รมว.เกษตรเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่ง 4โครงการสำคัญให้เป็นรูปธรรมก่อนการเลือกตั้งใหญ่ปี 48 โดย 1 ใน 4 โครงการถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะต้องแก้เงื่อนไขรายละเอียด เพื่อให้เดินหน้าได้เร็วขึ้น
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้แทนจากกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าได้ให้แต่ละหน่วยงานตั้งข้อสังเกตรวมทั้งข้อเสนอแนะต่อ 4 โครงการสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ ที่ต้องเร่งนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาจากคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ดำเนินการได้ทันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในปี 2548 ประกอบด้วย โครงการสนับสนุนการเลี้ยงโคเนื้อ จำนวน 1 ล้านตัว โครงการพัฒนาประมงทะเลน้ำลึก โครงการบริษัทผลิตพ่อ-แม่ พันธุ์กุ้งกุลาดำ และโครงการขุดสระน้ำขนาดเล็กในไร่นาของเกษตรกร จำนวน 450,000 สระ ในระยะเวลา 4 ปี โดยใน 3 โครงการแรก จะดำเนินการจัดตั้งในลักษณะบริษัทร่วมทุน
อย่างไรก็ตาม ในประชุมได้ตั้งข้อสังเกตต่อโครงการสนับสนุนการเลี้ยงโคเนื้อ จำนวน 1 ล้านตัว เนื่องจากหากงบประมาณลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท จะต้องให้มีการศึกษาโครงการตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมวิธีการแก้ไขปัญหา หากขัดต่อ พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยจะปรับลดงบประมาณการลงทุนให้ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และใช้วิธีการกู้เงินมาทดแทน
รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งว่า ในระหว่างการประชุมดังกล่าว ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แสดงความไม่เห็นด้วยต่อโครงการสนับสนุนการเลี้ยงโคเนื้อ จำนวน 1 ล้านตัว ที่จะให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรดำเนินการถือหุ้นร้อยละ 51 และให้กระทรวงการคลังถือหุ้นร้อยละ 49 เนื่องจากขัดต่อวัตถุประสงค์ของกองทุนฟื้นฟูฯ และจะต้องให้กฤษฎีกาตีความ แต่นายสมศักดิ์ เห็นว่าจะไม่ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว เพราะจะทำให้โครงการมีความล่าช้า ซึ่งจะส่งผลให้โครงการดังกล่าวดำเนินการไม่ทันก่อนการเลือกตั้ง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้แทนจากกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าได้ให้แต่ละหน่วยงานตั้งข้อสังเกตรวมทั้งข้อเสนอแนะต่อ 4 โครงการสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ ที่ต้องเร่งนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาจากคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ดำเนินการได้ทันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในปี 2548 ประกอบด้วย โครงการสนับสนุนการเลี้ยงโคเนื้อ จำนวน 1 ล้านตัว โครงการพัฒนาประมงทะเลน้ำลึก โครงการบริษัทผลิตพ่อ-แม่ พันธุ์กุ้งกุลาดำ และโครงการขุดสระน้ำขนาดเล็กในไร่นาของเกษตรกร จำนวน 450,000 สระ ในระยะเวลา 4 ปี โดยใน 3 โครงการแรก จะดำเนินการจัดตั้งในลักษณะบริษัทร่วมทุน
อย่างไรก็ตาม ในประชุมได้ตั้งข้อสังเกตต่อโครงการสนับสนุนการเลี้ยงโคเนื้อ จำนวน 1 ล้านตัว เนื่องจากหากงบประมาณลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท จะต้องให้มีการศึกษาโครงการตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมวิธีการแก้ไขปัญหา หากขัดต่อ พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยจะปรับลดงบประมาณการลงทุนให้ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และใช้วิธีการกู้เงินมาทดแทน
รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งว่า ในระหว่างการประชุมดังกล่าว ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แสดงความไม่เห็นด้วยต่อโครงการสนับสนุนการเลี้ยงโคเนื้อ จำนวน 1 ล้านตัว ที่จะให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรดำเนินการถือหุ้นร้อยละ 51 และให้กระทรวงการคลังถือหุ้นร้อยละ 49 เนื่องจากขัดต่อวัตถุประสงค์ของกองทุนฟื้นฟูฯ และจะต้องให้กฤษฎีกาตีความ แต่นายสมศักดิ์ เห็นว่าจะไม่ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว เพราะจะทำให้โครงการมีความล่าช้า ซึ่งจะส่งผลให้โครงการดังกล่าวดำเนินการไม่ทันก่อนการเลือกตั้ง