กันตนา ออร์กาไน จับมือพันธมิตร รุกประมูลงานต่างประเทศ หวังจับงานใหญ่ระดับโลก สร้างความมั่งคงทางรายได้ พร้อมกับการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโตก้าวกระโดด ส่วนปีนี้คาดรายได้ไม่ต่ำกว่า 230 ล้านบาท โตกว่า 100% เผยจุดเด่นของบริษัทอยู่ที่ ความคิดด้านคลีเอทีฟที่เหนือคู่แข่งในชั้นเดียวกัน ตั้งเป้า 5 ปีขึ้นแท่นบิลลิ่งเป็นที่หนึ่งในธุรกิจออแกไนซ์ในประเทศไทย
นางปฏิมา ตันติคมน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันตนา ออร์กาไนเซอร์ แอนด์ เมเนจเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประมูลงานออแกไนซ์ ในต่างประเทศ โดยร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศซึ่งมีอยู่ประมาณ 4 ราย ที่ทำธุรกิจเช่นเดียวกันนี้ เป็นการร่วมกันและเข้าไปประมูลงาน ซึ่งจะมีทั้งงานปี 2548 และ ปี 2549 เป็นงานอินเตอร์เนชั่นแนล ยิ่งใหญ่ระดับโลก โดยจัดในแถบเอเชีย เพราะงานออแกไนซ์ในประเทศ กันตนาก็จะรับเฉพาะงานใหญ่ระดับชาติอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อขยายธุรกิจไปต่างประเทศก็ต้องรับงานที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งบริษัทมีความเชื่อใจในศักยภาพของบริษัท และพันธมิตร ซึ่งมีผลงานที่ผ่านมาเป็นที่รู้จัดในระดับสากลอยู่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ บริษัทดังกล่าวรู้จักกันตนา ตั้งแต่เป็นบริษัทสร้างภาพยนตร์ และมีโอกาสทำงานร่วมกันหลายครั้ง แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่า งานที่เข้าร่วมประมูลคืองานอะไร และบริษัทพันธมิตรคือใคร คาดว่า เดือนมกราคมปีหน้า จะสามารถให้รายละเอียดทั้งหมด รวมถึงผลการประมูลด้วย
ทั้งนี้การออกไปจับตลาดในต่างประเทศ เพื่อต้องการสร้างความมั่งคงทางรายได้ โดยแบ่งเป็นรายได้ในประเทศและรายได้จากต่างประเทศ อีกทั้งยังได้ประสบการณ์และความรู้เพิ่มเติมจากการทำงาน ทั้งนี้เพราะ ส่วนใหญ่งานออแกไนซ์ ที่กันตนารับทำจะเป็นงานและการจัดกิจกรรมของหน่วยงานรัฐบาล ซึ่งในวิธีการต้องเข้าประมูลงาน ซึ่งแต่ละครั้งหน่วยราชการจะเปิดประมูลในช่วงก่อนจัดงานเพียงไม่กี่เดือน ทำให้บริษัทไม่สามารถตั้งแผนงานหรือรายได้ล่วงหน้าได้มากนัก ขณะที่งานประมูลในต่างประเทศ หากเป็นงานใหญ่ๆ จะเปิดประมูลข้ามปีก่อนจัดงาน เพื่อให้ผู้ชนะประมูล ได้มีเวลาเตรียมงาน
นางปฏิมา กล่าวว่า กันตนา ออร์กาไนเซอร์ฯ เป็นบริษัทลูกรวมอยู่ในกันตนากรุ๊ป เพิ่งแยกออกจากบริษัทแม่มาปีนี้เป็นปีที่ 2 ผลประกอบการในปีแรกประมาณ 100 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 230 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมงานที่จะเข้าประมูลอีก 2 งานรวมมูลค่า 20 ล้านบาท คือ ลอยกระทง และงานเคาต์ดาวน์ ซึ่งหากปีหน้า บริษัทสามารถประมูลงานในต่างประเทศได้ จะทำให้บริษัทมีรายได้โตแบบก้าวกระโดด 1-2 เท่า โดยบริษัทตั้งเป้าไว้ภายใน 5 ปี จะมีบิลลิ่งขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจออแกไนซ์
สำหรับแผนเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการขยายงาน บริษัท เน้นเรื่องการสร้างบุคลากร โดยเฉพาะการตั้งเป้ารับงานในต่างประเทศ จะเน้นบุคลากรที่มีความรู้ในตลาดต่างประเทศเป็นอย่างดี ทั้งด้านการตลาด และด้านคลีเอทีฟ โปรดิวเซอร์ และมีแผนที่จะดึงคลีเอทีฟฝีมือดี เข้ามาอยู่ในสังกัดให้มากที่สุด ในอนาคตยังมีแผนจะโปรโมตโปรดิวเซอร์เหล่านั้นเป็นรายบุคคล เพื่อให้ผู้ที่มีความสามารถได้เป็นที่ยอมรับและรู้จักทั้งในสายงาน และประชาชนทั่วไป เป็นการสร้างโอกาสให้คนเหล่านั้นได้เติบโตขึ้นสู่สากล
ในปีนี้บริษัทรับงานทั้งสิ้นรวม 18 งาน แบ่งเป็นงานใหญ่ประมาณ 3-4 งาน เช่น แม่น้ำของแผ่นดิน งานมหาสงกรานต์ ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ล่าสุดคืองาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาตร์ฯ ซึ่งกำลังเปิดแสดงที่อิมแพคเมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 ตุลาคม 2547 โดยงานที่บริษัทเข้าประมูลเป็นงานของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจทั้งหมด ซึ่งมีทั้งการจัดกิจกรรม และการประชาสัมพันธ์องค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทออร์กาไนชั้นนำในประเทศไทย ที่มีศักยภาพรับงานขนาดใหญ่ได้มีหลายบริษัท นอกเหนือจาก
กันตนา เช่น เจเอสแอล มีเดีย ออฟมีเดีย แกรมมี่ และแมทชิ่ง แต่จุดขายหลักของกันตนา คือ งานคลีเอทีฟ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ถือได้ว่าเป็นผู้นำในแนวนี้ก็ว่าได้ ขณะเดียวกันยังเป็นผู้นำในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพราะพื้นฐานของเราคือการทำภาพยนตร์
“การที่รัฐบาลโดยทุกหน่วยงาน หันมาให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรม และการทำโฆษณามากขึ้น ส่งผลดีกับบริษัทเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงานประเภท โอทอป เอสเอ็มอี และททท. เพราะนโยบายหลักของบริษัทคือรับงานของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ” นางปฏิมา กล่าวในที่สุด
นางปฏิมา ตันติคมน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันตนา ออร์กาไนเซอร์ แอนด์ เมเนจเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประมูลงานออแกไนซ์ ในต่างประเทศ โดยร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศซึ่งมีอยู่ประมาณ 4 ราย ที่ทำธุรกิจเช่นเดียวกันนี้ เป็นการร่วมกันและเข้าไปประมูลงาน ซึ่งจะมีทั้งงานปี 2548 และ ปี 2549 เป็นงานอินเตอร์เนชั่นแนล ยิ่งใหญ่ระดับโลก โดยจัดในแถบเอเชีย เพราะงานออแกไนซ์ในประเทศ กันตนาก็จะรับเฉพาะงานใหญ่ระดับชาติอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อขยายธุรกิจไปต่างประเทศก็ต้องรับงานที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งบริษัทมีความเชื่อใจในศักยภาพของบริษัท และพันธมิตร ซึ่งมีผลงานที่ผ่านมาเป็นที่รู้จัดในระดับสากลอยู่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ บริษัทดังกล่าวรู้จักกันตนา ตั้งแต่เป็นบริษัทสร้างภาพยนตร์ และมีโอกาสทำงานร่วมกันหลายครั้ง แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่า งานที่เข้าร่วมประมูลคืองานอะไร และบริษัทพันธมิตรคือใคร คาดว่า เดือนมกราคมปีหน้า จะสามารถให้รายละเอียดทั้งหมด รวมถึงผลการประมูลด้วย
ทั้งนี้การออกไปจับตลาดในต่างประเทศ เพื่อต้องการสร้างความมั่งคงทางรายได้ โดยแบ่งเป็นรายได้ในประเทศและรายได้จากต่างประเทศ อีกทั้งยังได้ประสบการณ์และความรู้เพิ่มเติมจากการทำงาน ทั้งนี้เพราะ ส่วนใหญ่งานออแกไนซ์ ที่กันตนารับทำจะเป็นงานและการจัดกิจกรรมของหน่วยงานรัฐบาล ซึ่งในวิธีการต้องเข้าประมูลงาน ซึ่งแต่ละครั้งหน่วยราชการจะเปิดประมูลในช่วงก่อนจัดงานเพียงไม่กี่เดือน ทำให้บริษัทไม่สามารถตั้งแผนงานหรือรายได้ล่วงหน้าได้มากนัก ขณะที่งานประมูลในต่างประเทศ หากเป็นงานใหญ่ๆ จะเปิดประมูลข้ามปีก่อนจัดงาน เพื่อให้ผู้ชนะประมูล ได้มีเวลาเตรียมงาน
นางปฏิมา กล่าวว่า กันตนา ออร์กาไนเซอร์ฯ เป็นบริษัทลูกรวมอยู่ในกันตนากรุ๊ป เพิ่งแยกออกจากบริษัทแม่มาปีนี้เป็นปีที่ 2 ผลประกอบการในปีแรกประมาณ 100 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 230 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมงานที่จะเข้าประมูลอีก 2 งานรวมมูลค่า 20 ล้านบาท คือ ลอยกระทง และงานเคาต์ดาวน์ ซึ่งหากปีหน้า บริษัทสามารถประมูลงานในต่างประเทศได้ จะทำให้บริษัทมีรายได้โตแบบก้าวกระโดด 1-2 เท่า โดยบริษัทตั้งเป้าไว้ภายใน 5 ปี จะมีบิลลิ่งขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจออแกไนซ์
สำหรับแผนเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการขยายงาน บริษัท เน้นเรื่องการสร้างบุคลากร โดยเฉพาะการตั้งเป้ารับงานในต่างประเทศ จะเน้นบุคลากรที่มีความรู้ในตลาดต่างประเทศเป็นอย่างดี ทั้งด้านการตลาด และด้านคลีเอทีฟ โปรดิวเซอร์ และมีแผนที่จะดึงคลีเอทีฟฝีมือดี เข้ามาอยู่ในสังกัดให้มากที่สุด ในอนาคตยังมีแผนจะโปรโมตโปรดิวเซอร์เหล่านั้นเป็นรายบุคคล เพื่อให้ผู้ที่มีความสามารถได้เป็นที่ยอมรับและรู้จักทั้งในสายงาน และประชาชนทั่วไป เป็นการสร้างโอกาสให้คนเหล่านั้นได้เติบโตขึ้นสู่สากล
ในปีนี้บริษัทรับงานทั้งสิ้นรวม 18 งาน แบ่งเป็นงานใหญ่ประมาณ 3-4 งาน เช่น แม่น้ำของแผ่นดิน งานมหาสงกรานต์ ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ล่าสุดคืองาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาตร์ฯ ซึ่งกำลังเปิดแสดงที่อิมแพคเมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 ตุลาคม 2547 โดยงานที่บริษัทเข้าประมูลเป็นงานของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจทั้งหมด ซึ่งมีทั้งการจัดกิจกรรม และการประชาสัมพันธ์องค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทออร์กาไนชั้นนำในประเทศไทย ที่มีศักยภาพรับงานขนาดใหญ่ได้มีหลายบริษัท นอกเหนือจาก
กันตนา เช่น เจเอสแอล มีเดีย ออฟมีเดีย แกรมมี่ และแมทชิ่ง แต่จุดขายหลักของกันตนา คือ งานคลีเอทีฟ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ถือได้ว่าเป็นผู้นำในแนวนี้ก็ว่าได้ ขณะเดียวกันยังเป็นผู้นำในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพราะพื้นฐานของเราคือการทำภาพยนตร์
“การที่รัฐบาลโดยทุกหน่วยงาน หันมาให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรม และการทำโฆษณามากขึ้น ส่งผลดีกับบริษัทเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงานประเภท โอทอป เอสเอ็มอี และททท. เพราะนโยบายหลักของบริษัทคือรับงานของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ” นางปฏิมา กล่าวในที่สุด