ในบทความที่แสดงความคิดเห็นกับ "ไชนาเดลี" สื่อมวลชนจีน นายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ของกัมพูชา เน้นย้ำความภักดีของเขมรที่มีต่อจีน ขอบคุณปักกิ่งสำหรับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าที่แข็งแกร่ง พร้อมประกาศจะกระชับความร่วมมือต่างๆเพิ่มเติม ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นในขณะที่กัมพูชาดูเหมือนหันไปสานสัมพันธ์หวานชื่นกับสหรัฐฯ คู่ปรับของปักกิ่ง
บทความแสดงความคิดเห็นที่เขียนโดย "ฮุน มาเน็ต" และตีพิมพ์ลงบนเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ "ไชนาเดลี" เมื่อวันศุกร์(22ส.ค.) นายกรัฐมนตรีกัมพูชารายนี้บอกว่าเขาตระหนักถึงความสัมพันธ์พิเศษที่มีมาอย่างยาวนานระหว่าง 2 ชาติ ที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้พัฒนาสู่ความเป็นมิตรภาพอันแข็งแกร่ง
ทั้งนี้บทความนี้ถูกเขียนออกมา ในขณะที่กัมพูชาเมื่อเร็วๆนี้หันไปกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของอเมริกา ช่วยเป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย ในเรื่องความตึงเครียดตามแนวชายแดน ถึงขั้นที่กัมพูชาเสนอชื่อ ทรัมป์ สำหรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ท่ามกลางประชาชนชาวเขมรส่งเสียงสนับสนุนผู้นำสหรัฐฯมากขึ้นเรื่อยๆ ตามรางานของคิริโพสต์ สื่อมวลชนกัมพูชา ภาคภาษาอังกฤษ
ในบทความที่เขียนบน "ไชนาเดลี" ฮุน มาเน็ต เน้นย้ำถึงพันธมิตรสัญญาของกัมพูชาที่มีต่อจีน ในนั้นรวมถึงกรณีที่เขมรสนับสนุน "นโยบายจีนเดียว" เช่นเดียวกับหนุนหลังปักกิ่ง ในประเด็นอำนาจอธิปไตยในเรื่องเกี่ยวกับไต้หวัน, ฮ่องกง, ทิเบตและซินเจียง
เขายังพูดถึงความร่วมมือระหว่างจีนและกัมพูชาในขอบเขตต่างๆนานา ในนั้นรวมถึงทางการเมือง, เศรษฐกิจ, การค้า, การลงทุน, การท่องเที่ยว, การศึกษา, พลังงาน, กลาโหม และความมั่นคง นอกจากนี้แล้วยังได้ผลประโยชน์ร่วมกันผ่านโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative - BRI) ของจีน "ที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของเราอย่างน่าทึ่ง"
"ผลประโยชน์ของ BRI รวมไปถึงสนามบินนานาชาติเสียมเรียบอังกอร์, ทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ และเขตเศรษฐกิจพิเศษพระสีหนุ" เขาระบุ "ฝ่ายจีนสนับสนุนกัมพูชาในการพัฒนาโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการฟูนัน เตโช ภายใต้หลักการแห่งความเป็นไปได้และความยั่งยืน"
นอกจากนี้แล้ว ฮุนมาเน็ต ยังชี้ว่าข้อตกลงการค้าต่างๆนานาและการสถาปนาระเบียง "อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี' กับ "ประมงและข้าว" ได้ช่วยส่งเสริมการค้าและการผลิต ทั้ง 2 ประเทศกำลังทำงานเพื่อส่งเสริมการลงทุนในภาคเกิดใหม่ต่างๆ อย่างเช่นเศรษฐกิจดิจิทัลและนวัตกรรม เช่นเดียวกับการพัฒนาที่สะอาดและยั่งยืน" นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าว
ฮุน มาเน็ต กล่าวต่อยกย่องความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) และ ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน - จีน (ACFTA) พร้อมระบุทั้ง 2 ประเทศได้กำหนดในปี 2025 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว
"มองไปข้างหน้า กัมพูชายังคงมุ่งมั่นกระชับความร่วมมือกับจีนในทุกภาคส่วน ก่อผลประโยชน์ที่จับต้องได้กับทั้ง 2 ชาติ และส่งเสริมภูมิภาคที่มีบูรณาการ สันติภาพและความรุ่งเรือง มากกว่าเดิม" นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุ
สุดท้ายแล้ว ฮุน มาเน็ต รับปากว่าจะเดินหน้ามีส่วนร่วมในกรอบการทำงานองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้(SCO) ต่อไปในอนาคต "ในทางเศรษฐกิจแล้ว SCO เป็นตัวแทน 40% ของพลเมืองโลก และกว่า 20% ของจีดีพีโลก" จุดยืนนี้จะทำให้กัมพูชาได้ประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจทวิภาคีที่หลากหลายและเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการพัฒนาความร่วมมือกับจีนและคู่หูการค้าสำคัญๆอื่นๆ"
(ที่มา:คิริโพสต์)