"แจ็คแอนด์จิล" ดิ้นปรับตัวหนักหลังกำไรเซกเมนต์ลูกอมหดเกือบครึ่ง ฮึดชูฟังก์ชันนัลทวงแชร์ตลาดลูกอม15%พร้อมผงาดขึ้นแท่นเบอร์สองของตลาดอีก 3 ปี ประเดิมปูพรมเอ็กซ์.โอ.สูตรบลูมินต์ เป็นฟังก์ชั่นนัลช่วยลมหายใจหอม สดชื่นท้าชนคลอเร็ท ทุ่มงบตลาด 20 ล้านบาทภายใน 2 เดือน ลุยจัดกิจกรรมเต็มสูบพร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ชมพู่-อารยา เอฮาร์เก็ต หวังดูแชร์อีก 5-7% สิ้นปีแชร์เพิ่ม 10%
นายเปรมชัย นวาระสุจิตร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยว เวเฟอร์ บิสกิต ลูกอมและช็อกโกแลต ภายใต้ตราสินค้า แจ็ค แอนด์ จิล เปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสินค้าในเซกเมนต์ลูกอมของบริษัททั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่ เอ็กซ์.โอ.ไดนาไมท์ และลัช มีสัดส่วนยอดขายที่ลดลงจาก 50 %เหลือเพียง 30% และมีส่วนแบ่งการตลาดลดลงจาก15%เหลือเพียง 7-8%จากมูลค่าตลาดรวม 2,800 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรของบริษัทที่เคยมีราวเฉลี่ย 6-7% ลดลงเหลือ 3%
ทั้งนี้สาเหตุที่ยอดขายเซกเมนต์ลูกอมทั้ง 3 แบรนด์ของบริษัทลดลง เนื่องจากที่ผ่านมาลูกอมทั้งสามแบรนด์ของบริษัทวางตำแหน่งการขายเป็นอีมัลชันนัลหรือแฟชันมากกว่าการวางตำแหน่งฟังก์ชั่นนัลหรือความมีประโยชน์ของตัวลูกอม ซึ่งแนวโน้มตลาดดังกล่าวกำลังมาแรงและมีอัตราการเติบโต10% จากมูลค่าตลาด1,400 ล้านบาท โดยที่ผ่านมามีเพียงค่ายอดัมส์เท่านั้นที่วางตำแหน่งลูกอมในเรื่องของความมีประโยชน์ คือ ฮอลล์ ชูให้ความชุ่มชื่นคอ และล่าสุดคลอเร็ท ชูการมีลมหายใจที่สดชื่น
สำหรับแผนการทำตลาดลูกอม ในปีนี้บริษัทจะทยอยปรับตำแหน่งลูกอมสู่ฟังก์ชั่นนัลของทั้งสามแบรนด์ให้มากขึ้น ขณะที่ความเป็นอีมัลชั่นนัลหรือแฟชั่นนั้นยังคงอยู่แต่จะปรับลดลงบ้าง เนื่องจากบริษัทต้องการให้มีทั้งสองขาที่ทำตลาดลูกอม โดยล่าสุดบริษัทประเดิมเปิดตัวลูกอมเอ็กซ์โอ สูตรบลูมินต์ พร้อมกับชูตำแหน่งทางการตลาดด้านฟังก์ชั่นนัล ในเรื่องช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น โดยนำจุดเด่นบูสเตอร์บีดส์ เกล็ดสีน้ำเงินในเม็ดลูกอมที่ช่วยให้ความหอม เย็น ตั้งแต่แรกอมจนหมดเม็ด โดยจำหน่ายราคา 2 เม็ด 1 บาท เน้นจับกลุ่มเป้าหมายหญิงชายอายุ 15-25 ปี เป็นตลาดหลัก
"เป้าหมายการทำตลาดในครั้งนี้บริษัทตั้งป้อมที่จะชนกับคลอเร็ท โดยวางตำแหน่งทางการตลาดใกล้เคียงกันมาก และคาดว่ารสชาติใหม่จะช่วยผลักดันให้เอ็กซ์.โอ.มีส่วนแบ่งเพิ่ม 5-7%จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง10% หลังจากเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทเคยมีส่วนแบ่งถึง 15% นอกจากนี้ยังตั้งเป้าว่าบลูมินต์จะเป็นส่วนผลักดันให้ส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมของบริษัทซึ่งปัจจุบันมี 8%เพิ่มขึ้นเป็น 15 % โดยเป็นอันดับสองของตลาดภายใน 2-3 ปี ขณะที่ผู้นำตลาดเป็นฮอลล์มีส่วนแบ่ง 25%และอันดับสองถึงสี่จะใกล้เคียงกัน ฮาร์บีท โทปิโก คอลเร็ท มีส่วนแบ่ง 7-8%"
กลยุทธ์ทางการตลาดในช่วงแรก บริษัทได้ทุ่มงบ 20 ล้านบาท ในช่วงเวลา 2 เดือน โดยจะเน้นการสร้างสินค้ารสชาติใหม่ให้เป็นที่รู้จักก่อนในขั้นต้น ผ่านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองซื้อ โดยล่าสุดบริษัทได้ดึงชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยนำจุดเด่นของพรีเซ็นเตอร์มาสื่อสารถึงความสะอาด ลมหายใจสดชื่น ผสมกับความเซ็กซี่เล็กๆของพรีเซ็นเตอร์ชนกับติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี พรีเซ็นเตอร์คลอเร็ท พร้อมกันนี้ยังได้แจกสินค้าตัวอย่าง 2 ล้านเม็ด รวมทั้งเตรียมวางแผนกระจายสินค้าไปยังร้านค้าทั่วประเทศภายใน 2 เดือน
แนวโน้มตลาดลูกอมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่มีอัตราการเติบโต เนื่องจากไม่มีการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด โดยมีแต่การออกรสชาติใหม่ ประกอบกับการแข่งขันมีความรุนแรง ทำให้ผู้ประกอบการพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดของตนเองด้วยการทำโปรโมชัน อย่างไรก็ตามการแข่งขันระหว่างคอลเร็ทและเอ็กซ์.โอ.ถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เนื่องจากคลอเร็ทมีจุดแข็งในทุกๆด้าน ประกอบกับความภักดีของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์มีสูงมาก เพราะที่ผ่านมาคลอเร็ทเป็นแบรนด์แรกที่วางตำแหน่งในเรื่องของลมหายใจสดชื่น อย่างไรก็ตามบริษัทจะใช้สื่อโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งครั้งนี้ถือว่าบริษัทลงทุนโฆษณาค่อนมาก แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งเองใช้งบโฆษณาถึง 30-40 ล้านบาทต่อรอบ
นายสมนึก เปล่งสุริยการ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นอกจากบริษัทจะรุกทำตลาดลูกอมแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับตลาดบิสกิตและเวเฟอร์ด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังพัฒนาสินค้าแครกเกอร์และคาดว่าจะออกสินค้าสู่ตลาดในปีหน้านี้ ทั้งนี้เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 23%ในตลาดบิสกิตมูลค่า 2,200 ล้านบาท จากการมีผลิตภัณฑ์ครีมโอและฟันโอ สำหรับเป้ายอดขาย คาดว่าปีนี้จะเติบโตขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือมียอดขายทั้งสิ้น 1,900 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขาย ลูกอม 20% บิสกิต 30% เวเฟอร์ 20% และที่เหลือเป็นยอดขายจากขนมขบเคี้ยวและช็อกโกแลต
นายเปรมชัย นวาระสุจิตร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยว เวเฟอร์ บิสกิต ลูกอมและช็อกโกแลต ภายใต้ตราสินค้า แจ็ค แอนด์ จิล เปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสินค้าในเซกเมนต์ลูกอมของบริษัททั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่ เอ็กซ์.โอ.ไดนาไมท์ และลัช มีสัดส่วนยอดขายที่ลดลงจาก 50 %เหลือเพียง 30% และมีส่วนแบ่งการตลาดลดลงจาก15%เหลือเพียง 7-8%จากมูลค่าตลาดรวม 2,800 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรของบริษัทที่เคยมีราวเฉลี่ย 6-7% ลดลงเหลือ 3%
ทั้งนี้สาเหตุที่ยอดขายเซกเมนต์ลูกอมทั้ง 3 แบรนด์ของบริษัทลดลง เนื่องจากที่ผ่านมาลูกอมทั้งสามแบรนด์ของบริษัทวางตำแหน่งการขายเป็นอีมัลชันนัลหรือแฟชันมากกว่าการวางตำแหน่งฟังก์ชั่นนัลหรือความมีประโยชน์ของตัวลูกอม ซึ่งแนวโน้มตลาดดังกล่าวกำลังมาแรงและมีอัตราการเติบโต10% จากมูลค่าตลาด1,400 ล้านบาท โดยที่ผ่านมามีเพียงค่ายอดัมส์เท่านั้นที่วางตำแหน่งลูกอมในเรื่องของความมีประโยชน์ คือ ฮอลล์ ชูให้ความชุ่มชื่นคอ และล่าสุดคลอเร็ท ชูการมีลมหายใจที่สดชื่น
สำหรับแผนการทำตลาดลูกอม ในปีนี้บริษัทจะทยอยปรับตำแหน่งลูกอมสู่ฟังก์ชั่นนัลของทั้งสามแบรนด์ให้มากขึ้น ขณะที่ความเป็นอีมัลชั่นนัลหรือแฟชั่นนั้นยังคงอยู่แต่จะปรับลดลงบ้าง เนื่องจากบริษัทต้องการให้มีทั้งสองขาที่ทำตลาดลูกอม โดยล่าสุดบริษัทประเดิมเปิดตัวลูกอมเอ็กซ์โอ สูตรบลูมินต์ พร้อมกับชูตำแหน่งทางการตลาดด้านฟังก์ชั่นนัล ในเรื่องช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น โดยนำจุดเด่นบูสเตอร์บีดส์ เกล็ดสีน้ำเงินในเม็ดลูกอมที่ช่วยให้ความหอม เย็น ตั้งแต่แรกอมจนหมดเม็ด โดยจำหน่ายราคา 2 เม็ด 1 บาท เน้นจับกลุ่มเป้าหมายหญิงชายอายุ 15-25 ปี เป็นตลาดหลัก
"เป้าหมายการทำตลาดในครั้งนี้บริษัทตั้งป้อมที่จะชนกับคลอเร็ท โดยวางตำแหน่งทางการตลาดใกล้เคียงกันมาก และคาดว่ารสชาติใหม่จะช่วยผลักดันให้เอ็กซ์.โอ.มีส่วนแบ่งเพิ่ม 5-7%จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง10% หลังจากเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทเคยมีส่วนแบ่งถึง 15% นอกจากนี้ยังตั้งเป้าว่าบลูมินต์จะเป็นส่วนผลักดันให้ส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมของบริษัทซึ่งปัจจุบันมี 8%เพิ่มขึ้นเป็น 15 % โดยเป็นอันดับสองของตลาดภายใน 2-3 ปี ขณะที่ผู้นำตลาดเป็นฮอลล์มีส่วนแบ่ง 25%และอันดับสองถึงสี่จะใกล้เคียงกัน ฮาร์บีท โทปิโก คอลเร็ท มีส่วนแบ่ง 7-8%"
กลยุทธ์ทางการตลาดในช่วงแรก บริษัทได้ทุ่มงบ 20 ล้านบาท ในช่วงเวลา 2 เดือน โดยจะเน้นการสร้างสินค้ารสชาติใหม่ให้เป็นที่รู้จักก่อนในขั้นต้น ผ่านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองซื้อ โดยล่าสุดบริษัทได้ดึงชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยนำจุดเด่นของพรีเซ็นเตอร์มาสื่อสารถึงความสะอาด ลมหายใจสดชื่น ผสมกับความเซ็กซี่เล็กๆของพรีเซ็นเตอร์ชนกับติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี พรีเซ็นเตอร์คลอเร็ท พร้อมกันนี้ยังได้แจกสินค้าตัวอย่าง 2 ล้านเม็ด รวมทั้งเตรียมวางแผนกระจายสินค้าไปยังร้านค้าทั่วประเทศภายใน 2 เดือน
แนวโน้มตลาดลูกอมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่มีอัตราการเติบโต เนื่องจากไม่มีการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด โดยมีแต่การออกรสชาติใหม่ ประกอบกับการแข่งขันมีความรุนแรง ทำให้ผู้ประกอบการพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดของตนเองด้วยการทำโปรโมชัน อย่างไรก็ตามการแข่งขันระหว่างคอลเร็ทและเอ็กซ์.โอ.ถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เนื่องจากคลอเร็ทมีจุดแข็งในทุกๆด้าน ประกอบกับความภักดีของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์มีสูงมาก เพราะที่ผ่านมาคลอเร็ทเป็นแบรนด์แรกที่วางตำแหน่งในเรื่องของลมหายใจสดชื่น อย่างไรก็ตามบริษัทจะใช้สื่อโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งครั้งนี้ถือว่าบริษัทลงทุนโฆษณาค่อนมาก แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งเองใช้งบโฆษณาถึง 30-40 ล้านบาทต่อรอบ
นายสมนึก เปล่งสุริยการ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นอกจากบริษัทจะรุกทำตลาดลูกอมแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับตลาดบิสกิตและเวเฟอร์ด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังพัฒนาสินค้าแครกเกอร์และคาดว่าจะออกสินค้าสู่ตลาดในปีหน้านี้ ทั้งนี้เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 23%ในตลาดบิสกิตมูลค่า 2,200 ล้านบาท จากการมีผลิตภัณฑ์ครีมโอและฟันโอ สำหรับเป้ายอดขาย คาดว่าปีนี้จะเติบโตขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือมียอดขายทั้งสิ้น 1,900 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขาย ลูกอม 20% บิสกิต 30% เวเฟอร์ 20% และที่เหลือเป็นยอดขายจากขนมขบเคี้ยวและช็อกโกแลต