นายกรัฐมนตรีเปิดโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ผาบ่อง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อใช้ภายในจังหวัด เนื่องจากไม่สามารถปักเสาพาดสายส่งไฟฟ้ามาได้ เพราะติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ผ่านป่าอนุรักษ์ ขณะเดียวกัน ก็มอบหมายให้ศึกษาติดเซลล์แสงอาทิตย์ตามหลังคาบ้านเรือนประชาชน แทนการใช้ไฟฟ้าปกติ โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนทางภาษีอย่างเต็มที่
วันนี้ (22 ก.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ผาบ่อง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่า การเริ่มใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในการผลิตไฟฟ้าถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการนำพลังงานทดแทนมาใช้ แม้ว่าจะมีต้นทุนในการผลิตสูง แต่รัฐบาลก็ยอมขาดทุนขายไฟฟ้าให้ประชาชนในราคาถูก เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลมีไฟฟ้าใช้ ซึ่งถึงเวลาที่ควรจะมีการวิจัยเพิ่มเติม จึงมอบหมายให้กระทรวงพลังงาน ไปศึกษาทดลองติดเซลล์แสงอาทิตย์ตามหลังคาบ้านเรือนประชาชนโดยไม่ต้องมีแบตเตอรี่ ซึ่งมีต้นทุนต่ำเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) เพื่อลดการลงทุนผลิตไฟฟ้าของภาครัฐที่มีการลงทุนสูงเป็นแสนล้านบาท โดยหากมีการส่งเสริมให้ใช้จำนวนมากก็สามารถขายไฟฟ้ากลับเข้าสู่ระบบได้ โดยอาจจะรับซื้อในราคา 2 เท่า ซึ่งคำนวณแล้วยังถูกกว่าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผลิตเอง เหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่น และเยอรมนี ที่กำลังทำอยู่
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังอยากให้กระทรวงพลังงาน ศึกษาแนวทางที่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของประเทศเยอรมนี นำไฟฟ้าในช่วงเวลากลางคืนมาเก็บไว้ แล้วนำกลับมาขายเข้าสู่ระบบในเวลากลางวันมาใช้ เพราะจะสามารถลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวันได้ และลดการลงทุนได้จำนวนมาก จึงอยากให้กระทรวงพลังงาน ไปศึกษาอย่างจริงจัง ส่วนเรื่องที่มีการเสนอให้ลดภาษีสรรพสามิตนั้น ไม่ต้องเป็นห่วง สิ่งใดเป็นประโยชน์ต่อประเทศก็จะทำ สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น นอกจากการใช้ไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์แล้ว ขณะนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ร่วมกันหาแนวทางดึงไฟฟ้าจากจังหวัดเชียงใหม่ มาใช้ 450 กิโลวัตต์ ซึ่ง กฟภ.สามารถลงทุนได้อยู่แล้ว แต่ทุกวันนี้ยังติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมจึงต้องหาทางร่วมกัน
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า โรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์แห่งนี้ใหญ่ที่สุดในอินโดจีน สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 500 กิโลวัตต์ หรือ 700,000 หน่วยต่อปี ลดการใช้น้ำมันดีเซลได้ 215,385 ลิตรต่อปี ประหยัดค่าน้ำมันได้ประมาณ 2 ล้านบาท ใช้เงินลงทุนทั้งหมด 187.11 ล้านบาท โดยเป็นงบจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 163.36 ล้านบาท กฟผ.ออกเอง 23.75 ล้านบาท โดยต้นทุนการผลิต 13.35 บาทต่อหน่วย แต่ขายให้ประชาชนเฉลี่ยในราคา 1.70 บาทต่อหน่วย กฟผ.รับภาระส่วนต่างประมาณ 30 ล้านบาท และ กฟผ. ประมาณ 20-30 ล้านบาท โดย กฟผ.กำลังมีโครงการที่จะสร้างโรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์อีก 1 แห่ง ที่แม่ฮ่องสอน ขนาด 1,700 กิโลวัตต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท ทั้งนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีความต้องการใช้ไฟฟ้า 14.62 เมกะวัตต์ หรือ 73.4 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2545 ประมาณร้อยละ 6 เนื่องจากมีการขยายตัวทางด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจึงต้องเตรียมกำลังการผลิตไฟฟ้าไว้รองรับ เพราะไม่สามารถปักเสาพาดสายส่งไฟฟ้ามาได้ เพราะติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ผ่านป่าอนุรักษ์
นายดุสิต เครืองาม อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หากจะให้โครงการโซลาร์เซลล์สำเร็จเหมือนที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ทางรัฐบาลก็ควรจะหาทางลดภาษีเงินได้ สำหรับประชาชนที่ติดโซลาร์เซลล์หลังคาบ้าน และให้ กฟภ.ซื้อไฟฟ้ากลับในอัตราที่สูง แนวทางนี้จะทำให้ชาวบ้านสนใจติดโซลาร์เซล ที่มีต้นทุนสูงถึงประมาณ 400,000 บาทต่อหลัง แต่จะมีผลดีในแง่ที่ประเทศไม่ต้องสร้างโรงไฟ้าเพิ่มขึ้นในอัตราสูง ลดการนำเข้าเชื้อเพลิงที่มีราคาแพง หากส่งเสริมด้วยแนวทางนี้ คาดว่าใน 10 ปี น่าจะมีประชาชนร่วมผลิตถึง 200,000 หลัง ลดการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ได้ 200 เมกะวัตต์
วันนี้ (22 ก.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ผาบ่อง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่า การเริ่มใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในการผลิตไฟฟ้าถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการนำพลังงานทดแทนมาใช้ แม้ว่าจะมีต้นทุนในการผลิตสูง แต่รัฐบาลก็ยอมขาดทุนขายไฟฟ้าให้ประชาชนในราคาถูก เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลมีไฟฟ้าใช้ ซึ่งถึงเวลาที่ควรจะมีการวิจัยเพิ่มเติม จึงมอบหมายให้กระทรวงพลังงาน ไปศึกษาทดลองติดเซลล์แสงอาทิตย์ตามหลังคาบ้านเรือนประชาชนโดยไม่ต้องมีแบตเตอรี่ ซึ่งมีต้นทุนต่ำเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) เพื่อลดการลงทุนผลิตไฟฟ้าของภาครัฐที่มีการลงทุนสูงเป็นแสนล้านบาท โดยหากมีการส่งเสริมให้ใช้จำนวนมากก็สามารถขายไฟฟ้ากลับเข้าสู่ระบบได้ โดยอาจจะรับซื้อในราคา 2 เท่า ซึ่งคำนวณแล้วยังถูกกว่าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผลิตเอง เหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่น และเยอรมนี ที่กำลังทำอยู่
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังอยากให้กระทรวงพลังงาน ศึกษาแนวทางที่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของประเทศเยอรมนี นำไฟฟ้าในช่วงเวลากลางคืนมาเก็บไว้ แล้วนำกลับมาขายเข้าสู่ระบบในเวลากลางวันมาใช้ เพราะจะสามารถลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวันได้ และลดการลงทุนได้จำนวนมาก จึงอยากให้กระทรวงพลังงาน ไปศึกษาอย่างจริงจัง ส่วนเรื่องที่มีการเสนอให้ลดภาษีสรรพสามิตนั้น ไม่ต้องเป็นห่วง สิ่งใดเป็นประโยชน์ต่อประเทศก็จะทำ สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น นอกจากการใช้ไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์แล้ว ขณะนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ร่วมกันหาแนวทางดึงไฟฟ้าจากจังหวัดเชียงใหม่ มาใช้ 450 กิโลวัตต์ ซึ่ง กฟภ.สามารถลงทุนได้อยู่แล้ว แต่ทุกวันนี้ยังติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมจึงต้องหาทางร่วมกัน
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า โรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์แห่งนี้ใหญ่ที่สุดในอินโดจีน สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 500 กิโลวัตต์ หรือ 700,000 หน่วยต่อปี ลดการใช้น้ำมันดีเซลได้ 215,385 ลิตรต่อปี ประหยัดค่าน้ำมันได้ประมาณ 2 ล้านบาท ใช้เงินลงทุนทั้งหมด 187.11 ล้านบาท โดยเป็นงบจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 163.36 ล้านบาท กฟผ.ออกเอง 23.75 ล้านบาท โดยต้นทุนการผลิต 13.35 บาทต่อหน่วย แต่ขายให้ประชาชนเฉลี่ยในราคา 1.70 บาทต่อหน่วย กฟผ.รับภาระส่วนต่างประมาณ 30 ล้านบาท และ กฟผ. ประมาณ 20-30 ล้านบาท โดย กฟผ.กำลังมีโครงการที่จะสร้างโรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์อีก 1 แห่ง ที่แม่ฮ่องสอน ขนาด 1,700 กิโลวัตต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท ทั้งนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีความต้องการใช้ไฟฟ้า 14.62 เมกะวัตต์ หรือ 73.4 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2545 ประมาณร้อยละ 6 เนื่องจากมีการขยายตัวทางด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจึงต้องเตรียมกำลังการผลิตไฟฟ้าไว้รองรับ เพราะไม่สามารถปักเสาพาดสายส่งไฟฟ้ามาได้ เพราะติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ผ่านป่าอนุรักษ์
นายดุสิต เครืองาม อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หากจะให้โครงการโซลาร์เซลล์สำเร็จเหมือนที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ทางรัฐบาลก็ควรจะหาทางลดภาษีเงินได้ สำหรับประชาชนที่ติดโซลาร์เซลล์หลังคาบ้าน และให้ กฟภ.ซื้อไฟฟ้ากลับในอัตราที่สูง แนวทางนี้จะทำให้ชาวบ้านสนใจติดโซลาร์เซล ที่มีต้นทุนสูงถึงประมาณ 400,000 บาทต่อหลัง แต่จะมีผลดีในแง่ที่ประเทศไม่ต้องสร้างโรงไฟ้าเพิ่มขึ้นในอัตราสูง ลดการนำเข้าเชื้อเพลิงที่มีราคาแพง หากส่งเสริมด้วยแนวทางนี้ คาดว่าใน 10 ปี น่าจะมีประชาชนร่วมผลิตถึง 200,000 หลัง ลดการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ได้ 200 เมกะวัตต์