นายอลัน คุ้ก ประธานกรรมการ ผู้ก่อตั้งสมาคมนักธุรกิจทางน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสมาคมนักธุรกิจทางน้ำแห่งประเทศไทย ( MAT) ได้เตรียมร่างข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้กฎหมายในส่วนของกรมศุลกากร กรมตรวจคนเข้าเมือง และกรมเจ้าท่า เพื่อลดขั้นตอนการต่ออายุวีซ่า และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและลูกเรือจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทยได้ง่ายมากขึ้น เพราะขณะนี้ขั้นตอนดังกล่าวเป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ โดยพบว่าชาวต่างประเทศและลูกเรือที่แล่นเรือมายังไทย หากวีซ่าหมดจะต้องบินกลับไปต่อวีซ่า จากนั้นถึงจะกลับมานำเรือกลับไป
“ที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหาในเรื่องของภาษีนำเข้าเรือยอชต์จาก 200% เหลือเพียง 0% ภายใน1ปี แต่การแก้ไขภาษีถือว่าเป็นเรื่องเล็กมาก เมื่อเทียบกับการแก้กฎหมายเพื่อลดขั้นตอนการเข้าเมืองกับหน่วยงานของทางภาครัฐ ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกนาน”
นายอลัน อย่างไรก็ตามทางสมาคมได้เตรียมนำกฎหมายจากประเทศอังกฤษเสนอให้ภาครัฐพิจารณา โดยเลือกนำกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมมาใช้ให้สอดคล้องกับประเทศไทย หากประเทศไทยสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เร็วเท่าไร โอกาสที่จะก้าวเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวทางทะเลติดอันดับ 1 ใน 5 ของ โลกก็เร็วขึ้น จากปัจจุบันไทยเป็นศูนย์การท่องเที่ยวทางทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่แล้ว
สำหรับแผนการทำตลาดในระหว่างรอภาครัฐแก้ไขในเรื่องกฎหมายคนเข้าเมืองทางน้ำ ทางสมาคมจะจัดกิจกรรมการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ทุ่มงบ 12 ล้านบาท จัดงานแสดงเรือนานาชาติ ไพเม็กซ์ 2004 ขึ้นที่ จังหวัดภูเก็ต ในระหว่างวันที่ 9-12 ธันวาคม โดยภายในงานจะมีผู้ร่วมออกงานมาจาก 18 ประเทศ และ 120 บริษัท พื้นที่จัดงาน 2,000 ตร.ม.
ไฮไลต์ของงานจะมีการจัดแสดงเรือ 40 ลำ และรถโชว์จากเฟอรารี่ อีกทั้งยังมีการจำหน่านเรือยอตช์ราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาท ถึงล้านดอลล่าห์สหรัฐ โดยงานดังกล่าวทางสมาคมได้ทำการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวไปยังประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเที่ยวในไทยมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีคนเข้ามาร่วมงานมากกว่า3,000 คน นอกจากนี้ทางสมาคมฯยังได้ร่วมมือกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เตรียมออกบูธแสดงเรือยอตช์ที่ประเทศฝรั่งเศสต่อไป
“ที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหาในเรื่องของภาษีนำเข้าเรือยอชต์จาก 200% เหลือเพียง 0% ภายใน1ปี แต่การแก้ไขภาษีถือว่าเป็นเรื่องเล็กมาก เมื่อเทียบกับการแก้กฎหมายเพื่อลดขั้นตอนการเข้าเมืองกับหน่วยงานของทางภาครัฐ ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกนาน”
นายอลัน อย่างไรก็ตามทางสมาคมได้เตรียมนำกฎหมายจากประเทศอังกฤษเสนอให้ภาครัฐพิจารณา โดยเลือกนำกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมมาใช้ให้สอดคล้องกับประเทศไทย หากประเทศไทยสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เร็วเท่าไร โอกาสที่จะก้าวเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวทางทะเลติดอันดับ 1 ใน 5 ของ โลกก็เร็วขึ้น จากปัจจุบันไทยเป็นศูนย์การท่องเที่ยวทางทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่แล้ว
สำหรับแผนการทำตลาดในระหว่างรอภาครัฐแก้ไขในเรื่องกฎหมายคนเข้าเมืองทางน้ำ ทางสมาคมจะจัดกิจกรรมการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ทุ่มงบ 12 ล้านบาท จัดงานแสดงเรือนานาชาติ ไพเม็กซ์ 2004 ขึ้นที่ จังหวัดภูเก็ต ในระหว่างวันที่ 9-12 ธันวาคม โดยภายในงานจะมีผู้ร่วมออกงานมาจาก 18 ประเทศ และ 120 บริษัท พื้นที่จัดงาน 2,000 ตร.ม.
ไฮไลต์ของงานจะมีการจัดแสดงเรือ 40 ลำ และรถโชว์จากเฟอรารี่ อีกทั้งยังมีการจำหน่านเรือยอตช์ราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาท ถึงล้านดอลล่าห์สหรัฐ โดยงานดังกล่าวทางสมาคมได้ทำการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวไปยังประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเที่ยวในไทยมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีคนเข้ามาร่วมงานมากกว่า3,000 คน นอกจากนี้ทางสมาคมฯยังได้ร่วมมือกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เตรียมออกบูธแสดงเรือยอตช์ที่ประเทศฝรั่งเศสต่อไป