xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลผลักดันระบบขนส่งมวลชนครบวงจร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย ถนอม พิพิธยากร

นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เตรียมเดินหน้าผลักดันโครงการลงทุนระบบชนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ครบวงจร อีกกว่า 300 กิโลเมตร เชื่อมโยงการเดินทางทั่วกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยเฉพาะการลงทุนสร้างรถไฟฟ้า ด้วยเงินลงทุนกว่า 5 แสนล้านบาท ขณะที่ต้นทุนการเดินทางของคนไทย จะลดเหลือไม่เกินวันละ 30 บาทโดยเฉลี่ย ทั้งเที่ยวไป-กลับ

จุดประสงค์หลักของรัฐบาล เพื่อต้องการให้คนไทยลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อลดการใช้น้ำมัน ที่ขณะนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกแพงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การใช้รถขนส่งในปัจจุบัน ยังไม่มีความสะดวก รวมถึงค่าใช้จ่ายการเดินทางที่แพง เมื่อเทียบกับค่าครองชีพด้านอื่น ๆ และประเทศที่พัฒนาแล้วอื่น ๆ โดยทั่วไป

การสร้างระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ นอกจากจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง ด้วยการลงทุนจากภาครัฐแล้ว ยังช่วยส่งเสริมสถาบันครอบครัวไทย ให้มีความแข็งแกร่ง เพราะคนไทยสามารถรถระยะเวลาที่อยู่ในถนนในแต่ละวัน ได้หลายชั่วโมง ซึ่งหมายถึงการได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา สำหรับสมาชิกในครอบครัว ได้ยาวนานขึ้นในแต่ละวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายหลักของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อลดปัญหาสังคมขณะนี้ ซึ่งวัยรุ่นในกรุงเทพส่วนใหญ่ มักจะหาแหล่งมั่วสุม เพราะไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับพ่อแม่ รวมถึงการรับวัฒนธรรมตะวันตกอย่างเต็มที่

นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันว่า การก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ทั่วกรุงเทพและปริมณฑลเพิ่มเติม จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาหนี้สาธารณะเพิ่มในระดับที่น่าตกใจ รวมถึงไม่เป็นภาระต่องบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจะเป็นผลให้ประเทศไทยยังคงรักษาวินัยทางการคลังได้อย่างเต็มที่ ขณะที่เงินที่คาดว่าจะใช้ในโครงการต่อเนื่องนี้ ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายให้เสร็จสิ้นทั้งหมด ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า จะประมาณ 5 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นจำนวนที่เท่า ๆ กับที่รัฐบาลชุดนี้ ใช้หนี้ประเทศคืนองค์กรการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund-IMF) ก่อนกำหนดถึง 2 ปี ซึ่งทำให้ภาพพจน์ด้านเศรษฐกิจไทย ในสายตาชาวโลก ดีขึ้นมากในปัจจุบัน

โดยแนวคิดหลักในการทำส่วนต่อขยายเพิ่มของรถไฟฟ้าทั่วกรุงเทพ-ปริมณฑล ทั่วทุกทิศ ซึ่งจะลงมือสร้างทันทีหลังการเลือกตั้งทั่วไป ต้นปีหน้า คือให้คนไทยเดินทางประจำวัน ด้วยค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด ประมาณไม่เกินวันละ 30 บาทโดยเฉลี่ย ทั้งไป-กลับ ขณะนี้ ได้ข้อสรุปแล้ว ว่าจะระดมทุนรูปแบบใด ผ่านการระดมความคิด (brain-storming) ของนักวิชาการเก่ง ๆ หลายคน รวมถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยต่าง ๆ

ขณะที่นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้รัฐมนตรีทุกคน เร่งทำงาน ตามลำดับความสำคัญก่อนหลัง เพื่อให้สามารถตอบสนองประชาชนได้อย่างเต็มที่ และทั่วถึง หลังจากเศรษฐกิจไทยช่วงที่ผ่านมากว่า 3 ปี ขยายตัวต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลสามารถเก็บภาษี จากกิจกรรมเศรษฐกิจ-ธุรกิจ ที่เพิ่มขึ้น

ปีหน้า นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณคาดว่า รัฐบาลจะเก็บภาษี เพื่อบริหารประเทศได้เพิ่มขึ้น หลังจากบริษัทห้างร้านต่าง ๆ เริ่มพลิกฟื้นจากขาดทุนเป็นกำไร รวมถึงสถาบันการเงิน เพราะเศรษฐกิจไทยพลิกฟื้น ขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทห้างร้านเหล่านี้ จะจ่ายภาษีได้เพิ่มขึ้น

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคของไทย ทุกตัวยังดีต่อเนื่อง รวมถึงเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทย ที่ขณะนี้สูงถึง 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.76 ล้านล้านบาท) ส่วนหนี้สินทั้งรัฐบาลต่อสัดส่วนการขยายตัวเศรษฐกิจ (GDP-Gross Domestic Product) ลดลง ดุลการค้ายังคงเกินดุล แม้จะลดลงก็ตาม

นายกรัฐมนตรียังกำชับให้สำนักงาน ก.ล.ต.-ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกันดูแลตลาดทุนไทย ไม่ให้มีการลงทุนที่ผิดปกติ โดยเฉพาะการปล่อยข่าวลือในตลาดหุ้น ซึ่งเกิดกับตลาดหุ้นทั่วโลก ไม่เฉพาะตลาดหุ้นไทย มาตรการนี้ เพื่อคุ้มครองนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย

เพราะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยหลักการ คือการออมชนิดหนึ่ง เพราะเงินลงทุน ควรเป็นเงินจากส่วนเงินออมบางส่วน โดยนักลงทุนควรเลือกลงทุนหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี อย่าตื่นขายหุ้นราคาถูก ๆ หากมีข่าวลือต่าง ๆ แพร่สะพัด รวมถึงลงทุนอย่างมีสติ ไม่ตื่นตกใจตามกระแสต่าง ๆ

ความพยายามของรัฐบาล ในการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมไทยต่อเนื่อง จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากคนไทยทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม
กำลังโหลดความคิดเห็น