ที่ประชุมมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติอนุมัติสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ขึ้นทะเบียนรับรองห้องปฏิบัติการทดสอบมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อการส่งออกของเอกชน และเห็นชอบตามร่างมาตรฐานวัสดุบรรจุภัณฑ์ไม้
นายอำพน กิตติอำพน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติมีมติเห็นชอบให้ มกอช.ดำเนินการขึ้นทะเบียนหน่วยรับรองห้องปฏิบัติการทดสอบและห้องปฏิบัติการทดสอบมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อการส่งออกของภาคเอกชนให้สามารถตรวจรับรองผล เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาออกใบรับรอง ในการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารได้เช่นเดียวกับห้องปฏิบัติการกลางของหน่วยราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการส่งออก และลดภาระของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติโดยเฉพาะในช่วงที่มีการส่งสินค้าจำนวนมาก พร้อมกันนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ ออกหลักเกณฑ์ ระเบียบปฏิบัติและวิธีการปฏิบัติในการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์ รวมทั้ง Test Report ของห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งห้องปฏิบัติการ ผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกรับทราบ แล้วนำไปปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อไป
อย่างไรก็ตาม หน่วยรับรองห้องปฏิบัติการทดสอบและห้องปฏิบัติการทดสอบที่จะขึ้นทะเบียนกับ มกอช.จะต้องผ่านการตรวจสอบประสิทธิภาพของเครื่องมืออุปกรณ์ และความรู้ความสามารถของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ รวมทั้งเงื่อนไขการดำเนินการต่างๆ ตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ประเทศผู้นำเข้าทุกประเทศให้การยอมรับอย่างครบถ้วน ยกเว้นกรณีของผู้ประกอบการธุรกิจต่างชาติที่มีห้องปฏิบัติการทดสอบในประเทศไทย และประเทศผู้ประกอบการยอมรับผลการตรวจวิเคราะห์ ดังนั้น ถึงแม้จะยังไม่ได้รับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025 มกอช. ก็จะพิจารณาขึ้นทะเบียนเช่นกัน แต่จำกัดขอบข่ายเฉพาะการส่งสินค้าไปยังประเทศผู้ประกอบเท่านั้น
“การขึ้นทะเบียนหน่วยรับรองห้องปฏิบัติการทดสอบและห้องปฏิบัติการทดสอบของภาคเอกชนให้สามารถดำเนินการตรวจวิเคราะห์ผลได้เช่นเดียวกับหน่วยราชการ ถือเป็นการทำงานในเชิงรุก ซึ่งนอกจากจะทำให้การตรวจวิเคราะห์ผลมีความรวดเร็วมากขึ้นและเพิ่มทางเลือกของผู้ประกอบการแล้ว ในอนาคตยังช่วยให้หน่วยราชการสามารถลดจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวลง และไปดูแลงานด้านอื่นๆ ได้เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับการต่อทะเบียนรถยนต์ที่กรมขนส่งทางบกอนุญาตให้อู่เอกชนที่ผ่านการตรวจรับรองสามารถตรวจสภาพรถได้ การทำงานของหน่วยราชการก็มีความคล่องตัวขึ้น” นายอำพน กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการร่างมาตรฐานข้อกำหนดสำหรับวัสดุบรรจุภัณฑ์ไม้เพื่อการส่งออก และหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการยอมรับความสามารถของหน่วยตรวจรับรองภาคเอกชน เพื่อประกาศเป็นมาตรฐานสมัครใจรองรับการที่ประเทศคู่ค้า เช่น สหรัฐเริ่มประกาศใช้มาตรฐานวัสดุบรรจุภัณฑ์ไม้ตามอนุสัญญาอารักขาพืชระหว่างประเทศ (IPPC) ซึ่งกำหนดให้ต้องทำการกำจัดศัตรูพืชในวัสดุบรรจุภัณฑ์ไม้ด้วย การอบด้วยความร้อน หรือการรมด้วยเมทิลโบรไมด์ โดยล่าสุดพบว่า มีผู้ประกอบขอขึ้นทะเบียน เพื่อขอรับรองจากกรมวิชาการเกษตรด้วยการรมเมทิลโบรไมด์ จำนวน 33 ราย ส่วนวิธีอบด้วยความร้อน จำนวน 17 ราย ยังอยู่ระหว่างการตรวจประเมินผล ซึ่งคาดจะสามารถจะสรุปผลได้เร็วๆ นี้
นายอำพน กิตติอำพน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติมีมติเห็นชอบให้ มกอช.ดำเนินการขึ้นทะเบียนหน่วยรับรองห้องปฏิบัติการทดสอบและห้องปฏิบัติการทดสอบมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อการส่งออกของภาคเอกชนให้สามารถตรวจรับรองผล เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาออกใบรับรอง ในการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารได้เช่นเดียวกับห้องปฏิบัติการกลางของหน่วยราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการส่งออก และลดภาระของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติโดยเฉพาะในช่วงที่มีการส่งสินค้าจำนวนมาก พร้อมกันนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ ออกหลักเกณฑ์ ระเบียบปฏิบัติและวิธีการปฏิบัติในการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์ รวมทั้ง Test Report ของห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งห้องปฏิบัติการ ผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกรับทราบ แล้วนำไปปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อไป
อย่างไรก็ตาม หน่วยรับรองห้องปฏิบัติการทดสอบและห้องปฏิบัติการทดสอบที่จะขึ้นทะเบียนกับ มกอช.จะต้องผ่านการตรวจสอบประสิทธิภาพของเครื่องมืออุปกรณ์ และความรู้ความสามารถของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ รวมทั้งเงื่อนไขการดำเนินการต่างๆ ตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ประเทศผู้นำเข้าทุกประเทศให้การยอมรับอย่างครบถ้วน ยกเว้นกรณีของผู้ประกอบการธุรกิจต่างชาติที่มีห้องปฏิบัติการทดสอบในประเทศไทย และประเทศผู้ประกอบการยอมรับผลการตรวจวิเคราะห์ ดังนั้น ถึงแม้จะยังไม่ได้รับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025 มกอช. ก็จะพิจารณาขึ้นทะเบียนเช่นกัน แต่จำกัดขอบข่ายเฉพาะการส่งสินค้าไปยังประเทศผู้ประกอบเท่านั้น
“การขึ้นทะเบียนหน่วยรับรองห้องปฏิบัติการทดสอบและห้องปฏิบัติการทดสอบของภาคเอกชนให้สามารถดำเนินการตรวจวิเคราะห์ผลได้เช่นเดียวกับหน่วยราชการ ถือเป็นการทำงานในเชิงรุก ซึ่งนอกจากจะทำให้การตรวจวิเคราะห์ผลมีความรวดเร็วมากขึ้นและเพิ่มทางเลือกของผู้ประกอบการแล้ว ในอนาคตยังช่วยให้หน่วยราชการสามารถลดจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวลง และไปดูแลงานด้านอื่นๆ ได้เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับการต่อทะเบียนรถยนต์ที่กรมขนส่งทางบกอนุญาตให้อู่เอกชนที่ผ่านการตรวจรับรองสามารถตรวจสภาพรถได้ การทำงานของหน่วยราชการก็มีความคล่องตัวขึ้น” นายอำพน กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการร่างมาตรฐานข้อกำหนดสำหรับวัสดุบรรจุภัณฑ์ไม้เพื่อการส่งออก และหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการยอมรับความสามารถของหน่วยตรวจรับรองภาคเอกชน เพื่อประกาศเป็นมาตรฐานสมัครใจรองรับการที่ประเทศคู่ค้า เช่น สหรัฐเริ่มประกาศใช้มาตรฐานวัสดุบรรจุภัณฑ์ไม้ตามอนุสัญญาอารักขาพืชระหว่างประเทศ (IPPC) ซึ่งกำหนดให้ต้องทำการกำจัดศัตรูพืชในวัสดุบรรจุภัณฑ์ไม้ด้วย การอบด้วยความร้อน หรือการรมด้วยเมทิลโบรไมด์ โดยล่าสุดพบว่า มีผู้ประกอบขอขึ้นทะเบียน เพื่อขอรับรองจากกรมวิชาการเกษตรด้วยการรมเมทิลโบรไมด์ จำนวน 33 ราย ส่วนวิธีอบด้วยความร้อน จำนวน 17 ราย ยังอยู่ระหว่างการตรวจประเมินผล ซึ่งคาดจะสามารถจะสรุปผลได้เร็วๆ นี้