xs
xsm
sm
md
lg

เครื่องใช้เซรามิกบนโต๊ะอาหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิก ที่ครอบคลุมถึงถ้วยชามกระเบื้องเคลือบ (Porcelain) และถ้วยชามกระเบื้องดินเผา (Earthenware) เป็นสินค้าส่งออกสำคัญอันดับ 1 ของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารของไทยช่วงระหว่างปี 2542-2546

ไทยส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิกมูลค่าเฉลี่ยปีละกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ย 9-10% ต่อปี ทำให้ไทยเป็นผู้ส่งออกรายสำคัญอันดับ 1 ของอาเซียน และเป็นผู้ส่งออกสำคัญอันดับ 5 ตลาดโลกปี 2546 สัดส่วน 5.44% ของมูลค่าส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิกโดยรวมตลาดโลก ตามรายงานของ Global Trade Atlas

เป็นรองจีน (29.44%) เยอรมนี (10.88%) สหราชอาณาจักร (9.84%) และอิตาลี (5.86%) ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิกของไทยปีนี้ จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 190 ล้านเหรียญ น่าจะขยับใกล้เคียง 200 ล้านเหรียญปี 2548 หรือมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ด้วยมาตรการเชิงรุกภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะโครงการผลักดันสินค้าโอท็อปสู่ตลาดโลก

ตลาดส่งออก : รุกตลาดใหม่…พร้อมรักษาตลาดหลัก-รอง
รายงานกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และ Global Trade Atlas ปี 2546 ไทยส่งออกสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกไปตลาดโลกมูลค่า 194.6 ล้านเหรียญ ขยายตัว 11% เทียบกับปี 2545

ขณะที่ช่วง 8 เดือนแรก ไทยส่งออกสินค้าประเภทนี้มูลค่า 123.5 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 1.68% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นมูลค่าส่งออกถ้วยชามกระเบื้องเคลือบประมาณ 30% ของมูลค่าส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารช่วงดังกล่าว ที่เหลืออีก 70% เป็นมูลค่าส่งออกถ้วยชามกระเบื้องดินเผา

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเห็นว่า ตลาดส่งออกที่จะมีบทบาทสำคัญต่อเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิกไทยปี 2547-2548 ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ที่จะเป็นตลาดส่งออกหลักสำคัญ

ขณะที่ตลาดรอง อย่างออสเตรเลีย และแคนาดา ก็สนใจสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทยเพิ่มขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ ตลาดใหม่ที่น่าจะก้าวขึ้นมามีบทบาทเพิ่มขึ้นตามลำดับสินค้าประเภทนี้ของไทย คือ ตะวันออกกลาง ตลาดยุโรปตะวันออก และตลาดเอเชียใต้ รายละเอียดต่อไปนี้

ตลาดหลัก ช่วง 8 เดือนแรกมูลค่าส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทยไปตลาดหลัก สัดส่วนประมาณ 83-84% ของมูลค่าส่งออกสินค้าประเภทนี้โดยรวม ซึ่งสรุปได้ดังนี้

 สหภาพยุโรป (15ประเทศ) เป็นตลาดหลักใหญ่ที่สุดของสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทย สัดส่วนส่งออกสูงถึง 50.4% ของมูลค่าส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกโดยรวมของไทยช่วงดังกล่าว คิดเป็นมูลค่าส่งออกทั้งสิ้น 62.2 ล้านเหรียญ

หากรวมกับอีก 10 ประเทศสมาชิกใหม่สหภาพยุโรป ไทยส่งออกสินค้าประเภทนี้ไปตลาดสหภาพยุโรป 25 ประเทศ 50.8% ของมูลค่าส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกโดยรวมของไทยช่วงดังกล่าว โดย สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมนี เบลเยี่ยม และฝรั่งเศส เป็นตลาดส่งออกสำคัญ

ส่วนตลาดที่อัตราขยายตัวสูงสุดเมื่อเทียบกับช่วง 8 เดือนแรกปี 2546 คือกรีซ (ขยาย 154%) ตามด้วยฟินแลนด์ (ขยาย 81.3%) โปรตุเกส (ขยาย 80.8%) และไอร์แลนด์ (ขยาย 79.2%) จากปัจจัยกำลังซื้อสูง ความต้องการที่จะนำเข้าสินค้าประเภทนี้จากต่างประเทศ ยังคงเพิ่มขึ้น ประกอบกับความนิยมฝีมือการผลิตของผู้ประกอบการไทย ย่อมส่งผลให้โอกาสที่เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทย จะเข้าสู่ตลาดสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น ยังเป็นไปได้

 สหรัฐอเมริกา เป็นตลาดใหญ่รองลงมา สัดส่วนส่งออก 28.4% ของมูลค่าส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกโดยรวมของไทยช่วงดังกล่าว มูลค่าส่งออก 35.1 ล้านเหรียญ ขยายตัว 0.67% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สหรัฐเป็นตลาดที่แข่งขันสูง และครองตลาดโดยจีน สัดส่วนกว่า 50% ปี 2546

 ญี่ปุ่น เป็นตลาดที่ทวีบทบาทเพิ่มขึ้นตามลำดับ สำหรับสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทย โดยเฉพาะช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนส่งออกสินค้าประเภทนี้ของไทยไปตลาดญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 4.4% ปี 2544 เป็น 6.2% ปี 2546 และ 5% ช่วง 8 เดือนแรกปีนี้

เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิกของไทย กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามลำดับในตลาดญี่ปุ่น โดยเฉพาะตลาดระดับกลาง หากผู้ประกอบการให้ความสำคัญ ศึกษาภาษา และเข้าใจวัฒนธรรมญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น โอกาสเจาะตลาดญี่ปุ่นก็เปิดกว้างพอสมควร

ตลาดรอง ประกอบด้วย 2 ตลาดสำคัญ คือ
 แคนาดา ช่วง 8 เดือนแรก ไทยส่งออกสินค้าประเภทนี้ไปตลาดแคนาดามูลค่า 3.8 ล้านเหรียญ ขยายตัว 5.3% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 2546 คิดเป็นสัดส่วนส่งออก 3.04% ของมูลค่าส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกโดยรวมของไทย ช่วงดังกล่าว

เป็นตลาดส่งออกรายสำคัญอันดับ 10 ของสินค้าประเภทนี้ของไทย สินค้าที่คาดว่าจะได้นิยมในตลาดแคนาดา คือเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ที่สวยงาม ทนทาน คุณภาพสูง และมีสีสันให้ความรู้สึกอ่อนโยน อิงธรรมชาติ

 ออสเตรเลีย กำลังซื้อสูง ที่นับวันจะก้าวขึ้นมามีบทบาทมากขึ้นตามลำดับต่อสินค้าประเภทนี้ของไทย ด้วยอัตราขยายตัวต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีความต้องการเติบโตต่อเนื่อง เป็นตลาดน่าสนใจมากสำหรับสินค้าประเภทนี้ เนื่องจากชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ สนใจจะซื้อสินค้าประเภทนี้ ให้เป็นของขวัญโอกาสต่าง ๆ

ช่วง 8 เดือนแรก ไทยส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ไปออสเตรเลียเพิ่มถึง 20.11% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ออสเตรเลีย เป็นตลาดส่งออกรายสำคัญอันดับ 13 ของสินค้าประเภทนี้ของไทย

ตลาดใหม่ เป็นกลุ่มตลาดเป้าหมายที่ภาครัฐสนใจมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงพึ่งตลาดหลักน้อยราย อีกทั้งยังเปิดโอกาสขยายตลาดสินค้าส่งออกของไทย ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทย ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มตลาดใหม่ ต่อไปนี้

 ตะวันออกกลาง เป็นตลาดส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทย สัดส่วนส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก 0.81% ปี 2539 เพิ่มเป็น 1.21% ปี 2546 เพิ่มเป็น 1.57% ช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ อีกทั้งยังเป็นตลาดส่งออกมีศักยภาพต่อไปในอนาคต เนื่องจากเป็นตลาดกำลังซื้อค่อนข้างสูง

 ทวีปแอฟริกา เป็นตลาดสำคัญรองมาจากตลาดตะวันออกกลาง มูลค่าส่งออก 1.5 ล้านเหรียญ ขยายตัว 39.17% ปี 2546 ขณะที่ช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ ไทยส่งออกสินค้าประเภทนี้ไปทวีปแอฟริกามูลค่า 2.4 ล้านเหรียญ ขยายตัวถึง 142.13% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จึงเป็นอีกตลาดที่ผู้ประกอบการไทยไม่ควรมองข้าม

 ยุโรปตะวันออก น่าสังเกตว่า ไทยมีโอกาสการค้ามากขึ้นตามลำดับ หลังกลุ่มยุโรปตะวันออกเปิดการค้าเสรีมากขึ้น รวมถึงเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำจากเซรามิก สังเกตได้จากมูลค่าส่งออก และสัดส่วนส่งออก ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2539

ตลาดยุโรปตะวันออก สัดส่วนส่งออกเพียง 0.01% ของมูลค่าส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำจากเซรามิกโดยรวมของไทย แต่ปี 2546 สัดส่วนส่งออกเพิ่มเป็น 0.37% ช่วง8 เดือนแรกปีนี้ ยุโรปตะวันออกสัดส่วนส่งออก 0.47% ของมูลค่าส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำจากเซรามิกโดยรวมของไทย ช่วงดังกล่าว

ขณะที่มูลค่าส่งออกปี 2546 ขยายตัว 15.42% เทียบกับปี 2545 ส่วนช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ มูลค่าส่งออกขยาย 80.97% เทียบช่วงเดียวกันปี 2546 ยุโรปตะวันออก จึงเป็นตลาดส่งออกกลุ่มใหม่ที่น่าจะก้าวขึ้นมามีบทบาทเพิ่มขึ้นอนาคตอันใกล้ สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทย

 เอเชียใต้ เป็นตลาดใหญ่ ประชากรกว่า 1,000 ล้านคน อีกทั้งอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดเอเชียใต้ ก็เป็นประเทศที่ไทยเจรจาเปิดเสรีการค้าทวิภาคี จึงน่าจะเป็นประตูการค้าเปิดโอกาสสินค้าไทยหลายรายการ เจาะตลาดเอเชียใต้สะดวกมากขึ้น รวมถึงเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกด้วย

ปี 2546 ไทยส่งออกสินค้าประเภทนี้ไปตลาดเอเชียใต้มูลค่า 0.48 ล้านเหรียญ ขยายจากปี 2545 ที่ 10.1% ขณะที่ 8 เดือนแรกปีนี้ ขยายตัว 44.3% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

การแข่งขัน : เผชิญภาวะถูกบีบ จากทั้งตลาดบน และล่าง (Competitive Nutcracker)
ปัจจุบัน การส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทย ต้องเผชิญการแข่งขัน ลักษณะที่มีแรงกดดัน จากทั้งตลาดบนและล่าง การผลิตสินค้าประเภทนี้ของไทย อยู่ในตำแหน่งระหว่างตลาดบนและล่าง

เพราะประกอบด้วย ทั้งกลุ่มที่ผลิตสินค้าคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองตลาดบน และกลุ่มผลิตสินค้าคุณภาพปานกลาง เพื่อตอบสนองความต้องการตลาดกลางและล่าง คู่แข่งตลาดระดับบน ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกคุณภาพสูง ส่วนใหญ่มียี่ห้อเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก

ได้แก่ เยอรมนี ที่ส่วนใหญ่ส่งออกถ้วยชามกระเบื้องเคลือบ รวมถึงอิตาลี และสหราชอาณาจักร ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตถ้วยชามกระเบื้องดินเผา ขณะที่คู่แข่งตลาดล่าง ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกคุณภาพปานกลาง หลายราย ราคาจำหน่ายเฉลี่ยต่อหน่วยต่ำกว่าไทย ได้แก่ จีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย การส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของประเทศคู่แข่งสำคัญของไทย สรุปได้ดังนี้

 จีน เป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกรายสำคัญของโลก ส่วนใหญ่ เป็นเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกคุณภาพปานกลางถึงต่ำ รายงานของ Global Trade Atlas ปี 2546 จีนส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกอันดับ 1 ของโลก มูลค่า 1,052.7 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 21.8% เทียบกับปี 2545

ครองส่วนแบ่งตลาด 29.44% ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.92% เทียบกับสัดส่วนสินค้าประเทศนี้ของจีนปี 2545 เป็นไปได้ว่า จีนจะยังคงครองส่วนแบ่งตลาดส่งออกอันดับ 1 ต่อไป เนื่องจากจีนผลิตได้ดี มีคุณภาพขึ้นมาเรื่อยๆ และราคาค่อนข้างต่ำ

 เยอรมนี เป็นผู้ส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน ส่วนแบ่งตลาดโลก 10.88% เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของเยอรมนี มักให้ความสำคัญพัฒนารูปแบบผลิตของตนเอง และสร้างความชำนาญเฉพาะด้านมากขึ้น

 สหราชอาณาจักร ครองตลาดโลกอันดับ 3 รองจากจีน และเยอรมนี หากแยกประเภทสินค้า สหราชอาณาจักรเป็นผู้ส่งออกสำคัญอันดับ 3 เครื่องถ้วยชามกระเบื้องเคลือบ และผู้ส่งออกสำคัญอันดับ 1 เครื่องถ้วยชามกระเบื้องดินเผา ซึ่งคุณภาพดี และยี่ห้อเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เช่น Wedgewood, Royal Doulton, Ashley

 อิตาลี เป็นผู้ส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกรายสำคัญของโลก โดยเฉพาะถ้วยชามกระเบื้องดินเผา อิตาลีครองส่วนแบ่งตลาดโลกสูงถึง 11.6% การผลิตของอิตาลี จะเน้นผลิตสินค้าคุณภาพได้มาตรฐาน ตราสินค้าเป็นที่ยอมรับทั่วโลก และเน้นจำหน่ายตลาดบนเป็นหลัก

ความได้เปรียบดังกล่าว ทำให้อิตาลีสามารถตั้งราคาส่งออกได้สูง สามารถส่งออกตลาดกำลังซื้อสูง และตั้งอยู่ห่างไกล เพราะราคาคุ้มกับค่าขนส่ง

 อินโดนีเซียและมาเลเซีย เป็นผู้ส่งออกกระเบื้องเซรามิกสำคัญอันดับ 2 และ 3 ของอาเซียน ตามลำดับ อินโดนีเซียถือครองส่วนแบ่ง 1.87% มาเลเซีย 1.28% เป็นรองจากไทย เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิก ที่ทั้ง 2 ประเทศผลิต ส่วนใหญ่คุณภาพปานกลางและต่ำ

เร่งหาจุดยืน…รองรับการแข่งขัน
แม้ไทยไม่ใช่แหล่งผลิตเครื่องถ้วยชามกระเบื้องเคลือบ และเครื่องถ้วยชามดินเผาราคาถูกที่สุด เมื่อเทียบกับบางประเทศในเอเชีย ไทยครองส่วนแบ่งตลาดเพียง 5.44% แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเห็นว่า เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิกของไทย จะเป็นที่ต้องการตลาด แข่งขันได้ดีกับประเทศคู่แข่งอื่นๆ และมีโอกาสขยายตลาดส่งออกต่อไปได้อีก หากผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทย เร่งหาจุดยืนของตัวเองชัดเจน เพื่อรองรับการแข่งขัน ทั้งตลาดบนและล่าง โดยอาศัยปัจจัยทั้งการผลิต และการตลาด ควบคู่กัน ได้แก่

 ควบคุมคุณภาพสินค้าและบริการทุกขั้นตอน ก่อนถึงมือลูกค้า ตลอดจนความปลอดภัยต่อผู้บริโภค พร้อมพัฒนาทักษะการออกแบบ และพัฒนาสินค้าใหม่ๆ นับจากนี้ การผลิตเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิก ควรสามารถใช้กับเครื่องล้างจาน และไมโครเวฟ ได้ด้วย เพื่อรองรับวิถีดำเนินชีวิตคนรุ่นใหม่ ที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว มีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันมากขึ้น

 สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ใช้ลายไทย หรือลวดลายบ่งบอกวัฒนธรรมประเพณีดีงามของไทย รวมถึงการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อสร้างความแตกต่าง และเพิ่มมูลค่าให้สินค้า ผู้ผลิตควรพิจารณาความเป็นไปได้ นำวัสดุในท้องถิ่น และการผลิตแบบดั้งเดิม ประยุกต์ใช้ด้วย เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่สนใจศิลปหัตถกรรมต่างชาติ

 สร้างตราสินค้าให้เป็นที่ยอมรับของตลาดโลก ด้วยการปรับปรุงคุณภาพ และมาตรฐานสินค้าและบริการ ต่อเนื่อง

 เร่งขยายช่องทางการตลาดกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยไม่จำกัดเฉพาะห้างสรรพสินค้า หรือร้านจำหน่ายเครื่องใช้ในครัวโดยเฉพาะ หรือร้านจำหน่ายถ้วยชามกระเบื้องเคลือบ/ ถ้วยชามกระเบื้องดินเผาโดยเฉพาะ แต่ควรเข้าไปจำหน่ายในร้านขายสินค้าตกแต่งบ้าน ร้านหนังสือ รวมถึงช่องทางจำหน่ายสินค้าทางโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต ที่นับวันจะเป็นช่องจำหน่ายที่มีบทบาทมากขึ้นตามลำดับ

 ควรสนใจความแข็งแรงของบรรจุภัณฑ์ ที่จะรักษาคุณภาพสินค้า ไม่ให้มีรอยตำหนิ หรือชำรุด ขณะที่บรรจุภัณฑ์ภายนอก ควรมีรูปภาพสีสันสวยงาม และดึงดูดใจ อีกทั้งควรสามารถแสดงลวดลายถ้วยชามที่บรรจุอยู่ข้างในได้ด้วย รวมถึงข้อมูลสินค้าที่ถูกต้อง และชัดเจน อาทิ จำนวนชิ้น คุณสมบัติ ว่าใช้กับเครื่องล้างจานและไมโครเวฟ ได้หรือไม่ เป็นต้น

 ภาครัฐและเอกชนควรต้องร่วมกัน เพื่อพัฒนาทั้งด้านวัตถุดิบ อุตสาหกรรมสนับสนุน พัฒนากระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ กำลังคน และพัฒนาให้เกิดการรวมกลุ่มวิสาหกิจอุตสาหกรรมเซรามิก รวมถึงสนับสนุนและส่งเสริมการส่งออก เป็นรูปธรรมมากขึ้น

 ด้านการตลาด ผู้ประกอบการควรศึกษาปัจจัยส่งผลความต้องการผู้บริโภค ที่มีหลากหลายแต่ละตลาดอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นอายุ เพศ โครงสร้างครอบครัว หรือรสนิยม แนวอนุรักษ์ นวตกรรมใหม่ หรือแนวสร้างสรรค์ เพื่อเข้าถึงความต้องการแท้จริง ผลิตสินค้าตรงความต้องการมากที่สุด และร่วมงานแสดงสินค้าต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่สินค้า และสำรวจตลาดใกล้ชิด

 ศึกษาติดตามการเปลี่ยนแปลงนโยบาย กฎระเบียบการค้า โดยเฉพาะระดับสูงสุดสารปนเปื้อนในภาชนะเซรามิก และปัญหาอุปสรรคนำเข้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิกไทย รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหา ลดปัญหาความยุ่งยากเข้าสู่ตลาด หรือได้รับความเสียหายจากการที่สินค้าถูกปฏิเสธนำเข้า

สรุป
น่าสังเกตว่า แม้เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทย จะสามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ ทั้งคุณภาพ รูปแบบ และสีสัน จนส่งผลสินค้าประเภทนี้ของไทยโดยรวม ครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ในอาเซียน และอันดับ 5 ในตลาดโลก

หากแยกประเภทสินค้า ไทยมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 8 สำหรับเครื่องถ้วยชามกระเบื้องเคลือบ และอันดับ 3 สำหรับเครื่องถ้วยชามกระเบื้องดินเผาในตลาดโลก แต่เมื่อพิจารณาอัตราการเติบโตส่วนแบ่งตลาดสินค้าประเภทนี้ของในตลาดโลก

ขยายตัวค่อนข้างต่ำ แนวโน้มจะลดน้อยถอยลงอนาคต แต่หากผู้ผลิตและผู้ส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทย รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญการปรับตัวต่อเนื่อง และจริงจัง เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้สินค้า

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทย น่าจะขยายตัวดียิ่งขึ้นในตลาดโลก ท่ามกลางการแข่งขันรุนแรง ตลาดที่น่าจับตามองอนาคต ได้แก่ ตลาดระดับกลางขึ้นไปประเทศแถบเอเชียใต้ เช่น อินเดีย ปากีสถาน เพราะเป็นตลาดส่งออกสำคัญที่แนวโน้มขยายต่อเนื่อง ตามการขยายตัวเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน ตลาดใหม่อย่างประเทศตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก และทวีปแอฟริกา ก็เป็นตลาดที่ผู้ประกอบการไทยไม่ควรมองข้าม เข้าไปยึดครองตลาดก่อนคู่แข่ง ยังหวังอย่างยิ่ง ว่าการพัฒนาคุณภาพและรูปแบบสินค้า ตลอดจนบรรจุภัณฑ์ ให้ตรงตามความต้องการตลาด

ทั้งสีสัน รูปแบบทันสมัย พร้อมเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ต่อเนื่อง จะเป็นก้าวย่างที่เปิดโอกาสให้ไทยพัฒนาสู่การเป็นฐานผลิตเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิก ที่คุณภาพและมาตรฐานสูงในเอเชียได้ ในที่สุด

การส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเซรามิกของไทย

ประเภทมูลค่า (ล้านเหรียญสหรัฐ)อัตราขยายตัวประเทศคู่แข่ง
(ส่วนแบ่งในตลาดโลก)
254425452546ม.ค. ส.ค.
254725452546ม.ค. ส.ค.
2547
ถ้วยชามกระเบื้องเคลือบ45.347.857.340.85.5219.872.511. จีน (41.4%) 2. เยอรมนี (15.2%) 3. สหราชอาณาจักร(6.7%) และ 8.ไทย (2.5%)
ถ้วยชามกระเบื้องดินเผา105.7127.5137.382.720.627.691.221. สหราชอาณาจักร (15.5%) 2. อิตาลี (11.6%) 3.ไทย (10.8%) 4. โปรตุเกส (9.87%) 5. จีน (7.96%)
มูลค่าส่งออกโดยรวม151175.3194.6123.516.09111.681.จีน (29.4%) 2. เยอรมนี (10.9%) 3. สหราชอาณาจักร (9.8%) 4. อิตาลี (5.7%) 5. ไทย (5.44%)

ที่มา : กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และ Global Trade Atlas
รวบรวมโดยฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจจุลภาค บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
หมายเหตุ : ถ้วยชามกระเบื้องเคลือบ HS.Code 6911.10.00
ถ้วยชามกระเบื้องดินเผา HS.Code 6912
กำลังโหลดความคิดเห็น