ผู้ประกอบการไทย โดดร่วมวงธุรกิจโรงแรม เปิดบูทีจ โรงแรม "เดอะสยาม เฮอริเทจ" แห่งแรกในถนนสุรวงศ์ พร้อมดึงมือตลาดจากค่ายโรงแรมดัง ฮอลิเดย์อินน์ เข้าบริหาร ชูจุดขาย ด้านการตกแต่งและบริการ ด้วยศิลปวัฒนธรรมไทย ขณะที่ปีหน้า เตรียมแผนขยายธุรกิจ จับที่ดินบางพระ ชลบุรี 40 ไร่ ศึกษาเปิดรีสอร์ทสไตล์ไทย มองอนาคตธุรกิจท่องเที่ยวสดใส จากยุทธศาสตร์ของททท.
นายกฤช บัณฑิตยานนท์ กรรมการผู้จัดการ โรงแรม เดอะสยามเฮอริเทค ซึ่งเป็นโรงแรมบูทีจ แห่งเดียวในย่านถนนสุรวงศ์ จำนวนห้องพัก 69 ห้อง เปิดเผยว่า การกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวของรัฐบาล ประกอบกับมีที่ดินส่วนตัวริมถนนสุรวงศ์ จึงเห็นโอกาสของการทำธุรกิจประเภทโรงแรม โดยฉีกแนวจากโรงแรมทั่วไปที่มีอยู่ในย่านนี้ ด้วยการเปิดเป็น บูทีจ โรงแรม สไตล์ไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ยุคกลาง ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 250 ล้านบาท โดยต้องการนำเสนอความเป็นไทยให้กับต่างชาติที่เข้ามาพักให้รับรู้ถึงศิลปวัฒนธรรม ความรู้สึกเป็นไทยอย่างแท้จริง
"โรงแรมที่มีอยู่ย่านนี้ส่วนใหญ่เป็นการตกแต่งสไตล์ตะวันตก แขกต่างชาติที่เข้าพักไม่เห็นความแตกต่างว่าได้เข้ามาอยู่เมืองไทยจริงๆ แต่โรงแรมของเราจุดเด่นอยู่ที่การตกแต่ง การต้อนรับ และบริการที่พนักงานจะให้แก่แขกที่เข้าพักเสมือนญาติ ตรงนี้ คือ จุดขายที่สำคัญของเรา จึงไม่รู้สึกกลัวที่จะแข่งขันกับเชนโรงแรมต่างชาติ"
ทางด้านแผนการตลาด ได้ตั้งทีมงานที่มีประสบการมากกว่า 10 ปี จากการบริหารโรงแรมในเชนใหญ่ๆ เช่น ฮอลิเดย์อินน์ เป็นต้น โดยช่องทางการขายห้องพัก เน้นจับมือกับพันธมิตรที่เป็นบริษัททัวร์ การเปิดเว็บไซต์ www.thesiamheritage.com บริการจองห้องพักระบบออนไลน์ รวมถึงการไดเร็กเซลส์ ในกลุ่มประชุมสัมมนา เป็นต้น ลูกค้าเป้าหมายหลัก คือ ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี
ทางโรงแรมได้แบ่งกลุ่มลูกค้าไว้ 4 กลุ่มหลักในปีนี้ ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าองค์กร 40% กลุ่มทัวร์ 30% กลุ่มลูกค้าเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ 20% และ 4. กลุ่มเจ้าหน้าที่จากสถานฑูตต่างประเทศที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอีก 10% ส่วนราราห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่4,500-12,000 บาทต่อคืน หรือหากพักเป็นเดือน จะคิดอัตราเริ่มต้นที่4-9 หมื่นบาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ปีหน้าจะขยายกลุ่มลูกค้าองค์กรและกลุ่มเจ้าหน้าที่สถานฑูตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนได้เป็น 60% และ 20%ตามลำดับ โดยตลาดลูกค้าองค์กรที่สำคัญจะมาจากย่านเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ซึ่งทางโรงแรมมีห้องประชุมสัมมนาที่จุคนได้ราว 30 คน ไว้รองรับ
อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบรับที่ดี ปัจจุบันมีการจองล่วงหน้าจำนวนมาก โดย 5 เดือนจากนี้ไป คาดว่าอัตราการเข้าพักจะถึง 90% และสร้างรายได้ประมาณ 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังเตรียมศึกษาแนวทางการเปิดโรงแรมที่จังหวัดชลบุรี อำเภอบางพระ บนที่ดิน 40ไร่ เชิงเขา ย่านสนามกอล์ฟเนเชอรัลปาร์ค โดยเป็นที่ดินผืนเดียวที่อยู่ห่างสนามกอล์ฟ 3 แห่ง ในรัศมีไม่ถึง 1 กิโลเมตร เบื้องต้น คิดว่าจะทำเป็นรีสอร์ทภายใต้แนวคิดเดิม คือ นำเสนอความเป็นไทย โดยตั้งเป้าภายในต้นปี 2548 จะเริ่มศึกษาเรื่องแบบการก่อสร้าง
ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย มีโอกาสเติบโตตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ ที่ ททท.ได้วางไว้อย่างแน่นอน ซึ่งตลาดท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใกล้กรุงเทพ เดินทางสะดวก มีสนามกอล์ฟล้อมรอบเป็นจุดดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
นายกฤช บัณฑิตยานนท์ กรรมการผู้จัดการ โรงแรม เดอะสยามเฮอริเทค ซึ่งเป็นโรงแรมบูทีจ แห่งเดียวในย่านถนนสุรวงศ์ จำนวนห้องพัก 69 ห้อง เปิดเผยว่า การกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวของรัฐบาล ประกอบกับมีที่ดินส่วนตัวริมถนนสุรวงศ์ จึงเห็นโอกาสของการทำธุรกิจประเภทโรงแรม โดยฉีกแนวจากโรงแรมทั่วไปที่มีอยู่ในย่านนี้ ด้วยการเปิดเป็น บูทีจ โรงแรม สไตล์ไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ยุคกลาง ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 250 ล้านบาท โดยต้องการนำเสนอความเป็นไทยให้กับต่างชาติที่เข้ามาพักให้รับรู้ถึงศิลปวัฒนธรรม ความรู้สึกเป็นไทยอย่างแท้จริง
"โรงแรมที่มีอยู่ย่านนี้ส่วนใหญ่เป็นการตกแต่งสไตล์ตะวันตก แขกต่างชาติที่เข้าพักไม่เห็นความแตกต่างว่าได้เข้ามาอยู่เมืองไทยจริงๆ แต่โรงแรมของเราจุดเด่นอยู่ที่การตกแต่ง การต้อนรับ และบริการที่พนักงานจะให้แก่แขกที่เข้าพักเสมือนญาติ ตรงนี้ คือ จุดขายที่สำคัญของเรา จึงไม่รู้สึกกลัวที่จะแข่งขันกับเชนโรงแรมต่างชาติ"
ทางด้านแผนการตลาด ได้ตั้งทีมงานที่มีประสบการมากกว่า 10 ปี จากการบริหารโรงแรมในเชนใหญ่ๆ เช่น ฮอลิเดย์อินน์ เป็นต้น โดยช่องทางการขายห้องพัก เน้นจับมือกับพันธมิตรที่เป็นบริษัททัวร์ การเปิดเว็บไซต์ www.thesiamheritage.com บริการจองห้องพักระบบออนไลน์ รวมถึงการไดเร็กเซลส์ ในกลุ่มประชุมสัมมนา เป็นต้น ลูกค้าเป้าหมายหลัก คือ ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี
ทางโรงแรมได้แบ่งกลุ่มลูกค้าไว้ 4 กลุ่มหลักในปีนี้ ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าองค์กร 40% กลุ่มทัวร์ 30% กลุ่มลูกค้าเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ 20% และ 4. กลุ่มเจ้าหน้าที่จากสถานฑูตต่างประเทศที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอีก 10% ส่วนราราห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่4,500-12,000 บาทต่อคืน หรือหากพักเป็นเดือน จะคิดอัตราเริ่มต้นที่4-9 หมื่นบาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ปีหน้าจะขยายกลุ่มลูกค้าองค์กรและกลุ่มเจ้าหน้าที่สถานฑูตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนได้เป็น 60% และ 20%ตามลำดับ โดยตลาดลูกค้าองค์กรที่สำคัญจะมาจากย่านเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ซึ่งทางโรงแรมมีห้องประชุมสัมมนาที่จุคนได้ราว 30 คน ไว้รองรับ
อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบรับที่ดี ปัจจุบันมีการจองล่วงหน้าจำนวนมาก โดย 5 เดือนจากนี้ไป คาดว่าอัตราการเข้าพักจะถึง 90% และสร้างรายได้ประมาณ 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังเตรียมศึกษาแนวทางการเปิดโรงแรมที่จังหวัดชลบุรี อำเภอบางพระ บนที่ดิน 40ไร่ เชิงเขา ย่านสนามกอล์ฟเนเชอรัลปาร์ค โดยเป็นที่ดินผืนเดียวที่อยู่ห่างสนามกอล์ฟ 3 แห่ง ในรัศมีไม่ถึง 1 กิโลเมตร เบื้องต้น คิดว่าจะทำเป็นรีสอร์ทภายใต้แนวคิดเดิม คือ นำเสนอความเป็นไทย โดยตั้งเป้าภายในต้นปี 2548 จะเริ่มศึกษาเรื่องแบบการก่อสร้าง
ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย มีโอกาสเติบโตตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ ที่ ททท.ได้วางไว้อย่างแน่นอน ซึ่งตลาดท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใกล้กรุงเทพ เดินทางสะดวก มีสนามกอล์ฟล้อมรอบเป็นจุดดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี