การใช้เครื่องบินขับไล่ Gripen ของไทยในการรบจริงกับกัมพูชาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน อาจทำให้ความพยายามจัดซื้อล่าสุดของไทยต้องล้มเหลว เนื่องจากรัฐบาลสวีเดนอาจปฏิเสธที่จะรับรองข้อตกลงใหม่ ท่ามกลางมาตรการตรวจสอบควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดขึ้น
กระทรวงการต่างประเทศของสวีเดนก่อคลื่นกระแทกทางการทูตด้วยการปฏิเสธที่จะให้คำยืนยันต่อคำร้องขอล่าสุดของไทยในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Saab JAS-39C/D Gripen เพิ่มเติม หลังจากที่กองทัพอากาศไทยได้นำเครื่องบินของสวีเดนมาใช้ในการรบจริงเป็นครั้งแรกในระหว่างความขัดแย้งข้ามพรมแดนที่ตึงเครียดกับกัมพูชา
ในการให้ข้อมูลพิเศษกับเว็บไซต์ข่าวกลาโหม Breaking Defense มาเรีย มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ปฏิเสธที่จะกล่าวชัดเจนว่าจะอนุมัติคำสั่งซื้อของไทยหรือไม่ โดยระบุว่า "รัฐบาลกำลังติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนอย่างใกล้ชิด"
คำพูดดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่สตอกโฮล์มแสดงท่าทีปลีกตัวจากไทยซึ่งเป็นพันธมิตรด้านกลาโหมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนาน โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ไทยนำเครื่องบินรบเรือธงของสวีเดนไปใช้ในปฏิบัติการสงคราม
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ล่อแหลมเป็นพิเศษ โดยเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่ามีแผนที่จะจัดหาเครื่องบิน Gripen ชุดที่สอง เพื่อเสริมกำลังให้กับฝูงบินขับไล่ JAS-39C/D จำนวน 11 ลำที่ประจำการอยู่ที่กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี
มีรายงานว่าเครื่องบิน Gripen ของกองทัพอากาศไทยถูกนำไปใช้ในการรบโดยตรงเพื่อโจมตีเป้าหมายทางทหารของกัมพูชาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการนำเครื่องบิน Gripen ที่สร้างโดยสวีเดนมาใช้ในการรบจริงครั้งแรกของโลก
ความเคลื่อนไหวนี้กลายเป็นปัญหาอย่างยิ่งสำหรับสตอกโฮล์ม ซึ่งนโยบายการส่งออกอาวุธซึ่งบริหารโดยสำนักงานตรวจสอบผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ (ISP) ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดที่สุดในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ซื้อกำลังมีปฏิบัติการทางทหารอยู่
ภายใต้กฎหมายของสวีเดน ISP ซึ่งดำเนินงานภายใต้กระทรวงการต่างประเทศ จะต้องประเมินเสถียรภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ ประวัติสิทธิมนุษยชน และความตั้งใจในการดำเนินงานของประเทศผู้รับทั้งหมด ก่อนที่รัฐบาลจะออกใบอนุญาตส่งมอบอาวุธอย่างเป็นทางการได้
แม้ว่าจะยังไม่มีการออกคำสั่ง "ยับยั้ง" อย่างเป็นทางการ แต่การที่ สเตเนอร์การ์ด ปฏิเสธที่จะรับรองแผนการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ของไทย ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ข้อตกลงดังกล่าวอาจต้องถูกระงับลง อย่างน้อยก็จนกว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนจะคลี่คลายลง และสตอกโฮล์มจะประเมินบริบทเชิงยุทธศาสตร์ใหม่
เรื่องนี้ยิ่งฟังดูไม่ชัดเจนมากขึ้นไปอีก เมื่อโฆษกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พาล จอนสัน ของสวีเดน ระบุว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีต่างประเทศโดยสมบูรณ์ ซึ่งสะท้อนความพยายามเบนคำถามนี้ออกไปจากกระทรวงกลาโหม
กองทัพอากาศไทยยืนยันว่า เครื่องบินรบ Gripen ของตนถูกใช้ในปฏิบัติการเหนือพรมแดนกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลไทยอธิบายว่าเป็นการตอบสนองเชิงป้องกันอย่างจำกัดต่อภัยคุกคามทางทหารที่เพิ่มมากขึ้น
แม้ไทยจะยืนยันว่าทำตามกรอบของกฎหมาย แต่ผลกระทบต่อ Saab และจุดยืนในการส่งออกเชิงกลยุทธ์ของสวีเดนก็กำลังเกิดขึ้นจริง
Saab ได้ทำการตลาด Gripen มานานแล้วในฐานะเครืรองบินรบอเนกประสงค์ที่เชื่อถือได้และเป็นกลางทางการเมือง เหมาะสำหรับกองทัพอากาศขนาดเล็กที่แสวงหาเทคโนโลยีจากตะวันตกโดยไม่เกี่ยวข้องกับนาโต
ที่มา: Defence Security Asia