วมชุมนุมในเหตุการณ์นี้ ซึ่งได้รับการชักจูงโดยผู้ไม่หวังดี ตั้งแต่คืนวันเสาร์ โดยจัดรถส่งถึงภูมิลำเนาของแต่ละคน รวมถึงมอบเงินให้คนละ 200 บาท เป็นค่าเดินทางต่อ และเสื้อยืดอีกคนละตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังสอบสวนผู้ต้องหาในเหตุการณ์นี้อีกกว่า 300 คน เพื่อแกะรอย ขยายผลไปสู่ผู้บงการ รวมถึงยกเลิกการห้ามออกจากบ้าน (curfew) ใน 8 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส หลังไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ หรือความรุนแรงอีกในพื้นที่ดังกล่าว
“ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจรัฐบาล รัฐบาลไม่มีอคติต่อคนไทยที่นับถือศาสนาใด ๆ มีแต่ความเคารพ ผมเชื่อมั่นว่า ศาสนาทุกศาสนา สอนคนให้เป็นคนดี ยกเว้นคนที่พยายามบิดเบือนคำสอนของศาสนา ผมพร้อมรับฟังทุกฝ่าย” นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
นายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลจำเป็นต้องรักษากฎหมายให้เป็นกฎหมาย เพื่อให้ความสงบกลับคืนมา โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ย้ำที่ผ่านมา คนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ถูกทำร้าย มีทั้งไทยมุสลิม และไทยพุทธ สะท้อนว่าผู้ทำร้ายมีสันดารเป็นโจร
“รัฐบาลจะมุ่งมั่นทำสิ่งที่ถูกต้อง รัฐบาลเข้าใจพี่น้องมุสลิม พร้อมส่งเสริมให้ทำกิจทางศาสนา เช่น การทำพิธีฮัดจ์ ตั้งธนาคารอิสลาม ขอให้พี่น้องทุกนหันหน้าเข้าหากัน ช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมือง รัฐบาลจะสู้ (กับความไม่ถูกต้อง) โดยนำการศึกษา ความรู้ อาชีพ เข้าไป (ให้พี่น้องมุสลิม)”
นายกรัฐมนตรียืนยัน จะใช้วิกฤตครั้งนี้ พลิกเป็นโอกาส เพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ให้เจริญรุ่งเรือง อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องให้พ่อ-แม่ ผู้ปกครอง ช่วยกันดูแล กวดขันลูกหลานให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ถูกล้างสมอง จนหลงผิด ร่วมก่อความไม่สงบ-เดือดร้อน ให้คนไทยภาคใต้ เช่นที่ผ่านมา หากพบบุตรหลานของตนมีปัญหาซึมเศร้า ขอให้แจ้งทางราชการไทย เพื่อร่วมกันบำบัด-แก้ไข ให้เยาวชนคนไทยเหล่านี้ กลับมาเป็นกำลังสำคัญของชาติ ในทางที่ถูกที่ควร
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมส่งคาราวานแก้จน บุกถึงครัวเรือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนให้ท้องถิ่นเหล่านี้
พร้อมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สั่งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งกองทุนมูลค่า 100 ล้านบาท ช่วยพัฒนาด้านสังคม ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อช่วยแก้ปัญหาพื้นที่ภาคนี้เต็มที่
การแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคนไทยมุสลิม-พุทธ ในจังหวัดเหล่านี้ เพื่อให้ภาคนี้ กลับมาเป็นภาคแห่งความไพบูลย์ ยั่งยืน ระยะยาว
รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาความไม่สงบภาคใต้ของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรีประกาศ “พลิกวิกฤตเป็นโอกาส” พัฒนาภาคใต้ให้เจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน พร้อมเตรียมจัดคาราวานแก้จน บุกถึงครัวเรือนภาคใต้ หลังเกิดเหตุการณ์ผู้ร่วมชุมนุมก่อความไม่สงบ ที่ตากใบ นราธิวาส ที่มีจุดมุ่งหมายแบ่งแยกดินแดน เมื่อวันที่ 25 ต.ค. และเกิดกรณีผิดพลาดของระดับเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติการสลายม็อบ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 85 ศพ
นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยืนยันจะ “เยียวยา” ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่ตากใบ ด้วยการมอบเงินอุดหนุนให้ครอบครัวคนเหล่านี้ เดินทางไปแสวงบุญที่ตะวันออกกลาง เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าว รวมถึงการช่วยเหลือครอบครัว-ผู้บริสุทธิ รวมถึงผู้ทำผิด ในเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีสั่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ตากใบ ที่มีนายพิเชต สุนทรพิพิธ เป็นประธาน หลังเกิตเหตุการณ์ลำเลียงผู้ประท้วงที่อำเภอตากใบ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการลำเลียงผู้ป่วย โดยวิธีคว่ำแหน้า และให้นอนซ้อนกัน โดยให้อำนาจคณะทำงาน มีอิสระในการสอบสวนอย่างเต็มที่ เพราะรัฐบาลก็ต้องการทราบความจริงที่เกิดขึ้น
ขณะที่รัฐบาลสั่งปล่อยตัวผู้บริสุทธิกว่า 900 คนที่ร่วมชุมนุมในเหตุการณ์นี้ ซึ่งได้รับการชักจูงโดยผู้ไม่หวังดี ตั้งแต่คืนวันเสาร์ โดยจัดรถส่งถึงภูมิลำเนาของแต่ละคน รวมถึงมอบเงินให้คนละ 200 บาท เป็นค่าเดินทางต่อ และเสื้อยืดอีกคนละตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังสอบสวนผู้ต้องหาในเหตุการณ์นี้อีกกว่า 300 คน เพื่อแกะรอย ขยายผลไปสู่ผู้บงการ รวมถึงยกเลิกการห้ามออกจากบ้าน (curfew) ใน 8 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส หลังไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ หรือความรุนแรงอีกในพื้นที่ดังกล่าว
“ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจรัฐบาล รัฐบาลไม่มีอคติต่อคนไทยที่นับถือศาสนาใด ๆ มีแต่ความเคารพ ผมเชื่อมั่นว่า ศาสนาทุกศาสนา สอนคนให้เป็นคนดี ยกเว้นคนที่พยายามบิดเบือนคำสอนของศาสนา ผมพร้อมรับฟังทุกฝ่าย” นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
นายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลจำเป็นต้องรักษากฎหมายให้เป็นกฎหมาย เพื่อให้ความสงบกลับคืนมา โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ย้ำที่ผ่านมา คนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ถูกทำร้าย มีทั้งไทยมุสลิม และไทยพุทธ สะท้อนว่าผู้ทำร้ายมีสันดารเป็นโจร
“รัฐบาลจะมุ่งมั่นทำสิ่งที่ถูกต้อง รัฐบาลเข้าใจพี่น้องมุสลิม พร้อมส่งเสริมให้ทำกิจทางศาสนา เช่น การทำพิธีฮัดจ์ ตั้งธนาคารอิสลาม ขอให้พี่น้องทุกนหันหน้าเข้าหากัน ช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมือง รัฐบาลจะสู้ (กับความไม่ถูกต้อง) โดยนำการศึกษา ความรู้ อาชีพ เข้าไป (ให้พี่น้องมุสลิม)”
นายกรัฐมนตรียืนยัน จะใช้วิกฤตครั้งนี้ พลิกเป็นโอกาส เพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ให้เจริญรุ่งเรือง อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องให้พ่อ-แม่ ผู้ปกครอง ช่วยกันดูแล กวดขันลูกหลานให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ถูกล้างสมอง จนหลงผิด ร่วมก่อความไม่สงบ-เดือดร้อน ให้คนไทยภาคใต้ เช่นที่ผ่านมา หากพบบุตรหลานของตนมีปัญหาซึมเศร้า ขอให้แจ้งทางราชการไทย เพื่อร่วมกันบำบัด-แก้ไข ให้เยาวชนคนไทยเหล่านี้ กลับมาเป็นกำลังสำคัญของชาติ ในทางที่ถูกที่ควร
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมส่งคาราวานแก้จน บุกถึงครัวเรือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนให้ท้องถิ่นเหล่านี้
พร้อมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สั่งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งกองทุนมูลค่า 100 ล้านบาท ช่วยพัฒนาด้านสังคม ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อช่วยแก้ปัญหาพื้นที่ภาคนี้เต็มที่
การแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคนไทยมุสลิม-พุทธ ในจังหวัดเหล่านี้ เพื่อให้ภาคนี้ กลับมาเป็นภาคแห่งความไพบูลย์ ยั่งยืน ระยะยาว