สหรัฐฯ และออสเตรเลียได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทออสเตรเลียหลายแห่ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงด้านแร่ธาตุสำคัญที่ครอบคลุมและมุ่งสกัดกั้นอิทธิพลของจีนที่มีต่ออุตสาหกรรมดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทเหล่านั้นดีดตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในวันนี้ (21 ต.ค.)
ภายใต้ข้อตกลงที่ลงนามโดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบานีส แห่งออสเตรเลีย ทั้งสองประเทศได้ให้คำมั่นที่จะลงทุนอย่างน้อย 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในแต่ละประเทศในช่วง 6 เดือนข้างหน้าในโครงการเหมืองแร่และการแปรรูป และกำหนดราคาขั้นต่ำสำหรับแร่ธาตุสำคัญ ซึ่งเป็นมาตรการที่ผู้ประกอบการเหมืองชาวตะวันตกเรียกร้องมาอย่างยาวนาน
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งสหรัฐอเมริกา (EXIM) ระบุว่า ได้ส่งหนังสือแสดงความสนใจ (LOI) จำนวน 7 ฉบับ มูลค่ารวมกว่า 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนโครงการแร่ธาตุสำคัญที่อิงกับสหรัฐฯ ในออสเตรเลีย
หนังสือแสดงความสนใจดังกล่าวถูกส่งไปยังบริษัท Arafura Rare Earths, Northern Minerals, Graphinex, Latrobe Magnesium, VHM, RZ Resources และ Sunrise Energy Metals
EXIM ระบุในคำแถลงว่า สิ่งเหล่านี้ถือเป็นก้าวใหม่ในการสร้างความมั่นคงด้านแร่ธาตุที่จะขับเคลื่อนการผลิต ความมั่นคงแห่งชาติ และอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์อื่นๆ ของสหรัฐฯ
ราคาหุ้นของ Arafura เพิ่มขึ้น 8% ในการซื้อขายช่วงเช้า ขณะที่ราคาหุ้นของ Northern Minerals, Latrobe Magnesium และ VHM เพิ่มขึ้น 11%, 15% และ 20% ตามลำดับ แม้ว่า Sunrise จะมีราคาซื้อขายลดลง เมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม ส่วน AXJO เพิ่มขึ้น 0.7%
ด้านรัฐบาลออสเตรเลียระบุว่า จะช่วยผลักดันแผนของบริษัท Alcoa ผู้ผลิตอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ ในการสร้างโรงงานแกลเลียมควบคู่ไปกับโรงกลั่นอะลูมินาในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งอาจผลิตแกลเลียมได้มากถึง 10% ของปริมาณการผลิตทั่วโลก
การประกาศดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของ Alcoa ที่จดทะเบียนในออสเตรเลียพุ่งสูงขึ้น 8%
แกลเลียมซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอะลูมินา เป็นแร่ธาตุสำคัญต่อเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และภาคการป้องกันประเทศ
ออสเตรเลียระบุในถ้อยแถลงว่าจะให้การสนับสนุนทางการเงินแบบผ่อนปรนมูลค่าสูงสุด 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการนี้ ซึ่งรวมถึงสิทธิในการซื้อหุ้นคืน (offtake rights) สำหรับรัฐบาลออสเตรเลีย ขณะที่สหรัฐฯ จะลงทุนในหุ้นพร้อมสิทธิในการซื้อหุ้นคืนเช่นกัน
เมื่แเดือน ส.ค. Alcoa ได้ลงนามข้อตกลงการพัฒนาร่วมกับ Japan Australia Gallium Associates (JAGA) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและ Sojitz Corp สำหรับโครงการนี้
บริษัทระบุว่า เมื่องานการศึกษาความเป็นไปได้เสร็จสิ้นแล้ว หน่วยงานเฉพาะกิจที่เป็นของรัฐบาลสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และ Alcoa คาดว่าจะร่วมทุนกับ JAGA เพื่อสร้างโรงงานที่ Alcoa จะเป็นผู้ดำเนินงาน
ที่มา: รอยเตอร์