บอสใหญ่มีเดีย ออฟ มีเดียส์ เผยไต๋ส่งเรื่องของเป็นผู้ร่วมผลิตรายการไปยังช่อง 11 รวดเดียว 2 ช่องรายการ ทั้ง ช่องสุขภาพและช่องที่บอกเรื่องราวของความเป็นไทย ล่าสุดกรณีผังช่อง 5 ยังเงียบ วอนขอความเป็นธรรม ให้ประชาชนตัดสิน
นางยุวดี บุญครอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนการทำงานของบริษัทไม่ได้หยุดแค่การเป็นผู้ผลิตรายการป้อนสถานีโทรทัศน์ ซึ่งขณะนี้ได้ยื่นขอทำสถานีโทรทัศน์กับกรมประชาสัมพันธ์ในลักษณะผู้ร่วมผลิตรายการ โดยยื่นเอกสารแสดงความสนใจ 2 ช่อง คือ 1.ช่องสุขภาพ
และ 2.ช่องที่จะนำเสนอในเรื่องของความเป็นไทย ซึ่งจะออกอากาศทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านช่อง 11 เช่นกัน ซึ่งขณะนี้คาดว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ อาจมีการล่าช้าบ้างเพราะช่วงนี้ผู้ที่ร่วมผลิตรายการกับช่อง 11 ก็กำลังตกเป็นข่าวและเพิ่งคลี่คลายทำความเข้าใจกันได้
แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้ผลิตรายการป้อนให้สถานีโทรทัศน์ช่องใด ก็คงไม่กระเทือนรายได้ของบริษัทมากนัก เพราะแผนที่ทำไว้ เราจะมีรายได้จากหลายทางในหลายรูปแบบ เช่นธุรกิจ มีเดีย โฮม
เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เพื่อผลิตรายการและภาพยนตร์ผ่านแผ่นซีดี และวีซีดี นอกจากนั้นเราก็สนใจสื่อสิ่งพิมพ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา
สำหรับผังรายการใหม่ ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 จนถึงวันนี้ ยังไม่มีฝ่ายใดของช่อง 5 เรียกไปพูดคุย หรือเซ็นสัญญาอะไรทั้งสิ้น ซึ่งในความเห็นส่วนตัวแล้ว การปรับผังรายการของโทรทัศน์ทุกสถานีเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติ คือ ในครั้งนี้ผู้บริหารสถานีช่อง 5 ไม่เรียกผู้จัดรายการเข้าไปชี้แจงเลย ขณะเดียวกันรายการที่นี่ประเทศไทยก็เป็นรายการที่คนดูชื่นชอบ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้จะมีเรตติ้งไม่เท่าละครหลังข่าว แต่ก็ได้ใจประชาชนทุกคน
ดังนั้นการที่ช่อง 5 จะตัดรายการที่นี่ประเทศไทยออกจากผังก็ไม่ว่ากัน แต่ต้องชี้แจงถึงเหตุผลที่สมควร หลายรายการของบริษัท ก็ถูกตัดออกจากผังรายการ อย่างล่าสุด ที่ช่อง 9 ปรับคอนเซ็ปต์เป็นสถานีหุ้น รายการของมีเดียก็ถูกปรับออกโดยได้รับฟังเหตุผลที่ชัดเจนและหากจะต้องถูกตัดรายการออกจริงๆ ก็จะไม่นำรายการนี้ย้ายสถานี หรือย้ายเวลา เพราะการทำรายการแต่ละครั้งเรามีการสำรวจผู้บริโภค ซึ่งเวลานี้และสถานีนี้เหมาะที่สุดแล้ว แต่ในส่วนของพนักงานราว 30 ชีวิตที่ต้องตกงาน คงต้องร้องขอความเป็นธรรม และถามสังคมต่อไปว่าเราผิดอะไร
อย่างไรก็ตามในอนาคตเชื่อว่าธุรกิจเคเบิ้ล จะใหญ่กว่าธุรกิจทีวี ซึ่งในต่างประเทศก็เป็นเช่นนี้ ซึ่งบริษัทได้เตรียมตัวในเรื่องนี้ไว้แล้ว และหากไม่มีรายการทีวีให้ทำ ก็จะผลิตรายการและผลิตภาพยนตร์ป้อนไปในเส้นทางอื่นๆได้แต่ที่ต้องขึ้นมาเรียกร้องและเป็นข่าว ก็เพราะแค่ต้องการคำชี้แจงอย่างมีเหตุผล และต้องการสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม เพราะเรากล้าที่จะพูดว่า เป็นบริษัทเดียวที่ทำรายการบันเทิงอย่างมีสาระ ที่ไม่ใช่เกมโชว์ซึ่งถือเป็นอีกตลาดหนึ่งที่มีลูกค้าชัดเจน
นางยุวดี บุญครอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนการทำงานของบริษัทไม่ได้หยุดแค่การเป็นผู้ผลิตรายการป้อนสถานีโทรทัศน์ ซึ่งขณะนี้ได้ยื่นขอทำสถานีโทรทัศน์กับกรมประชาสัมพันธ์ในลักษณะผู้ร่วมผลิตรายการ โดยยื่นเอกสารแสดงความสนใจ 2 ช่อง คือ 1.ช่องสุขภาพ
และ 2.ช่องที่จะนำเสนอในเรื่องของความเป็นไทย ซึ่งจะออกอากาศทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านช่อง 11 เช่นกัน ซึ่งขณะนี้คาดว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ อาจมีการล่าช้าบ้างเพราะช่วงนี้ผู้ที่ร่วมผลิตรายการกับช่อง 11 ก็กำลังตกเป็นข่าวและเพิ่งคลี่คลายทำความเข้าใจกันได้
แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้ผลิตรายการป้อนให้สถานีโทรทัศน์ช่องใด ก็คงไม่กระเทือนรายได้ของบริษัทมากนัก เพราะแผนที่ทำไว้ เราจะมีรายได้จากหลายทางในหลายรูปแบบ เช่นธุรกิจ มีเดีย โฮม
เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เพื่อผลิตรายการและภาพยนตร์ผ่านแผ่นซีดี และวีซีดี นอกจากนั้นเราก็สนใจสื่อสิ่งพิมพ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา
สำหรับผังรายการใหม่ ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 จนถึงวันนี้ ยังไม่มีฝ่ายใดของช่อง 5 เรียกไปพูดคุย หรือเซ็นสัญญาอะไรทั้งสิ้น ซึ่งในความเห็นส่วนตัวแล้ว การปรับผังรายการของโทรทัศน์ทุกสถานีเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติ คือ ในครั้งนี้ผู้บริหารสถานีช่อง 5 ไม่เรียกผู้จัดรายการเข้าไปชี้แจงเลย ขณะเดียวกันรายการที่นี่ประเทศไทยก็เป็นรายการที่คนดูชื่นชอบ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้จะมีเรตติ้งไม่เท่าละครหลังข่าว แต่ก็ได้ใจประชาชนทุกคน
ดังนั้นการที่ช่อง 5 จะตัดรายการที่นี่ประเทศไทยออกจากผังก็ไม่ว่ากัน แต่ต้องชี้แจงถึงเหตุผลที่สมควร หลายรายการของบริษัท ก็ถูกตัดออกจากผังรายการ อย่างล่าสุด ที่ช่อง 9 ปรับคอนเซ็ปต์เป็นสถานีหุ้น รายการของมีเดียก็ถูกปรับออกโดยได้รับฟังเหตุผลที่ชัดเจนและหากจะต้องถูกตัดรายการออกจริงๆ ก็จะไม่นำรายการนี้ย้ายสถานี หรือย้ายเวลา เพราะการทำรายการแต่ละครั้งเรามีการสำรวจผู้บริโภค ซึ่งเวลานี้และสถานีนี้เหมาะที่สุดแล้ว แต่ในส่วนของพนักงานราว 30 ชีวิตที่ต้องตกงาน คงต้องร้องขอความเป็นธรรม และถามสังคมต่อไปว่าเราผิดอะไร
อย่างไรก็ตามในอนาคตเชื่อว่าธุรกิจเคเบิ้ล จะใหญ่กว่าธุรกิจทีวี ซึ่งในต่างประเทศก็เป็นเช่นนี้ ซึ่งบริษัทได้เตรียมตัวในเรื่องนี้ไว้แล้ว และหากไม่มีรายการทีวีให้ทำ ก็จะผลิตรายการและผลิตภาพยนตร์ป้อนไปในเส้นทางอื่นๆได้แต่ที่ต้องขึ้นมาเรียกร้องและเป็นข่าว ก็เพราะแค่ต้องการคำชี้แจงอย่างมีเหตุผล และต้องการสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม เพราะเรากล้าที่จะพูดว่า เป็นบริษัทเดียวที่ทำรายการบันเทิงอย่างมีสาระ ที่ไม่ใช่เกมโชว์ซึ่งถือเป็นอีกตลาดหนึ่งที่มีลูกค้าชัดเจน