โดฟเร่งเครื่องขย่มบังลังก์แพนทีน ทุ่ม 5 ล้านบาทผุดพรีเมียมอีเวนต์" Dove - Hair Talks" ขนขบวนบรรดาสาวไฮโซ 30 ชีวิต นำเสนอเรื่องราวเส้นผมผ่านภาพแบบผมหลายอาชีพ-บุคลิก พร้อมเล็งต่อยอดดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามามีส่วนร่วม ประเดิมเปิดโอกาสให้ผู้หญิงถ่ายทอดความประทับใจของตนกับเส้นผม นำรางวัลล่อใจ หวังเสียงสะท้อนกลุ่มเป้าหมายรู้จักตราสินค้าในวงกว้าง
เมื่อ"โดฟ"ครีมแชมพูระดับพรีเมียมภายใต้บังเหียนของบริษัทยูนิลีเวอร์มีความพร้อมที่จะรุกทำตลาดอย่างจริงจัง ภายหลังจากที่บ่มเพาะแบรนด์ในเมืองไทยมากว่า 2 ปี จนกระทั่งล่าสุดโดฟได้พัฒนาครีมแชมพูใหม่ขึ้นมา 3 สูตร ประกอบด้วย สูตรออริจินอลที่ปรับปรุงใหม่ (สีน้ำเงิน) สำหรับผมธรรมดา ,สูตรอินเทนซีฟ (สีชมพู) สำหรับผมแห้ง ผมเสีย และสูตรเดลิเคท (สีเขียว) ที่อ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งถือว่าการแตกไลน์ออกมาในครั้งนี้ โดฟสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้นจากเดิมที่มีเพียงสูตรเดียว ทำให้ ณ เวลานี้ โดฟมีภาษีเทียบเท่ากับค่ายคู่แข่งพีแอนด์จี ซึ่งมีแพนทีนเป็นหัวหอกในการทำตลาดแชมพูระดับพรีเมียม
ล่าสุดบริษัทได้จัดกิจกรรมครีมแชมพูโดฟ 3 สูตรเฉพาะและคอนดิชั่นเนอร์ใหม่อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่องานว่า " Dove - Hair Talke" ขึ้นเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2547 ที่ตึกอื้อ จือ เหลียง โดยมีแนวคิดแหวกแนวคือ"เส้นผมกำลังพูด คุณฟังอยู่นึกเปล่า" ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงกับเส้นผมและความสำคัญของเส้นผมที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของผู้หญิงแต่ละคน ตามลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่"ตอบรับทุกเสียงความต้องการของเส้นผม" โดยงานดังกล่าวใช้งบราว 5 ล้านบาท
ภายในงานได้มีการนำเสนอเรื่องราวเส้นผม ผ่านการแสดงภาพแบบผมของสาวๆหลากอาชีพ หลายบุคลิก ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในวงสังคมถึง 30 คน ได้แก่ สุธาสินี พุทธินันท์,ปาณิสรา เที่ยงธรรม,มนต์ลดา พงษ์พาณิช และสาลินี ปันยารชุน ฯลฯ โดยแต่ละคนเป็นตัวแทนของคำนิยามลักษณะต่างๆที่เส้นผมสะท้อนให้เห็น เช่น รื่นเริง โดดเด่น รักอิสระ ทะเยอทะยาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเส้นผมซึ่งผูกพันอย่างใกล้ชิด โดยเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงบุคลิกของแต่ละคน และสะท้อนถึงการที่เส้นผมของแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกัน จึงมีความต้องการที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องได้รับการดูแล อย่างเข้าใจเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของเส้นผม เพื่อให้ผม สุขภาพดี สวยงามและสะท้อนถึงความเป็นตัวตนของผู้หญิงแต่ละคนได้อย่างแท้จริง
สำหรับการจัดงาน Dove - Hair Talks ขึ้นนี้ ก็เพื่อเน้นย้ำให้ผู้หญิงหันมองเห็นความสำคัญของเส้นผมว่าเป็นสิ่งที่ผูกพันกับคุณอย่างใกล้ชิด และจำเป็นต้องได้รักการดูแลอย่างใส่ใจ เพื่อบรรดาผู้หญิงจะได้ลองหันมารับฟังบ้างว่าเส้นผมของคุณต้องการอะไร และเอาใจใส่เส้นผมให้ถูกวิธี เพราะเราเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนสามารถจะมีเส้นผมสวย สุขภาพดีได้ ถ้ารู้จักดูแลเส้นผมอย่างอ่อนโยนด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
นางสาวนริสสา อมรวิวัฒน์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์-โดฟ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของครีมแชมพูโดฟที่ออกมาเคลื่อนจัดกิจกรรมอย่างเต็มรูปแบบ โดยลักษณะของการจัดงานจะเป็นพรีเมียมอีเวนต์ นำบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงสังคมซึ่งตรงกับโพซิชั่นนิ่งของผลิตภัณฑ์ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับเอ-บี มานำเสนอเรื่องราวของเส้นผมผ่านการแสดงภาพแบบผมของสาวๆหลากหลายอาชีพ หลายบุคลิก
นอกจากนี้ยูนิลีเวอร์ ยังต่อยอดกิจกรรม ด้วยการนำแนวคิดการจัดงานไปสู่ผู้บริโภคทั่วไปในมุมกว้างมากขึ้น ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่รักเส้นผมได้แสดงออกถึงความประทับใจของตนกับเส้นผม โดยส่งเรื่องราวที่คิดว่าเส้นผมอยากจะบอกกับคุณ มาร่วมสนุกกับโดฟ หากเรื่องราวของเส้นผมเรื่องใดเป็นที่ประทับใจ รางวัลผู้โชคดีจะได้ถ่ายภาพความประทับใจระหว่างคุณกับผมเช่นเดียวกับบรรดาคนดังทั้ง 30 คน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน - 31 ตุลาคม 2547 ทั้งนี้
"ที่ผ่านมาโดฟยังไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวในการทำตลาดมากนัก แต่ก็ปรากฎว่าโดฟได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ สำหรับเป้าหมายของการทำตลาดครีมแชมพูโดฟในสิ้นปีนี้ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 10 % จากปัจจุบันมีราว8%" นางสาวนริสสา กล่าว
นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ส่วนบุคคล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันถือว่าผลิตภัณฑ์เส้นผมบริษัทแบ่งแยกเซกเมนต์กันอย่างชัดเจน สำหรับซันซิลจะจับกลุ่มตลาดมวลชนทั่วไป ครีมแชมพูโดฟจะจับตลาดระดับพรีเมียม ส่งผลให้มีราคาที่แตกต่างจากซันซิลถึง 35 % จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดการแย่งส่วนแบ่งตลาดกันเองอย่างแน่นอน ส่วนคลีนิค เคลียร์ เป็นแชมพูขจัดรังแค หรือตำแหน่งที่วางไว้เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ โดยที่ผ่านมาสินค้าทั้งสามแบรนด์นี้มีสัดส่วนรายได้10% ของรายได้โดยรวมทั้งหมด
สภาพตลาดแชมพูมูลค่า 6,500 ล้านบาทมีภาวะทรงตัว และในขณะนี้ผู้ประกอบการในตลาดเล่นสงครามราคากันค่อนข้างรุนแรง แต่นโยบายของบริษัทจะไม่ลงไปเล่นกลยุทธ์ราคามากนัก อย่างไรก็ตามมองว่าการที่จะผลักดันตลาดแชมพูให้เติบโตได้นั้นจะต้องพัฒนานวัตกรรมใหม่ รวมถึงการพัฒนาสินค้าพรีเมียมออกสู่ตลาด ก็จะมีผลทำให้มูลค่าตลาดเพิ่มมากขึ้นได้ และยังกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการทดลองใช้หรือมีพฤติกรรมสระผมมากกว่า 2-3ครั้งต่อสัปดาห์
ปัจจุบันบริษัทยูนิลีเวอร์มีส่วนแบ่งตลาดแชมพูโดยรวม 52.7 %(รอบเดือนเมษายน-พฤษภาคม)จากในปีที่ผ่านมา 51% แบ่งเป็นซันซิล 29.3% คลีนิคเคลียร์ 14.8% โดฟ 8 % ส่วนค่ายคู่แข่งพีแอนด์จี แพนทีน12.4% รีจ้อยส์ 8.4% เฮดแอนด์โชว์เดอร์ 7.9%
เมื่อ"โดฟ"ครีมแชมพูระดับพรีเมียมภายใต้บังเหียนของบริษัทยูนิลีเวอร์มีความพร้อมที่จะรุกทำตลาดอย่างจริงจัง ภายหลังจากที่บ่มเพาะแบรนด์ในเมืองไทยมากว่า 2 ปี จนกระทั่งล่าสุดโดฟได้พัฒนาครีมแชมพูใหม่ขึ้นมา 3 สูตร ประกอบด้วย สูตรออริจินอลที่ปรับปรุงใหม่ (สีน้ำเงิน) สำหรับผมธรรมดา ,สูตรอินเทนซีฟ (สีชมพู) สำหรับผมแห้ง ผมเสีย และสูตรเดลิเคท (สีเขียว) ที่อ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งถือว่าการแตกไลน์ออกมาในครั้งนี้ โดฟสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้นจากเดิมที่มีเพียงสูตรเดียว ทำให้ ณ เวลานี้ โดฟมีภาษีเทียบเท่ากับค่ายคู่แข่งพีแอนด์จี ซึ่งมีแพนทีนเป็นหัวหอกในการทำตลาดแชมพูระดับพรีเมียม
ล่าสุดบริษัทได้จัดกิจกรรมครีมแชมพูโดฟ 3 สูตรเฉพาะและคอนดิชั่นเนอร์ใหม่อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่องานว่า " Dove - Hair Talke" ขึ้นเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2547 ที่ตึกอื้อ จือ เหลียง โดยมีแนวคิดแหวกแนวคือ"เส้นผมกำลังพูด คุณฟังอยู่นึกเปล่า" ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงกับเส้นผมและความสำคัญของเส้นผมที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของผู้หญิงแต่ละคน ตามลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่"ตอบรับทุกเสียงความต้องการของเส้นผม" โดยงานดังกล่าวใช้งบราว 5 ล้านบาท
ภายในงานได้มีการนำเสนอเรื่องราวเส้นผม ผ่านการแสดงภาพแบบผมของสาวๆหลากอาชีพ หลายบุคลิก ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในวงสังคมถึง 30 คน ได้แก่ สุธาสินี พุทธินันท์,ปาณิสรา เที่ยงธรรม,มนต์ลดา พงษ์พาณิช และสาลินี ปันยารชุน ฯลฯ โดยแต่ละคนเป็นตัวแทนของคำนิยามลักษณะต่างๆที่เส้นผมสะท้อนให้เห็น เช่น รื่นเริง โดดเด่น รักอิสระ ทะเยอทะยาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเส้นผมซึ่งผูกพันอย่างใกล้ชิด โดยเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงบุคลิกของแต่ละคน และสะท้อนถึงการที่เส้นผมของแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกัน จึงมีความต้องการที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องได้รับการดูแล อย่างเข้าใจเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของเส้นผม เพื่อให้ผม สุขภาพดี สวยงามและสะท้อนถึงความเป็นตัวตนของผู้หญิงแต่ละคนได้อย่างแท้จริง
สำหรับการจัดงาน Dove - Hair Talks ขึ้นนี้ ก็เพื่อเน้นย้ำให้ผู้หญิงหันมองเห็นความสำคัญของเส้นผมว่าเป็นสิ่งที่ผูกพันกับคุณอย่างใกล้ชิด และจำเป็นต้องได้รักการดูแลอย่างใส่ใจ เพื่อบรรดาผู้หญิงจะได้ลองหันมารับฟังบ้างว่าเส้นผมของคุณต้องการอะไร และเอาใจใส่เส้นผมให้ถูกวิธี เพราะเราเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนสามารถจะมีเส้นผมสวย สุขภาพดีได้ ถ้ารู้จักดูแลเส้นผมอย่างอ่อนโยนด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
นางสาวนริสสา อมรวิวัฒน์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์-โดฟ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของครีมแชมพูโดฟที่ออกมาเคลื่อนจัดกิจกรรมอย่างเต็มรูปแบบ โดยลักษณะของการจัดงานจะเป็นพรีเมียมอีเวนต์ นำบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงสังคมซึ่งตรงกับโพซิชั่นนิ่งของผลิตภัณฑ์ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับเอ-บี มานำเสนอเรื่องราวของเส้นผมผ่านการแสดงภาพแบบผมของสาวๆหลากหลายอาชีพ หลายบุคลิก
นอกจากนี้ยูนิลีเวอร์ ยังต่อยอดกิจกรรม ด้วยการนำแนวคิดการจัดงานไปสู่ผู้บริโภคทั่วไปในมุมกว้างมากขึ้น ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่รักเส้นผมได้แสดงออกถึงความประทับใจของตนกับเส้นผม โดยส่งเรื่องราวที่คิดว่าเส้นผมอยากจะบอกกับคุณ มาร่วมสนุกกับโดฟ หากเรื่องราวของเส้นผมเรื่องใดเป็นที่ประทับใจ รางวัลผู้โชคดีจะได้ถ่ายภาพความประทับใจระหว่างคุณกับผมเช่นเดียวกับบรรดาคนดังทั้ง 30 คน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน - 31 ตุลาคม 2547 ทั้งนี้
"ที่ผ่านมาโดฟยังไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวในการทำตลาดมากนัก แต่ก็ปรากฎว่าโดฟได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ สำหรับเป้าหมายของการทำตลาดครีมแชมพูโดฟในสิ้นปีนี้ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 10 % จากปัจจุบันมีราว8%" นางสาวนริสสา กล่าว
นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ส่วนบุคคล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันถือว่าผลิตภัณฑ์เส้นผมบริษัทแบ่งแยกเซกเมนต์กันอย่างชัดเจน สำหรับซันซิลจะจับกลุ่มตลาดมวลชนทั่วไป ครีมแชมพูโดฟจะจับตลาดระดับพรีเมียม ส่งผลให้มีราคาที่แตกต่างจากซันซิลถึง 35 % จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดการแย่งส่วนแบ่งตลาดกันเองอย่างแน่นอน ส่วนคลีนิค เคลียร์ เป็นแชมพูขจัดรังแค หรือตำแหน่งที่วางไว้เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ โดยที่ผ่านมาสินค้าทั้งสามแบรนด์นี้มีสัดส่วนรายได้10% ของรายได้โดยรวมทั้งหมด
สภาพตลาดแชมพูมูลค่า 6,500 ล้านบาทมีภาวะทรงตัว และในขณะนี้ผู้ประกอบการในตลาดเล่นสงครามราคากันค่อนข้างรุนแรง แต่นโยบายของบริษัทจะไม่ลงไปเล่นกลยุทธ์ราคามากนัก อย่างไรก็ตามมองว่าการที่จะผลักดันตลาดแชมพูให้เติบโตได้นั้นจะต้องพัฒนานวัตกรรมใหม่ รวมถึงการพัฒนาสินค้าพรีเมียมออกสู่ตลาด ก็จะมีผลทำให้มูลค่าตลาดเพิ่มมากขึ้นได้ และยังกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการทดลองใช้หรือมีพฤติกรรมสระผมมากกว่า 2-3ครั้งต่อสัปดาห์
ปัจจุบันบริษัทยูนิลีเวอร์มีส่วนแบ่งตลาดแชมพูโดยรวม 52.7 %(รอบเดือนเมษายน-พฤษภาคม)จากในปีที่ผ่านมา 51% แบ่งเป็นซันซิล 29.3% คลีนิคเคลียร์ 14.8% โดฟ 8 % ส่วนค่ายคู่แข่งพีแอนด์จี แพนทีน12.4% รีจ้อยส์ 8.4% เฮดแอนด์โชว์เดอร์ 7.9%