กรมพัฒนาที่ดินเดินหน้าส่งเสริมการใช้สารเร่งหญ้าแฝก ปุ๋ยพืชสด และสารเร่ง พด.1-พด.7 ตั้งเป้าปี 48 ครอบคลุม 4 ล้านครัวเรือน พร้อมโชว์ผลงานปี 2547 มีเกษตรกรนำไปใช้แล้วได้ผลดีกว่า 1.5 ล้านครัวเรือน ช่วยเพิ่มรายได้กว่า 14,000 บาทต่อปี
นายอรรถ สมร่าง อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า จากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยชีวภาพและกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาคุณภาพของดินไม่ให้เสื่อมโทรมนั้น กรมพัฒนาที่ดินจึงได้การผลิตสารเร่งจุลินทรีย์ พด.1–พด.7 รวมทั้งการใช้ปุ๋ยพืชสด หญ้าแฝก และสารปรับปรุงดิน พด.4 เพื่อรณรงค์ ส่งเสริม และแนะนำให้เกษตรกรนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ จุลินทรีย์ควบคุมโรครากเน่าและโคนเน่าของพืช สารกำจัดวัชพืช และสารป้องกันแมลงศัตรูพืชเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน และลดการใช้สารเคมีและปุ๋ยเคมี โดยแจกจ่ายให้กับเกษตรกรผ่านเครือข่ายหมอดินอาสาไปแล้วประมาณ 3.35 ล้านซอง และจากการสำรวจประเมินเบื้องต้น พบว่ามีเกษตรกรนำผลิตภัณฑ์สารเร่ง พด.ไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่เกษตรกรรมแล้ว 1.5 ล้านครัวเรือน เนื้อที่ประมาณ 15 ล้านไร่ และได้ช่วยทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ยถึงครอบครัวละ 14,853 บาทต่อปี
นายอรรถ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปี 2548 นี้กรมพัฒนาที่ดินตั้งเป้าจะเร่งผลิตและแจกจ่ายสารเร่งทั้ง 7 ชนิด ให้กับเกษตรกร 4 ล้านครัวเรือน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพของดินที่เสื่อมโทรมให้กลับมามีคุณภาพ สามารถทำการเพาะปลูกได้ผลผลิตที่ดีขึ้น และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกรมฯ ในการพัฒนาเพิ่มผลผลิตร้อยละ 10 ลดค่าใช้จ่ายร้อยละ 10 และลดการใช้สารเคมีร้อยละ 30 และสนับสนุนนโยบายอาหารปลอดภัยของรัฐบาลด้วย
“ในแต่ละปีไทยมีการนำเข้าปุ๋ยเคมีมากถึง 3.48 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท และผลการทำเกษตรกรรมโดยใช้เสารมีและปุ๋ยเคมีอย่างไม่ถูกต้องก็ได้สร้างผลกระทบต่อดินและน้ำ รวมถึงสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มากมาย กรมพัฒนาที่ดินจึงได้จัดทำยุทธศาสตร์การใช้ปุ๋ยอินทรีย์และผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพโดยในปี 2548 ตั้งเป้าจะแจกให้กับเกษตรกรทั้งสิ้น 4 ล้านครัวเรือน” อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าว
นายอรรถ สมร่าง อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า จากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยชีวภาพและกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาคุณภาพของดินไม่ให้เสื่อมโทรมนั้น กรมพัฒนาที่ดินจึงได้การผลิตสารเร่งจุลินทรีย์ พด.1–พด.7 รวมทั้งการใช้ปุ๋ยพืชสด หญ้าแฝก และสารปรับปรุงดิน พด.4 เพื่อรณรงค์ ส่งเสริม และแนะนำให้เกษตรกรนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ จุลินทรีย์ควบคุมโรครากเน่าและโคนเน่าของพืช สารกำจัดวัชพืช และสารป้องกันแมลงศัตรูพืชเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน และลดการใช้สารเคมีและปุ๋ยเคมี โดยแจกจ่ายให้กับเกษตรกรผ่านเครือข่ายหมอดินอาสาไปแล้วประมาณ 3.35 ล้านซอง และจากการสำรวจประเมินเบื้องต้น พบว่ามีเกษตรกรนำผลิตภัณฑ์สารเร่ง พด.ไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่เกษตรกรรมแล้ว 1.5 ล้านครัวเรือน เนื้อที่ประมาณ 15 ล้านไร่ และได้ช่วยทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ยถึงครอบครัวละ 14,853 บาทต่อปี
นายอรรถ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปี 2548 นี้กรมพัฒนาที่ดินตั้งเป้าจะเร่งผลิตและแจกจ่ายสารเร่งทั้ง 7 ชนิด ให้กับเกษตรกร 4 ล้านครัวเรือน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพของดินที่เสื่อมโทรมให้กลับมามีคุณภาพ สามารถทำการเพาะปลูกได้ผลผลิตที่ดีขึ้น และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกรมฯ ในการพัฒนาเพิ่มผลผลิตร้อยละ 10 ลดค่าใช้จ่ายร้อยละ 10 และลดการใช้สารเคมีร้อยละ 30 และสนับสนุนนโยบายอาหารปลอดภัยของรัฐบาลด้วย
“ในแต่ละปีไทยมีการนำเข้าปุ๋ยเคมีมากถึง 3.48 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท และผลการทำเกษตรกรรมโดยใช้เสารมีและปุ๋ยเคมีอย่างไม่ถูกต้องก็ได้สร้างผลกระทบต่อดินและน้ำ รวมถึงสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มากมาย กรมพัฒนาที่ดินจึงได้จัดทำยุทธศาสตร์การใช้ปุ๋ยอินทรีย์และผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพโดยในปี 2548 ตั้งเป้าจะแจกให้กับเกษตรกรทั้งสิ้น 4 ล้านครัวเรือน” อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าว